ใครฝันอยากไปเรียนต่อที่อเมริกา เตรียมตัวให้พร้อม! กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งเข้มงวด ตรวจสอบโซเชียลมีเดียของผู้สมัครวีซ่านักเรียนทุกคน และสั่งให้เปิดโปรไฟล์เป็นสาธารณะด้วยนะ งานนี้อเมริกาเขาเน้นเรื่องความมั่นคงของชาติเป็นหลัก เลยต้องเพิ่มมาตรการจำกัดชาวต่างชาติที่จะเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่กงสุลจะคอยสแกนบัญชีโซเชียลมีเดียอย่างละเอียด เพื่อหาเบาะแสที่บ่งบอกถึง “ความเป็นปฏิปักษ์” ต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะเลยล่ะ นักเรียนต่างชาติและผู้ที่มาขอวีซ่าแลกเปลี่ยน จะถูกขอให้ตั้งค่าโปรไฟล์เป็นสาธารณะ และกระทรวงฯ บอกว่าถ้าไม่ทำล่ะก็ มีสิทธิ์โดนหมายหัวเลยนะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่านโยบายใหม่นี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ที่มาเยือนสหรัฐฯ ได้รับการประเมินอย่างถูกต้อง และชาวอเมริกันก็คาดหวังให้มีการพยายามปกป้องประเทศแบบนี้แหละ
ข่าวนี้ออกมาหลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โค รูบิโอ สั่งให้สถานทูตทั่วโลกหยุดนัดสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนไปหลายสัปดาห์ เพราะรัฐบาลกำลังพิจารณาแนวทางที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียนั่นเอง
นโยบายใหม่นี้ยิ่งทำให้กระบวนการขอวีซ่านักเรียนของชาวต่างชาติเข้มข้นขึ้นไปอีก จากเดิมที่ก็เข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งเรื่องการพิสูจน์ผลการเรียน ความสามารถทางการเงิน และความตั้งใจที่จะกลับประเทศหลังจากเรียนจบ
จริง ๆ แล้ว นักเรียนต่างชาติคิดเป็น 5.9% ของนักศึกษาทั้งหมดเกือบ 19 ล้านคนในอเมริกาเลยนะ และส่วนใหญ่ก็จ่ายค่าเทอมเต็มจำนวน ซึ่งช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายและทำให้มหาวิทยาลัยสามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่นักเรียนอเมริกันได้มากขึ้นด้วย
มาตรการปราบปรามการเข้าเมืองที่กว้างขึ้นของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ลามมาถึงรั้วมหาวิทยาลัยด้วย อย่างคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าสหรัฐฯ เพื่อศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งตอนนี้ผู้พิพากษาได้บล็อกคำสั่งนี้ชั่วคราวแล้ว
แต่ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ก็ตกลงที่จะผ่อนปรนมาตรการเข้มงวดเรื่องวีซ่านักเรียนจีน ที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางการค้ากับจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รูบิโอเคยส่งสัญญาณเรื่องการจำกัดวีซ่าเพิ่มเติมตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากการจับกุมนักศึกษาปริญญาเอกของ Tufts University นักศึกษาคนนั้นคือ รูเมย์ซา ออซเตอร์ก ซึ่งช่วยเขียนบทความแสดงความสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ และต่อมาได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดีที่จะถูกเนรเทศออกนอกประเทศ
“ถ้าคุณยื่นขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ เพื่อเป็นนักเรียน และคุณบอกเราว่าเหตุผลที่คุณมาสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่เพราะคุณอยากเขียนบทความแสดงความคิดเห็น แต่เป็นเพราะคุณต้องการเข้าร่วมการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการทำลายทรัพย์สินมหาวิทยาลัย ก่อกวนนักเรียน ยึดอาคาร สร้างความวุ่นวาย – เราจะไม่ให้วีซ่าคุณ” รูบิโอเคยกล่าวไว้ในตอนนั้น