vivo ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดในซีรีส์ X200 นั่นคือ X200 FE ที่ประเทศไต้หวัน และคาดว่าจะขยายการจำหน่ายไปยังประเทศอื่น ๆ ในเร็ว ๆ นี้
vivo X200 FE เป็นสมาร์ตโฟนที่มีขนาดกะทัดรัด แต่มาพร้อมสเปกระดับเรือธง โดยได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, รองรับรีเฟรชเรต 120 Hz (รีเฟรชภาพ 120 ครั้งต่อวินาที) ช่วยให้แสดงการเคลื่อนไหวของภาพได้อย่างนุ่มนวลที่สุด, ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ และกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล

ตัวเครื่องของ vivo X200 FE นั้น มีขนาด 150.83 x 71.76 x 7.99 มม. และหนัก 186 กรัม พร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 ซึ่งช่วยป้องกันตัวเครื่องในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นาน 30 นาที และ IP69 ซึ่งช่วยป้องกันตัวเครื่องในน้ำแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียส
ด้านหลังตัวเครื่องได้รับการติดตั้งกล้อง จำนวน 3 ตัว พร้อมเลนส์ Zeiss ด้วยกันทั้งสิ้น ดังนี้
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ Sony IMX921, รูรับแสง f/1.88, ระบบกันภาพสั่น OIS (Optical Image Stabilization)
- กล้องซูมแบบ Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ Sony IMX882 ขนาด 1/2 นิ้ว, รูรับแสง f/2.65
- กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล


ด้านการประมวลผลนั้น ใช้ศักยภาพจากชิปเซตระดับพรีเมียมอย่าง MediaTek Dimensity 9300+ ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.4 GHz โดยทำงานร่วมกับแรม LPDDR5X ความเร็วสูง ความจุสูงสุด 12 GB และสตอเรจ UFS 3.1 ความจุสูงสุด 512 GB บนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของระบบ Android 15
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าประทับใจ คือ แบตเตอรี่เทคโนโลยีซิลิคอน-คาร์บอน (Silicon-Carbon) ขนาดความจุสูงถึง 6,500 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไฟเร็ว 90 W โดยทาง vivo อ้างว่า X200 FE ได้รับการทดสอบภายใน ซึ่งทำให้ทราบว่ารองรับการเล่นวิดีโอบน YouTube ต่อเนื่องได้กว่า 25 ชั่วโมง, เล่นเกมต่อเนื่องได้ 9.5 ชั่วโมง และสามารถชาร์จไฟเต็มจาก 0 – 100% ได้ใน 57 นาที


vivo X200 FE มีด้วยกัน 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีชมพู, สีเหลือง และสีฟ้า โดยทาง vivo จะอัปเดตข้อมูลราคาและกำหนดการวางจำหน่ายให้ทราบในเร็ว ๆ นี้
