แน่นอนว่าในช่วงที่ #เที่ยวไทยคนละครึ่ง กำลังเดือดแบบนี้ คงทำให้ใครหลาย ๆ คนนึกถึงลุงตู่ขึ้นมา เพราะในช่วงรัฐบาลชุดลุงตู่นั้น มีโครงการที่มาพร้อมกับแอปฯ มากมายงอกขึ้นมา ทั้งเพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจบ้างล่ะ ส่งเสริมการใช้จ่ายดิจิทัลบ้างล่ะ เยอะแยะมากมายไปหมด 

แต่ทว่าขั้นตอนก่อนจะได้รับการช่วยเหลือมักไม่ได้ง่ายเสมอไป และแทบทุก ๆ ครั้ง ประชนชนก็ยังต้องพบเจอกับปัญหาเดิม ๆ คือมีข้อจำกัดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ถ้าอยากได้สิทธิ์ ก็ต้องมีแอปฯ และจะต้องยืนยันตัวตนผ่านอีกแอปฯ แน่นอนว่าถ้าวัยรุ่นหรือคนชนชั้นกลาง ๆ ที่เข้าใจขั้นตอนความยากง่ายก็ไม่ใช่ปัญหา แต่คนที่ลำบากจริง ๆ คือคนเฒ่าคนแก่นี่สิ หรือคนที่ไม่มีสิ่งที่เอื้ออำนวยในการรับสิทธิ์นี่สิ ที่จะยุ่งยากขึ้นไปอีก และเสียสิทธิ์ไปเฉย ๆ ก็มี วันนี้แอดจึงจะพาทุกคนมาส่องเหล่าโครงการที่มาพร้อมกับแอปฯ จากทั้ง 2 รัฐบาลกันค่ะ

ลำดับจากความใกล้เคียง จะมีอยู่ไม่กี่โครงการที่คล้ายคลึงกันระหว่าง 2 รัฐบาลนี้ ถ้ารัฐบาลชุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ลุงตู่ ก็จะมีโครงการ “คนละครึ่ง” ที่คล้ายคลึงกันกับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ในยุครัฐบาลอุ๊งอิ๊ง เพียงแค่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งนั้น คือการแจกเงินผ่านแอปฯ ทางรัฐ และใช้แอปฯ ในการใช้จ่าย รัฐบาลลุงตู่ก็เช่นกัน โครงการคนละครึ่ง ก็คนละครึ่งสมชื่อ ถ้าใครเคยได้ก็คือสมมุติลูกเพจซื้อของ 50 บาท ถ้าสแกนจ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง และได้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเรียบร้อย ก็จะจ่ายเพียงแค่ 25 บาทเท่านั้น รัฐบาลจ่ายให้อีก 25 บาทนั่นเองค่ะ และทั้ง 2 โครงการก็คลอดออกมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน คือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะ 

ต่อมาคงหนีไม่พ้นโครงการที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ อย่าง “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” แน่นอนว่าถ้ายุคลุงตู่ทุกคนจะต้องนึกถึง “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ ณ เวลานั้นผู้คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าใช้งานง่าย บวกกับอยู่ในแอปฯ เป๋าตัง ที่มีคนละครึ่งอยู่แล้วด้วย ทำให้เวลาใช้งานก็ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องโหลดหลายแอปฯ 

แต่ข้อสังเกตุเดียวที่รัฐบาลทั้ง 2 ยุคเหมือนกันอย่างเห็นได้ชัดคือ แอปฯ และเว็บมักจะล่มเวลาที่เปิดให้ลงทะเบียน ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไม่ค่อยได้เมื่อเกี่ยวกับระบบ บางทีประชาชนที่ต้องการจะใช้สิทธิ์และคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ก็ไม่ได้ใช้ เพราะด้วยเหตุผลว่าระบบล่ม ลงทะเบียนไม่ได้ ทำให้สิทธิ์ก็เหลือเป็นจำนวนมาก และพอระบบกลับมาเป็นปกติ ก็หมดสิทธิ์แล้ว เป็นปัญหาคอขวดไปไม่รู้จบ ถึงแม้จะใช้ต้นทุนที่มหาศาลอยากทำการใหญ่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ได้ช่วยได้เท่าที่ควร ประชาชนที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจริง ๆ ก็ยังมีอีกมากมาย 

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลลุงตู่ หรือรัฐบาลเศรษฐาอุ๊งอิ๊ง เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘แอปฯ จากภาครัฐ’ ได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง คนตกงาน รายได้น้อย โครงการต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับแอปฯ เหล่านี้ก็พอจะช่วยต่อลมหายใจให้ใครหลายคนได้บ้าง แม้จะไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

แต่อีกด้านหนึ่ง ความยุ่งยากของการเข้าถึงสิทธิ์ก็ยังคงเป็นคำถามสำคัญอยู่เสมอ… ในเมื่อรัฐตั้งใจจะช่วย แล้วทำไมคนที่ควรได้กลับเข้าไม่ถึง ? ทำไมแอปฯ ยังซับซ้อนอยู่ ? ทำไมคนแก่ คนจน คนไม่มีสมาร์ตโฟน ต้องหลุดจากระบบไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่พวกเขาคือ ‘กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือที่สุด’

หวังว่าในอนาคต แอปฯ เหล่านี้จะไม่ได้เป็นแค่ชื่อโครงการสวย ๆ ที่โผล่มาพร้อมเสียงปรบมือในข่าว แต่จะเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้จริง เข้าถึงง่าย เข้าใจคนทุกกลุ่ม และมีหัวใจของ ‘ความเท่าเทียม’ อยู่ในนั้น เพราะสุดท้ายแล้ว…สิ่งที่ประชาชนต้องการ ไม่ใช่เทคโนโลยีหรูหรา แต่คือ ‘การช่วยเหลือที่จับต้องได้’ และ ‘ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ จริง ๆ สักที