เว็บไซต์ Android Authority ได้รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ อ้างว่า Google ใช้โค้ดเนมภายในบริษัทสำหรับการพัฒนาซอฟต์แว์ระบบปฏิบัติการ Android 17 ว่า ‘Cinnamon Bun’
รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับการที่ Google ได้ใช้ชื่อของหวานเป็นโค้ดเนมสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
- Android 1.0 (2008) : ไม่มีโค้ดเนม
- Android 1.1 (2009) : Petit Four (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)
- Android 1.5 (2009) : Cupcake
- Android 1.6 (2009) : Donut
- Android 2.0, 2.1 (2009) : Éclair
- Android 2.2 (2010) : Froyo
- Android 2.3 (2010) : Gingerbread
- Android 3 (2011) : Honeycomb
- Android 4 (2011) : Ice Cream Sandwich
- Android 4.1, 4.2, 4.3 (2012) : Jelly Bean
- Android 4.4 (2013) : KitKat
- Android 5.0, 5.1 (2014) : Lollipop
- Android 6 (2015) : Marshmallow
- Android 7.0, 7.1 (2016) : Nougat
- Android 8.0, 8.1 (2017) : Oreo
- Android 9 (2018) : Pie
- Android 10 (2019) : Quince Tart (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)
- Android 11 (2020) : Red Velvet Cake (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)
- Android 12, 12L (2021) : Snow Cone (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)
- Android 13 (2022) : Tiramisu (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)
- Android 14 (2023) : Upside Down Cake (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)
- Android 15 (2024) : Vanilla Ice Cream (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)
- Android 16 (2025) : Baklava (เรียกเฉพาะภายในบริษัท)


จากโค้ดเนมที่ปรากฏข้างต้น ทำให้ทราบว่า Google นั้น ตั้งโค้ดเนมโดยเรียงตามลำดับตัวอักษร ยกตัวอย่างเช่น Android 1.5 ใช้ตัวอักษร C: Cupcake, Android 1.6 ใช้ตัวอักษร D: Donut หรือ Android 2.0 ใช้ตัวอักษร E: Éclair เป็นต้น
จนกระทั่งถึง Android 15 ที่ใช้ตัวอักษร V: Vanilla Ice Cream แต่ Android 16 ในปี 2025 นี้ มิได้ใช้ตัวอักษร W ตามที่ควรจะเป็น แต่รีเซตไปเริ่มต้นที่ตัวอักษร B: Baklava แทน
แหล่งข่าวได้อธิบายเหตุผลว่า Google ได้เปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android จากเดิมที่ใช้การพัฒนาซอร์สโค้ดแบบแยกไปในสาขาต่าง ๆ หรือ ‘Branch-Based Model’ ซึ่งเมื่อพัฒนาแล้วเสร็จจึงนำมารวมกัน (Merge) เพื่อเตรียมปล่อยใช้งานต่อไป แต่วิธีนี้ทำให้เกิดปัญหาโค้ดทำงานได้สอดคล้องกัน (Merge Conflicts) อยู่บ้าง ซึ่ง Google ต้องแก้ไขโค้ดภายในระบบต่อไป

ตอนนี้ Google ได้ใช้การพัฒนาแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘Trunk Stable’ ซึ่งให้นักพัฒนาทุกคนดำเนินการพัฒนาซอร์สโค้ดบนสาขาหลักเพียงสาขาเดียว เพื่อให้ระบบมีความเสถียรมากที่สุด โดยฟีเจอร์ใหม่, การแก้ไข และ API จะถูกซ่อนไว้ในโค้ด ‘Feature Flags’ จนกว่าจะพัฒนาเสร็จสิ้นแล้วจึงเปิดให้ใช้งาน

Google ได้เริ่มใช้แนวทางการพัฒนาแบบใหม่นี้ตั้งแต่ Android 14 QPR2 ซึ่งได้รีเซตหมายเลขเวอร์ชัน หรือ ‘Build ID’ เป็น AP1A และ Android 14 QPR3 เป็น AP2A แต่เนื่องจาก Android 14 และ Android 15 ได้รับการตั้งโค้ดเนมว่า U: Upside Down Cake และ V: Vanilla Ice Cream ตามลำดับ ไว้ก่อนแล้ว แทนที่จะรีเซตเป็นตัวอักษร A ตามที่ควรจะเป็น จึงทำให้ Google เริ่มรีเซตโค้ดเนม Android 16 ด้วยตัวอักษร B: Baklava นั่นเอง
นั่นหมายความว่า Android 17 ที่จะได้รับการเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2026 จะมาพร้อมโค้ดเนมที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร C ซึ่งคาดว่าจะเป็น Cinnamon Bun เนื่องจาก Cup Cake ได้ถูกใช้ไปก่อนแล้วกับ Android 1.5 เมื่อปี 2009