ศึกสมาร์ตโฟนกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง อิงจากข้อมูลยอดขายไตรมาส 2 ล่าสุดชี้ว่า Samsung กำลังไล่บี้และช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ จาก Apple โดยแรงหนุนหลักมาจากกระแสความนิยมของสมาร์ตโฟนจอพับ ที่กลายเป็นจุดขายสำคัญในปีนี้
รายงานจาก Canalys ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Samsung ในสหรัฐฯ ขยับขึ้นจาก 23% มาอยู่ที่ 31% ขณะที่ Apple ลดลงจาก 56% เหลือ 49% แม้ยังครองอันดับหนึ่ง แต่ก็สะท้อนแรงกดดันครั้งใหม่ต่อบริษัทที่แทบไม่เคยเจอคู่แข่งสั่นคลอนในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
หนึ่งในตัวชูโรงคือ Galaxy Z Fold7 และ Z Flip7 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีทั้งจากสื่อและผู้ใช้งาน โดยเฉพาะคอนเทนต์รีวิวความทนทานที่ถูกแชร์สนั่นบนโซเชียลมีเดีย เช่น คลิปทดลองพับเครื่องกว่า 200,000 ครั้ง จนมียอดวิวทะลุ 15 ล้านครั้งใน YouTube
นอกจากนี้ Samsung ยังสร้างความได้เปรียบด้วยการวางไลน์ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกระดับราคา ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราว 650 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 21,450 บาท) ไปจนถึงรุ่นท็อปราคา 2,400 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 79,200 บาท) ซึ่งแพงกว่า iPhone รุ่นสูงสุดอย่าง 16 Pro Max ที่เปิดตัวราว 1,199–1,599 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 39,567–52,767 บาท)
ในแง่นักลงทุน ราคาหุ้น Samsung ที่พุ่งขึ้นกว่า 35% นับตั้งแต่ต้นปี ขณะที่หุ้น Apple ร่วงลงแล้วกว่า 7.5% เพราะกังวลกับการชะลอตัวของยอดขาย iPhone และความล่าช้าในเรื่อง AI เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใช้ Google Gemini ได้อย่างเต็มรูปแบบ