คดีที่คณะกรรมการการค้ากลาง (FTC) ของสหรัฐอเมริกายื่นฟ้อง Amazon ได้เริ่มการไต่สวนขึ้นแล้ว โดย FTC กล่าวหาว่า Amazon หลอกลวงลูกค้าหลายสิบล้านรายให้สมัคร Amazon Prime โดยไม่ได้มีการยินยอมและทำให้ต้องตกอยู่ในระบบการเลิกเป็นสมาชิกที่ซับซ้อนมากจนเกินไป

การยื่นฟ้องในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ Amazon และผู้บริหารระดับสูงอีก 3 คน โดยมีการฟ้องเอาค่าปรับมากถึง 53,000 เหรียญ (ราว 1.6 ล้านบาท) ต่อการละเมิด 1 กรณี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ คือ เดโมแครต และรีพับลิกัน

FTC ชี้ว่า Amazon ไม่ได้มีการเปิดเผยให้ชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลือกในการทดลองใช้ Prime ว่าหากพ้นระยะลองใช้แล้วจะต้องจ่ายเงินรายเดือนให้กับ Prime และแม้ว่าในช่วงระหว่างปี 2017 – 2022 Amazon จะมีความพยายามในการทำให้เงื่อนไขเหล่านี้ปรากฎชัดขึ้น แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้บริหารปฏิเสธการปรับแก้เนื้อหาในเงื่อนไขการเป็นสมาชิกที่ถ้าแก้แล้วจะทำให้การยกเลิกการเป็นสมาชิกง่ายขึ้น

ซึ่งกว่าที่ FTC จะยอมนำการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาเหล่านั้นมาปรับในเงื่อนไขการสมัครสมาชิก Prime ก็ปาเข้าไปในปี 2022 แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างการเข้าตรวจสอบของ FTC พอดี ก่อนที่ Amazon จะเข้ายื่นฟ้องในปี 2023

พยายานผู้เชี่ยวชาญในคดีนี้เผยว่า Amazon รับสมาชิก Prime เพิ่มขึ้น 40 ล้านคนโดยปราศจากความยินยอม ซึ่ง FTC ชี้ว่าข้อมูลในเอกสารของ Amazon เองชี้ว่า ผู้ใช้หลายสิบล้านรายยอมแพ้ในขั้นตอนการเลิกเป็นสมาชิกกลางคัน

ด้าน Amazon ได้ออกมาปฏิเสธการกระทำผิดใด ๆ ของทั้งบริษัทและผู้บริหารระดับสูง พร้อมชี้แจงว่าเงื่อนไขการเป็นสมาชิก Prime มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนแล้ว มีวิธีการยกเลิกหลากหลายวิธี รวมถึงชี้ด้วยว่า FTC พยายามตีความกฎหมายกว้างเกินไปและตีความความพยายามของบริษัทผิดจากความเป็นจริง