คำสั่งเสียง Hi BYD ที่เราคุ้นเคยกำลังจะเปลี่ยนไป จากบทสนทนาธรรมดาระหว่างคุณกับรถคู่ใจ จะถูกยกระดับให้มีความสนุกสนาน เป็นกันเองแบบไม่ได้ตั้งใจ ด้วยซอฟต์แวร์และ AI อัจฉริยะในรถยนต์ BYD ที่ไม่ได้เข้าใจแค่ภาษาพูดทั่วไป แต่ยังเข้าใจ “ภาษาลู” ซึ่งเดิมทีเป็นภาษาเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ แต่ตอนนี้คนบนโซเชียลมีเดียเริ่มใช้กันทั่วไปแล้ว

เรื่องราวนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ไวรัลในชั่วข้ามคืน เมื่อผู้ใช้ TikTok บัญชี @Zombiiepants ได้ทดลองสั่งงานรถยนต์ BYD ของเขาด้วยภาษาลูว่า “Hi BYD เหลิดปูดกระหลกจุก” ซึ่งเป็นการผวนและสลับคำของประโยคที่ว่า “เปิดกระจก” และสิ่งที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโซเชียลมีเดียก็คือ…รถ BYD คันนั้นเปิดกระจกให้จริง ๆ แล้วผู้ใช้ก็ยังทดสอบด้วยการใช้คำสั่งเสียงเพื่อปิดกระจก เปิดม่านบังแดด และเปิด-ปิดซันรูฟ ด้วยคำผวน อย่าง “แปด-ม่าน-บัง-เดิด” หรือเปิดม่านบังแดด

ละอิ BYD มันเข้าใจยันภาษาลู 🤣 #ยายซอมบี้ #คนไทยเป็นคนตลก
ละอิ BYD มันเข้าใจยันภาษาลู 🤣 #ยายซอมบี้ #คนไทยเป็นคนตลก
@zombiiepants

ละอิ BYD มันเข้าใจยันภาษาลู 🤣 #ยายซอมบี้ #คนไทยเป็นคนตลก

ความสามารถที่น่าทึ่งนี้ทำให้ AI ในรถยนต์จากแดนมังกรกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง สร้างความตื่นเต้นและเสียงหัวเราะในการใช้ Voice Command จนเกิดเป็นกระแสแซวกันในโลกออนไลน์ว่า “หรือจริง ๆ แล้ว BYD เป็นลูกสาวพี่กะเทย ?” สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยี แต่สามารถสร้างความรู้สึกใกล้ชิดและเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ใช้งานได้

แม้ว่าตอนนี้ BYD ยังไม่ได้ออกมาบอกถึงวิธีตรวจจับเสียงเพื่อการสั่งงาน ว่าทำไมระบบของรถถึงเข้าใจคำผวนและภาษาลู แต่โดยปกติ ระบบสั่งงานด้วยเสียงจะทำงานด้วยการรับเสียงและแปลงเป็นข้อมูลดิจิทัล แล้วนำไปตีความผ่านระบบ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าระบบประมวลตีความการออกเสียงด้วยคำผวนหรือการสลับคำคล้ายคลึงกับคำต้นฉบับ ทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายออกมาเหมือนกัน

ไม่ว่าเบื้องหลังจะเป็นความบังเอิญหรือความสามารถที่ตั้งใจพัฒนา แต่จากฟังก์ชันสั่งงานด้วยเสียงธรรมดา ๆ ก็กลายเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและความตื่นเต้นสำหรับผู้ใช้งานไปแล้ว ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรด์ BYD กลายเป็นแบรนด์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่า “เข้าถึงง่าย” และ “เป็นกันเอง” มากขึ้น แล้วคุณล่ะ อยากลอง Hi BYD ด้วยภาษาอะไร ?