Amazon Web Services (AWS) สร้างความฮือฮาในงาน re:Invent ด้วยการเปิดตัวกลุ่ม AI Agents รุ่นใหม่ที่เรียกว่า “Frontier Agents” จำนวน 3 ตัว ซึ่งออกแบบมาเพื่อปฏิวัติวงการ DevOps และการเขียนโคด โดยเคลมว่าสามารถเรียนรู้สไตล์การทำงานของมนุษย์และทำงานซับซ้อนได้ด้วยตัวเองต่อเนื่องยาวนาน “เป็นเวลาหลายวัน” โดยไม่ต้องมีคนคอยสั่งการ

ทีเด็ด Kiro Autonomous Agent

พระเอกของการเปิดตัวครั้งนี้คือ Kiro ซอฟต์แวร์เอเจนต์ที่พัฒนามาจากเครื่องมือ AI Coding เดิมของ AWS (ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025) โดย Kiro เวอร์ชันใหม่นี้มีความสามารถที่ก้าวไปอีกขั้น

  • ทำงานแบบ Spec-Driven : Kiro ทำได้มากกว่าการเขียนโคดตามสั่ง แต่เรียนรู้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Spec-driven development โดยมันจะสังเกตวิธีการทำงานของทีม สแกนโคดที่มีอยู่ และให้มนุษย์ช่วยยืนยันสมมติฐาน เพื่อสร้างมาตรฐานและรูปแบบการทำงานเฉพาะของทีมขึ้นมา ทำให้ซอฟต์แวร์เข้าใจในงานและในคนมากขึ้น
  • Persistent Context หรือความจำต่อเนื่อง : จุดอ่อนของ AI ทั่วไปคือ “ความจำสั้น” แต่ Kiro ถูกออกแบบมาให้จดจำบริบทข้ามเซสชันได้ ไม่ลืมว่าต้องทำอะไร ทำให้สามารถรับงานก้อนใหญ่ เช่น อัปเดตโคด 15 จุดในคำสั่งเดียว และนั่งทำเองเงียบ ๆ ได้จนเสร็จ ไม่ว่าจะใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน
  • เรียนรู้หน้างาน : แมตต์ การ์แมน (Matt Garman) ซีอีโอของ AWS ย้ำว่า Kiro จะยิ่งเก่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เพราะมันจะเข้าใจผลิตภัณฑ์และมาตรฐานของทีมลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ

ทีมสนับสนุน : Security และ DevOps Agents

เพื่อให้การทำงานครบลูป AWS ยังเปิดตัวเอเจนต์อีก 2 ตัวเพื่อทำงานร่วมกันกับ Kiro อย่าง AWS Security Agent ที่จะทำงานคู่ขนานไปกับการเขียนโคด คอยตรวจหาช่องโหว่ความปลอดภัย ทดสอบ และเสนอวิธีแก้ไขให้ทันที อีกตัวคือ AWS DevOps Agent ทำหน้าที่ทดสอบประสิทธิภาพ และความเข้ากันได้ของระบบ เพื่อป้องกันปัญหาเมื่อนำโคดไปใช้งานจริง

แม้ AWS จะไม่ใช่เจ้าแรกที่พยายามยืดระยะเวลาการทำงานของ AI เพราะก่อนหน้านี้ OpenAI เคยกล่าวถึง GPT-5.1-Codex-Max ที่ทำงานได้ 24 ชั่วโมง แต่ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองไม่ใช่แค่เรื่องของระยะเวลา แต่คือความน่าเชื่อถือต่างหาก

เพราะปัจจุบัน ปัญหาใหญ่ของ AI คืออาการ “หลอน” (Hallucination) หรือการให้ข้อมูลผิดพลาด ซึ่งทำให้นักพัฒนาต้องกลายสภาพจาก “ผู้สร้าง” มาเป็น “พี่เลี้ยงเด็ก” ที่ต้องคอยตามเช็กงานทุกบรรทัด การที่ AWS พยายามขยายขอบเขตความจำและการทำงานอัตโนมัติ รวมถึงการเรียนรู้ด้วยตัวเองของ AI ต้องรอดูกันต่อไปว่า AI จะเปลี่ยนบทบาทจากเด็กฝึกงานกลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานของนักพัฒนาได้ไหม