หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดอุปกรณ์ที่ใช้ ARM จาก ASUS ที่ติดตั้ง Windows 10 รุ่นปกติ สามารถใช้งานโปรแกรมเดิมที่รันบน x86 ของ Intel, AMD ส่วนใหญ่ได้ [อ่านข่าว] คราวนี้เป็นจริงแล้วครับ

Microsoft และ Qualcomm ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วย Notebook ที่ใช้ CPU ARM จาก Qualcomm และใช้งาน Windows 10 ตัวปกติได้ (เหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไปเลย) ซึ่งใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 835 ซึ่ง HP และ ASUS กำลังเปิดตัวอุปกรณ์เหล่านี้ในวันนี้และคาดว่า Lenovo จะเริ่มดำเนินการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

HP Envy X2

ซึ่งก่อนหน้านี้ Microsoft เคยแสดงให้เห็นว่า Windows 10 สามารถใช้งานบน ARM ได้ และรันเกมหรือโปรแกรมทั่วๆ ไปได้ (ไฟล์ .exe นอก Store) อย่าง Adobe Photoshop สำหรับ Windows ปกติได้ทันที เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016 ที่ผ่านมา

Play video

ทั้งนี้อุปกรณ์ HP และ Asus จะประกอบด้วย Windows 10 S ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานแอพพลิเคชั่นจาก Windows Store เท่านั้น แต่ผู้ใช้จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Pro ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ในตอนนี้นะ) ซึ่งไมโครซอฟท์ได้คอมไพล์ Windows 10 ใหม่เพื่อให้ใช้งานบนสถาปัตยกรรมแบบ ARM ได้โดยตรงแบบไม่ใช่การจำลองระบบมา (Emulator) และร่วมมือกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายหลักๆ เพื่อจัดการคอมไพล์ไฟล์ที่เกี่ยวข้องให้รองรับ ARM ใหม่ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าประสิทธิภาพจะยังคงดีอยู่

Microsoft ชูจุดเด่นว่า ใช้ ARM ทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้ทั้งวัน ใช้งานได้ประมาณ 20-22 ชั่วโมง และได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดจากการทำ Windows RT ในอดีตมาปรับปรุงด้วย

Play video

Asus NovaGo

สำหรับรายละเอียดของสเปคที่ออกมามี Asus NovaGo 2-in-1 ประกอบด้วยหน้าจอ HD ขนาด 13.3 นิ้ว RAM สูงสุด 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB มีทั้งการสนับสนุนสไตลัสและพอร์ต USB 3.1 พอร์ต HDMI และ microSD

Asus NovaGo จะมีราคาเริ่มต้นที่ 599 เหรียญสำหรับ RAM ขนาด 4GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB, ราคา 799 เหรียญจะประกอบด้วย RAM ขนาด 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB

ส่วน HP Envy X2 มาพร้อมจอแสดงผล 12.3 นิ้วแรม 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB HP ยังสนับสนุนปากกาสไตลัสและทั้งสองรุ่นนี้จะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อ LTE

งานนี้ Intel จะมีเครียดบ้างไหมนะ Windows ก็รองรับ ARM แล้ว ชิป Apple A11 ที่เป็น ARM ก็ให้ประสิทธิภาพบางเรื่องแรงว่า Intel Core i แต่กินไฟน้อยกว่ามาก ดูท่าทางอนาคตสถาปัตยกรรมแบบ x86 ดั้งเดิมจะอยู่ยากแล้ว

อ้างอิง: The Verge