การเปิดตัวรายงานฉบับที่ 2 ของ Canvas Ventures International ที่ยกระดับมุมมองจากเดิมที่มองกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเพียงผู้มีกำลังซื้อ (Pink Money) ไปสู่การเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Pink Tech) โดยเน้นย้ำแนวคิด ‘From Movement to Market’ คือการเปลี่ยนพลังของการเคลื่อนไหวทางสังคมให้กลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้

Key Concept : วิวัฒนาการของ Pink Economy 

ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ประธาน Canvas Ventures International ได้ฉายภาพวิวัฒนาการของเศรษฐกิจสีชมพู ดังนี้

  • Beyond Consumption : เลิกมอง LGBTQ+ เป็นแค่ผู้บริโภคที่ไม่มีลูกหลานจึงใช้เงินเก่ง แต่ให้มองในฐานะ ‘ผู้ประกอบการและผู้สร้างนวัตกรรม’ อีกทั้งยังมีข้อมูลพบว่ากว่า 53% ของผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัปและธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital) ในเครือข่ายระบุว่าเป็นกลุ่มความหลากหลาย
  • Pink Tech Ecosystem : การสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลาย ไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่เป็นเรื่องโอกาสทางธุรกิจระดับโลก

โดยในรายงาน Thailand Economy Pink Report ได้ทำการวิเคราะห์และเปรียบเทียบ 8 เมืองทั่วโลกที่มีศักยภาพ อย่างกรุงเทพฯ ปารีส เทลอาวีฟ โตเกียว โฮซากา โซล เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ ได้ผลสรุปออกมาว่า กรุงเทพฯ และปารีส ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้นำที่มีความพร้อมสูงสุดทั้งในด้าน Volume ของเศรษฐกิจ และความแข็งแกร่งของระบบกฎหมายและการยอมรับทางสังคม 

อีกทั้งกรุงเทพฯ มีความโดดเด่นในฐานะ ‘Policy Acceletor’ หรือเมืองที่ขับเคลื่อนเชิงนโยบายที่รวดเร็ว (พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม) และมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง ซึ่งนี่ก็เป็นจุดแข็งที่ช่วยดึงดูดศักยภาพการลงทุนได้เป็นอย่างดี 

ส่วนของโอกาสทางธุรกิจ รายงานได้ระบุถึงภาคอุตสาหกรรมศักยภาพ (Pink Tech Sectors) ในไทยที่น่าจับตามอง เช่น นวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนข้ามเพศ, สื่อและความบันเทิง, เศรษฐกิจผู้สูงวัยกลุ่ม LGBTQ+ (Silver Pink) และที่โดดเด่นอย่างยิ่งคือ ‘G-Economy’ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจภาคการผลิตและบริการที่ขับเคลื่อนโดยกลุ่มสาวประเภทสองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย โดยมีการประเมินมูลค่าเศรษฐกิจสีชมพูเบื้องต้นไว้ที่ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท และมีศักยภาพที่จะเติบโตแตะระดับ 3-7 แสนล้านบาทในอนาคต หากผนวกรวมภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย

ทางด้านมิติสังคมและการศึกษา ดร. ภูมิพร ธรรมสภิตย์เดช ได้เน้นย้ำว่า ‘ความคุ้นเคย’ ต่อความหลากหลายทางเพศในชีวิตประจำวัน คือทุนทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งของไทยที่ทำให้ต่างชาติรู้สึกปลอดภัยและได้รับการยอมรับ

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายต่อไปคือการเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์ โดยสถาบันการศึกษาจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อสร้าง ‘ผู้ประกอบการที่มีความหลากหลาย’ (Entrepreneurial Diversity) เชื่อมโยงทักษะด้านเทคโนโลยีเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ เพื่อรองรับเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ที่กว่า 40% นิยามตนเองว่ามีความลื่นไหลทางเพศ (Gender Fluid) ซึ่งจะกลายเป็นกำลังสำคัญในตลาดแรงงานและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่

เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นแค่จุดเริ่มต้น ไทยปูพรมแดงสู่ World Pride 2030

นอกจากนี้ยังมี Panel Discussion เป็นการสรุปวิสัยทัศน์จากเวทีเสวนา Pink Economy ไทยพร้อมแค่ไหนในการเป็นศูนย์กลาง LGBTQ+ ของโลก เจาะลึกโอกาสจากอุตสาหกรรม MICE, การผลักดันงบประมาณภาครัฐ และยุทธศาสตร์คว้าเจ้าภาพ World Pride 2030 โดยมีผู้ร่วมสัมมนาหลักคือ คุณพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ (สว.) พร้อมกับ ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผอ. TCEB

การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะด้านสิทธิมนุษยชน แต่คือกุญแจสำคัญสู่การปลดล็อกขุมทรัพย์ทางเศรษฐกิจ หรือ Pink Economy ที่มีมูลค่าตลาดโลกสูงถึง 4.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คุณพรชัย เน้นย้ำว่ากฎหมายนี้มอบ ‘สิทธิในการสร้างความมั่งคั่ง’ ที่เปลี่ยนจากการเฉลิมฉลองไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจอย่างจริงจัง ในขณะที่ ดร. ศุภวรรณ ชี้ว่ากลุ่ม LGBTQ+ เป็นตลาดคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงและเติบโตต่อเนื่อง โดยพวกเขามองหาประสบการณ์ที่จริงใจ ซึ่งไทยมีความพร้อมในการตอบโจทย์นี้ ทั้งในฐานะเมืองท่องเที่ยวและศูนย์กลางสุขภาพ (Wellness & Medical Hub)

อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในเอเชียและก้าวไปสู่เป้าหมายใหญ่ในการเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 ที่คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ไทยจำเป็นต้องเร่งเติมเต็มวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ลงไปในโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยขยายรูปแบบอิเวนต์ให้ครอบคลุมความหลากหลายมากขึ้น เช่น เทศกาลดนตรีเลสเบี้ยน, งาน Pet Pride หรือ Drag Convention ระดับโลก ที่สำคัญคือภาครัฐต้องมีบทบาทในการสนับสนุนงบประมาณอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการปูพื้นฐานเรื่องการศึกษาและกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักเดินทางทั่วโลกเห็นว่าไทยคือพื้นที่ปลอดภัยและพร้อมต้อนรับทุกคนอย่างยั่งยืน