ในวงการแพทย์เวลาคือต้นทุนที่แพงที่สุด โดยเฉพาะในห้องฉุกเฉินที่การวินิจฉัยโรคจากภาพ CT Scan อาจเป็นเส้นแบ่งความเป็นความตาย แต่ปัญหาคลาสสิกที่โรงพยาบาลทั่วโลกเผชิญคือคอขวดของกระบวนการอ่านผลที่มีปริมาณมหาศาล สวนทางกับจำนวนรังสีแพทย์ที่มีจำกัด

ล่าสุด SeaX Ventures กองทุน Deep Tech สัญชาติไทยที่มีฐานในซิลิคอนแวลลีย์ ได้ขยับตัวครั้งสำคัญด้วยการจับมือกับ Khosla Ventures (ผู้ลงทุนรายแรกของ OpenAI) ร่วมลงทุนในรอบ Seed Round มูลค่ากว่า 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 144 ล้านบาท) ให้กับ a2z Radiology AI สตาร์ตอัปที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าห้องรังสีวิทยาด้วย AI

นี่ไม่ใช่แค่การลงทุนในซอฟต์แวร์ธรรมดา แต่มันคือก้าวย่างสำคัญของการนำปัญญาประดิษฐ์ มาทำหน้าที่ช่วยชีวิตมนุษย์ในระดับโครงสร้าง

ไม่ใช่แค่ “ผู้ช่วย” แต่คือ “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่มองเห็นจาก A ถึง Z

จุดตัดที่ทำให้ a2z Radiology AI แตกต่างจาก AI ทางการแพทย์ทั่วไปในท้องตลาด คือแนวคิดในการพัฒนาที่ไม่ได้มองแค่ “จุดเดียว”

ในขณะที่โซลูชันอื่นมักถูกออกแบบมาให้ตรวจหาโรคเพียงโรคเดียว แต่ a2z ถูกสร้างขึ้นมาให้มีความสามารถในการ “Multitask” หรือวินิจฉัยหลายโรคได้พร้อมกันเสมือนรังสีแพทย์ที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ความเฉียบคมนี้ได้รับการการันตีด้วยการเป็น AI รายแรกของโลกที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ให้สามารถวินิจฉัยโรคฉุกเฉินในช่องท้องและอุ้งเชิงกรานได้ถึง 7 ข้อบ่งชี้ในทันที

เปรียบเสมือนการเปลี่ยนจากการใช้แว่นขยายส่องหาแค่จุดมดดำ มาเป็นการใช้กล้องความละเอียดสูงที่สแกนเห็นความผิดปกติทั่วทั้งพื้นที่ได้ในคราวเดียว ตั้งแต่ A ถึง Z ตามชื่อบริษัท

ผลงานวิจัยที่นำเสนอในงาน RSNA 2025 (สมาคมรังสีวิทยาแห่งทวีปอเมริกาเหนือ) ได้เผยตัวเลขที่สะท้อนประสิทธิภาพของ a2z ไว้อย่างน่าสนใจ

  • ความเร็วที่เพิ่มขึ้น: ลดเวลาในการรายงานผลได้ถึง 17.8% ซึ่งในทางการแพทย์ นั่นหมายถึงการรักษาที่เริ่มได้เร็วขึ้น
  • ความมั่นใจที่มากขึ้น: เพิ่มความมั่นใจในการวินิจฉัยของรังสีแพทย์ได้ 14.8%
  • ภาระทางสมองที่ลดลง: ช่วยลด “Mental Demand” หรือความล้าทางความคิดของแพทย์ได้ถึง 22.4% ทำให้แพทย์สามารถโฟกัสกับการรักษาเคสยาก ๆ ได้ดีขึ้น

การลงทุนครั้งนี้เป็นดีลที่ 11 ในกลุ่ม HealthTech ของ SeaX Ventures ซึ่งนำทัพโดย นพ. ศุภชัย ปาจริยานนท์ (หมอคิด) โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือการผลักดันเทคโนโลยี Deep Tech ให้เข้ามาแก้ปัญหาใหญ่ระดับโลก

นพ. ศุภชัย ปาจริยานนท์ (หมอคิด)

ทางฝั่ง Vinod Khosla จาก Khosla Ventures มองเกมขาดว่า รังสีวิทยาคือสนามที่ AI จะแสดงศักยภาพได้สูงสุด เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีโรคร้ายใดเล็ดลอดสายตาไปได้ โดยเงินทุนก้อนนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนางานวิจัยให้ลึกล้ำยิ่งขึ้น และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในปี 2026

เป้าหมายสูงสุดของ a2z ไม่ใช่แค่การขายซอฟต์แวร์ให้โรงพยาบาลชั้นนำ แต่คือการเปลี่ยนให้การทำ CT Scan ที่เคยยุ่งยากและรอนาน กลายเป็นบริการพื้นฐานที่ผู้ป่วยทุกคนสามารถเข้าถึงผลวินิจฉัยระดับ “ผู้เชี่ยวชาญ” ได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

นี่คือนวัตกรรมที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เทคโนโลยีไม่ได้เข้ามาแย่งงานหมอ แต่เข้ามาเพื่อคืน “ชีวิต” ให้กับทั้งคนไข้และบุคลากรทางการแพทย์อย่างแท้จริง