สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ในภารกิจ Group 6-6 ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม เวลา 7:09 p.m. ET (วันจันทร์ เวลา 06:09 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 47 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 49 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023

ล่าสุด ณ วันที่ 22 กรกฎาคม สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,497 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 112 ดวง ทำงานผิดปกติก่อนที่จะถึงวงโคจร 11 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากภารกิจ Group 6-16-26-36-4 6-5 และ 6-15 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มี Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 134 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,519 ดวง

นอกจากนี้เดือนกรกฎาคมอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ได้เปิดให้บริการเพิ่มอีก 3 ประเทศ คือ ไซปรัส กัวเตมาลาและเคนยา รวมเป็น 59 ประเทศ และมีสมาชิกใช้งานมากกว่า 1,500,000 ราย

ภารกิจ Group 6-6 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้

ดาวเทียม Starlink V2 Mini มีเสาอากาศอาร์เรย์ที่ทรงพลังมากขึ้นและใช้ความถี่ย่าน E-band สําหรับ backhaul (เชื่อมต่อระหว่างโหนด) ซึ่งจะทําให้ดาวเทียมแต่ละดวงสามารถให้ความจุมากกว่า Starlink v1.0 และ v1.5 ได้ถึง 4 เท่า

ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1076 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 6 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจคือ CRS-26 ส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ, ปล่อยดาวเทียม OneWeb ชุดที่ 16, ปล่อยดาวเทียมสื่อสาร Intelsat 40e และภารกิจปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ Group 6-1 และ Group 6-3

หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1076 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด

ที่มา : spacex.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส