หลังจากที่เพิ่งครบรอบ 15 ปี ‘PlayStation 3’ ไปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน คราวนี้ก็มาถึงวันครบรอบ 8 ปีเครื่องเกมที่หลายคนน่าจะมีติดบ้านกันอย่าง ‘PlayStation 4’ ที่วางจำหน่ายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2013 ที่อเมริกาเหนือ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่เครื่องเกมวางจำหน่ายจนมาถึงวันนี้ก็มีเกมต่าง ๆ ออกมามากมายให้เราได้เลือกเล่น แต่ก็เชื่อว่าคงมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ติดสินใจซื้อเครื่องเกมตัวนี้มาเล่น เพราะอาจจะรอคอยซื้อเครื่อง ‘PlayStation 5’ อยู่ แต่สำหรับคนที่คิดว่าอยากจะได้เครื่องเกมตัวนี้มาเล่น แต่กลัวว่าเกมที่มีก็ลงบนเครื่องอื่น เราก็ขอนำเสนอเกมที่มีเฉพาะเครื่อง อย่างเกม Exclusive ที่มีแต่บนเครื่อง ‘PlayStation 4’ มาแนะนำ โดยเราจะอ้างอิงความน่าสนใจจากคะแนน ‘Metacritic’ เป็นตัววัด พร้อมคำวิจารณ์ทั้งแง่บวกแง่ลบที่น่าสนใจ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจอีกที จะมีเกมอะไรที่น่าเล่นบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย

Bloodborne

Bloodborne

เริ่มต้นเกมแรกกับตำนานความหัวร้อนที่มีเฉพาะ ‘PlayStation 4’ กับเกมที่จะพาคุณไปสู่ความตายซ้ำตายซากตายแล้วตายอีก จนกว่าคุณจะจดจำว่าความตายที่เคยพลาดมานั้นคือตรงไหนและแก้ไขมัน ก่อนที่คุณจะไปตายซ้ำตายซากอีกทีในจุดถัดไปแบบนี้เรื่อย ๆ กับเกม ‘Bloodborne’ เกมที่จะให้เรารับบทเป็นนักล่าที่เข้าไปในเมืองซึ่งเต็มไปด้วยปีศาจ ที่ความน่าสนใจของเกมนี้คือความสนุกในความยากที่เท่าเทียม ทุกคนจะได้เล่นความยากระดับนี้ไม่มีการปรับ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยากท้าทายตัวเอง ซึ่งคะแนนที่ได้จากนักวิจารณ์กว่า 100 สำนักได้ให้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 92 คะแนน ขณะที่คนเล่นเกมทั่วไปกว่า 11,485 คนให้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 8.9 คะแนน โดยส่วนมากจะเป็นคำชมที่บอกว่า “เกม ‘Bloodborne’ เป็นเกมที่ยอดเยี่ยม สภาพแวดล้อมที่น่าทึ่ง และเรื่องราวซ่อนอยู่มากมายอย่างน่าสนใจ” อีกคนบอกว่า “ฉันชอบซีรีส์ ‘Dark Souls’ แต่เกมนี้ยกระดับให้สูงขึ้นไปอีก” ส่วนข้อเสียหรือคำวิจารณ์เชิงลบส่วนมากจะพูดถึงความยากที่ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ กับบรรยากาศการออกแบบตัวละครที่น่ากลัวยิ่งกว่าเกมผีเสียอีก

Bloodborne

Final Fantasy VII Remake

Final Fantasy VII Remake

มาต่อกันที่อีกหนึ่งเกมที่คุณไม่ควรพลาด กับเกม ‘Action RPG’ ที่เป็นการ Remake เกมเก่าระดับตำนานอย่าง ‘Final Fantasy VII’ ที่มีการปรับปรุงกราฟิกเนื้อเรื่องระบบการเล่น หรือจะเรียกว่ามันคือเกมใหม่หรือเกมภาคต่อก็ได้ เพราะ ‘Final Fantasy VII  Remake’ คือการเปลี่ยนทุกอย่างที่เคยมีให้เป็นเรื่องราวใหม่ แค่ใช้โครงเรื่องเดิมในการดำเนินเรื่องเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณไม่เคยเล่น ‘Final Fantasy VII’ ฉบับเก่าก็เล่นเกมนี้ได้แต่ ถ้าอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดแนะนำให้ไปหาฉบับเก่ามาเล่น แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมแฟนเก่าถึงได้บ้าคลั่งเกมนี้ขนาดนั้น ส่วนคะแนนจาก ‘Metacritic’ จากนักวิจารณ์ 126 ที่ให้คะแนนเฉลี่ย 87 คะแนน ส่วนผู้เล่นทั่วไปกว่า 7,800 คนให้คะแนน 8.1 คะแนน ผู้เล่นท่านหนึ่งบอกว่า “ในฐานะที่เป็นคนซึ่งไม่เคยเล่นต้นฉบับมาก่อน แต่ก็สามารถคุ้นเคยกับเรื่องราวใน ‘FFVII Remake’ ได้ ตัวเกมผสมผสานดนตรีที่ยอดเยี่ยม ระบบการต่อสู้ที่ลึกล้ำอย่างน่าประหลาดใจ และจังหวะเนื้อเรื่องที่น่าดึงดูด” ส่วนเสียงด้านลบจะเป็นเนื้อเรื่องเส้นตรงเกินไป เนื้อเรื่องขยายจนยืดยาวไป คนเล่นเกมท่านหนึ่งบอกว่า “ฉันให้คะแนนเกมนี้แย่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันหลอกลวงผู้บริโภค โดยเรียกตัวเองว่า Remake แต่เป็นภาคต่อมากกว่า” เรื่องนี้สิบปากว่าไมเท่าลองเล่นเอง ใครสนใจไปลอง Demo เล่นก่อนได้ แล้วคุณจะรู้ว่าตัวเองชอบเกมนี้ไหม

Final Fantasy VII Remake

Until Dawn

Until Dawn

เปลี่ยนบรรยากาศจากเกมดัง ๆ ที่หลายคนรู้จักมาดูเกมรอง ๆ แต่น่าเล่น และมีเฉพาะ ‘PlayStation 4’ กันบ้าง กับเกมกึ่งภาพยนตร์ที่เราสามารถกำหนดชีวิตตัวละครได้ จากการเลือกเส้นทางคำตอบหรือการกดปุ่มระหว่างเล่น ในเกม ‘Until Dawn’ เกมที่เล่าเรื่องราวการหนีตายของเหล่าวัยรุ่นในบ้านพักกลางภูเขาหิมะ ที่คุณไม่สามารถเดาเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะคุณคือคนกำหนดเรื่องราวนั้นผ่านการเล่นว่าจะไปซ้ายรึขวา ช่วยหรือไม่ช่วย สู้หรือหนีคุณคือคนกำหนดชีวิตตัวละคร ซึ่งทุกสิ่งที่คุณเลือกจะส่งผลที่ต่างกันออกไปตามการเล่น แล้วคุณจะรู้ว่าการกำหนดชีวิตตัวละครไม่ง่ายอย่างที่คิด ส่วนคะแนนจากนักวิจารณ์จาก 103 สำนักให้คะแนน 79 คะแนน พร้อมคำวิจารณ์เชิงบวกว่า “สคริปต์ในเกมทำให้ฉันเพลิดเพลิน และรู้สึกเหมือนการตัดสินใจของฉันมีความสำคัญตลอดการเล่น 10 ชั่วโมงของฉัน” ส่วนผู้เล่นจาก 3,447 คนให้คะแนน 8.3 คะแนน “ฉันต้องยอมรับว่าฉันต้องการให้ตัวละครบางคนตายในตอนแรก แต่เมื่อคุณเล่นคุณจะต้องการช่วยพวกเขาทุกคน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม” ส่วนที่ไม่ชอบส่วนมากจะเป็นเนื้อเรื่องที่อ้างอิงตามสูตรภาพยนตร์ที่ถ้าใครเคยดูหนังแนวนี้มามาก ๆ จะจับทางได้ไม่ยากเลย

Until Dawn

Ratchet & Clank

Ratchet & Clank

ถ้าคุณยังหาเครื่อง ‘PlayStation 5’ เพื่อเล่นเกม ‘Ratchet & Clank Rift Apart’ ไม่ได้ ก็ไปหาเกม ‘Ratchet & Clank’ บน ‘PlayStation 4’ มาเล่นแก้ขัดก่อนได้ เพราะเกมนี้คือหนึ่งในเกม Remake เกม ‘Ratchet & Clank’ ภาคเก่าที่เป็นแอ็กชันน้ำดีที่หาได้ยากในตลาด ที่เกมแนวเดียวกันเริ่มล้มหายตายจากไปเรื่อย ๆ ตัวเกมก็ตามชื่อเพราะเราจะได้เล่นเป็นคู่หูคู่ฮาไปในดินแดนต่าง ๆ แนวเดินหน้าอัดแหลก กับกราฟิกที่ปรับปรุงให้สวยงามมากขึ้นสมเครื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กหนวดและเด็กจริง ๆ ที่ควรหามาเล่น ตัวเกมได้คะแนนจากนักวิจารณ์จาก 101 ที่ให้ไป 85 คะแนน ส่วนคนเล่นกว่า 2,394 คนให้คะแนนเฉลี่ยที่ 8.4 คะแนน พร้อมคำวิจารณ์ว่า “ เกม ‘Ratchet & Clank’ แสดงให้เห็นว่าการ Remake ที่เหมาะสมสำหรับฮาร์ดแวร์ใหม่อย่าง ‘PlayStation 4’ สำหรับแฟน ๆ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้เล่นใหม่” ส่วนคนที่บอกว่าเกมนี้ไม่ดีก็จะเป็นความสั้นของเกมที่น้อยไป และภารกิจที่ไม่ค่อยแปลกใหม่เพราะมันคือเกมเก่าสมัย ‘Playstation 2’ กับความคุ้มค่าที่จะเล่นเกมเดิมซ้ำ “ตัวเกมมีกราฟิกที่ดี แต่รูปแบบการเล่นนั้นซ้ำซาก และพบว่าตัวเองคงจะชอบเกมนี้ถ้าฉันอายุ 8 ขวบ” ถ้าคุณกำลังหาเกมสนุก ๆ เล่นรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

Ratchet & Clank

Persona 5 Royal

Persona 5 Royal

ยังฉันยังไม่ตาย เสียงตะโกนของเกมแนว JRPG ที่เป็นเกมภาษายุคเก่าที่เราจะยืนหน้ากระดานผลัดกันโจมตี ที่เป็นรูปแบบเกมแบบเก่าที่กำลังหายไปจากจากตลาดเกมในยุคนี้ แต่เกมซีรีส์ ‘Persona’ ก็ยังคงใช้ตัวเกมรูปแบบนี้แต่เปลี่ยนตัวเองให้ดูเข้าสมัย กับเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตามจนหลายคนชื่นชอบ กับเกม ‘Persona 5 Royal’ ซึ่งถ้าคุณชอบเกม ‘Pokemon’ เกมจีบสาว เกม RPG ยุคเก่า เรื่องราวในรั้วโรงเรียน มิตรภาพของเพื่อน และการ์ตูนญี่ปุ่นบอกเลยไม่ควรพลาดเกมนี้ ตัวเกมได้เสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์จาก 71 สำนักเทคะแนนเฉลี่ยถึง 95 คะแนน ส่วนผู้เล่นกว่า 3,225 คนให้คะแนนเฉลี่ย 8.4 คะแนน นักวิจารณ์ท่านหนึ่งบอกว่า “เกม ‘Persona 5’ เป็นเกม JRPG ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และภาค Royal ทำให้ฉันสงสัยว่าจะเอาอะไรมานำเสนอได้อีก เพราะเกมเก่าก็มีเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมตัวละครที่น่ารักมีหลายมิติอยู่แล้ว แต่ตัวเกมก็ยังพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ลงไปอย่างการต่อสู้ด้วยยุทธวิธีที่ท้าทายใหม่ ๆ รวมถึงตัวละครและเรื่องราวที่เพิ่มเข้ามาอย่างลงตัว รวมถึงพื้นที่ใหม่ๆ ให้สำรวจ และจุดพลิกผันที่เพิ่มเข้ามาจนทำให้เกมนี้สมบูรณ์” ส่วนข้อเสียที่คนไม่ชอบคือการเอาของเก่ามาเพิ่มนั่นนี่แล้วขายซ้ำในราคาเต็ม “เกมภาค Royal น่าจะเป็นส่วนเสริม แต่พวกเขากำลังบังคับให้ผู้เล่นซื้อของอย่างเต็มกำลังอีกครั้งสำหรับเนื้อหาพิเศษ” ถ้าคุณกำลังหาเกมสนุก ๆ เล่น ‘Persona 5 Royal’ คือคำตอบและเหมาะแก่การซื้อซ้ำสำหรับคนที่เล่นไปแล้ว

Persona 5 Royal

Ghost of Tsushima

Ghost of Tsushima

เกมดีไม่ต้องพูดเยอะนั่นคือคำจำกัดความของเกมซามูไร กับตำนานผีร้ายแห่ง ‘Tsushima’ ในเกม ‘Ghost of Tsushima’ เกมแอ็กชันซามูไรที่เราจะได้รับบทเป็นซามูไรที่ต้องหาทางเอาชนะฝ่ายศัตรู ด้วยวิธีการแบบปีศาจที่เป็นการทำลายวิถีแห่งนักรบซามูไร แต่เพื่อชาติและผู้คนเขายอมสละสิ่งนั้น ตัวเกมจะพาเราไปยังฉากที่สวยงามสายลมแสงแดดที่สวยสมจริง รวมถึงการต่อสู้ที่สนุกจริงจังที่คุณต้องชื่นชอบเกมนี้ และด้วยความดีงามนี้ฝั่งนักวิจารณ์กว่า 122 สำนักจึงเทคะแนนเฉลี่ยให้ 83 คะแนน ส่วนคะแนนเฉลี่ยฝั่งคนเล่นกว่า 1,991 คนให้คะแนนสูงถึง 9.1 คะแนน นักวิจารณ์ท่านหนึ่งบอกว่า “เกม ‘Ghost of Tsushima’ เป็นเกมซามูไรที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแอ็กชัน แม้คุณจะไม่รู้ประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นก็สามารถเล่นเกมนี้ให้สนุกได้” ส่วนฝั่งที่ไม่ชอบจะให้เหตุผลว่ามันคล้ายเกมซีรีส์ ‘Assassin’s Creed’ มากไป “เรื่องราวนั้นธรรมดามาก แต่ประเด็นหลักของฉันคือตัวละครนั้นไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอ ดังนั้นการเล่นมันทำให้ปวดหัวจริง ๆ” ซึ่งประเด็นตัวละครไม่ได้อยู่กลางจอเป็นสิ่งที่นักเล่นเกมเชิงลบบอกกัน ยังไงก็ลองไปหามาเล่นดูรับรองว่าไม่ผิดหวัง

Ghost of Tsushima

The Last Guardian

The Last Guardian

เกมดีที่ถูกลืมนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกม ‘Action Adventure’ แนวแก้ไขปริศนาอย่างเกม ‘The Last Guardian’ เกมที่เราจะได้เล่นเป็นเด็กน้อยที่ต้องหาทางแก้ไขปริศนาต่าง ๆ ไปพร้อมกับสัตว์ประหลาดหน้าขน ที่มีรูปร่างเหมือนสุนัขผสมแมวบวกนกเสริมด้วยไฮยีนาจนออกมาเป็นตัวนี้ ซึ่งตอนเล่นเราจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกของความผูกพันของตัวละครในเกม เหมือนเรากับสัตว์เลี้ยงในชีวิตจริง ใครชอบเกมแนวแก้ปริศนาแบบใส่ของตรงนั้นขยับคันโยกตรงนี้ เพื่อเปิดประตูนั้นหรือต้องปีนทางนี้ โดยใช้เพื่อนเราในการผ่านก็ไปหามาเล่นกันได้ ส่วนคะแนนนักวิจารณ์จาก 110 สำนักให้คะแนนเฉลี่ย 82 คะแนน ส่วนฝั่งผู้เล่นกว่า 2,573 คนให้คะแนนเฉลี่ย 7.9 พร้อมบอกว่า “ถ้าคุณรักเกม ‘ICO’ และ ‘Shadow of the colossus’ คุณจะรักเกมนี้” ส่วนฝ่ายที่ไม่ชอบจะต่อว่าเรื่องมุมกล้องระบบการเล่นเกมที่ล้าสมัย อย่างที่นักเล่นเกมคนหนึ่งบอกว่า “การควบคุมกล้อง AI ตัวละครและการเล่นเกมโดยทั่วไปนั้นแย่มาก มีปัญหาด้านประสิทธิภาพ FPS ลดลงเกือบทุกนาที เพราะไม่ได้รับการปรับให้เหมาะสม’ ที่เหลือก็อยู่ที่คุณจะชอบไหม

The Last Guardian

Marvel’s Spider-Man Series

Marvel’s Spider-Man

ในเมื่อบน ‘PlayStation 4’ มีเกม ‘Marvel’s Spider-Man’ ถึงสองภาคเราก็ขอยำรวมกันไปเลย เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจของคนที่ยังไม่ได้ซื้อเกมมาเล่น โดยทั้งสองเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นเพื่อบ้านที่แสนดีอย่าง ‘Spider-Man’ ที่ออกปราบเหล่าร้าย ขณะที่ ‘Marvel’s Spider-Man Miles Morales’ จะเป็นภาคต่อกับการเริ่มต้นเป็นเพื่อนบ้านที่แสนดีแบบฝึกหัดที่ต้องเจอเรื่องราวที่ใหญ่เกินตัว โดยเกม ‘Marvel’s Spider-Man’ ได้คะแนนเฉลี่ยจากนักวิจารณ์ 116 สำนักให้ 87 คะแนน ส่วนผู้เล่นกว่า 7,275 คนให้คะแนน 8.7 กับคำชมที่มากมายว่า “Spider-Man เป็นเกมแอ็กชันที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยม และมีเรื่องราวที่น่าทึ่งรวมถึงกลไกการเล่นเกมที่จะไม่ทำให้คุณเบื่อเลยสักนิด” ส่วนข้อเสียคือภารกิจที่จำเจซ้ำซากเหมือนฮีโรพื้นบ้านที่ช่วยผู้คน “เกมนั้นสนุกในตอนแรก แต่กลับน่าเบื่อและซ้ำซากหลังจาก 30 นาทีผ่านมา”

Marvel’s Spider-Man

ส่วน ‘Marvel’s Spider-Man Miles Morales’ ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ 89 สำนักให้คะแนนเฉลี่ย 85 คะแนน ส่วนผู้เล่น 1,640 คนให้คะแนน 7.5 พร้อมคำชมที่ไม่ต่างกับภาคก่อนอย่าง “ตัวเกมมีการต่อสู้ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นกว่าภาคเก่า เนื้อเรื่องที่น่าสนใจและเล่นประเด็นที่แปลกใหม่กว่าภาคเก่า แถมตัวละครก็น่าสนใจยิ่งขึ้น ตัวเกม ‘Marvel’s Spider-Man Miles Morales’ นี้จึงเป็นเกมที่เหนือชั้นกว่าภาคก่อนในทุก ๆ ด้าน” ส่วนข้อเสียหลัก ๆ ที่คนเล่นบ่นกันเกือบทุกฝ่าย ก็คือความสั้นของเกมที่เอามาขายราคาเต็ม แทนที่จะเอามาขายเป็น DLC หรือราคาที่ถูกลง “พวกเขาสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ น่าเสียดายที่มันแทบไม่มีการต่อสู้กับหัวหน้าที่น่าจดจำเมื่อเทียบกับภาคก่อน สิ่งที่ดีที่สุดที่เกมนี้มีคือเครื่องแต่งกาย แต่ฉันไม่ได้ซื้อเกมนี้มาเพื่อดูเครื่องแต่งกาย ฉันต้องการเนื้อหาจริงของเกมนี้” สรุปสั้น ๆ ถ้าคุณชอบเพื่อนบ้านที่แสนดีคนนี้ควรหามาเล่น และถ้าคุณคิดว่าเกมราคาเต็มกับการเล่นแค่ 5 ชั่วโมงจบในภาคเสริมอย่าง ‘Marvel’s Spider-Man Miles Morales’ ก็หามาเล่นดู

Marvel’s Spider-Man Miles Morales

Gran Turismo SPORT

Gran Turismo SPORT

มาที่เกมแข่งรถระดับตำนานที่ไม่เคยทำให้แฟน ๆ ผิดหวังอย่างซีรีส์ ‘Gran Turismo’ ที่เป็นเกมแข่งรถที่มีกราฟิกที่สวยงามระบบการเล่นการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่อ้างอิงมาจากของจริง  รวมถึงรถสนามแข่งที่มีอยู่จริงจึงทำให้เกมนี้คือเกมแข่งรถที่ดีที่สุดบนเครื่อง ‘PlayStation’ เรื่อยมา แต่ในเกม ‘Gran Turismo SPORT’ กลับมีคะแนนที่ทำให้เกิดเสียงแตกออกมาจากสองฝั่ง โดยฝั่งนักวิจารณ์ 83 สำนักให้คะแนนเฉลี่ย 75 คะแนน ส่วนผู้เล่นกว่า 1,715  คนให้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.1 คะแนน กับการบ่นของแฟน ๆ ที่บอกว่า เกมนี้แม้จะยอดเยี่ยมทุกอย่างเหมือนที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เกม ‘Gran Turismo SPORT’ ตัดออกไปคือโหมดการเล่นคนเดียว รวมถึงระบบปรับแต่งรถที่ไม่สามารถทำได้เหมือนในภาคอื่น ๆ นี่ยังไม่นับจำนวนรถที่น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ ที่ผ่านมา “นี่ไม่ใช่เกม ‘Gran Turismo’ เลย มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเวอร์ชันสาธิตมากกว่าเมื่อเทียบกับภาคที่ผ่านมา” หรือจะเป็น “ตัวเกมรถน้อยและสนุกน้อยกว่างานโชว์รถในคืนวันศุกร์ในเมืองเล็ก ๆ เสียอีก ฉันเกือบซื้อ ‘XBox One’ เพราะฉันต้องการเล่น ‘Forza’ แต่ฉันคิดว่าเร็วไปที่มาซื้อเกมนี้” แม้โดยรวมจะออกไปทางเสียงลบ แต่ถ้าคุณชอบเกมแข่งรถดี ๆ ก็ไม่ควรพลาด

Gran Turismo SPORT

The Last of Us Series

The Last of Us Series

ปิดท้ายกับเกมซีรีส์ ‘The Last of Us’ ที่ทั้งสองเกมก็มีเฉพาะ ‘PlayStation 4’ เราเลยขอหยิบทั้งสองภาคมาพูดถึง เพื่อให้คนที่สนใจจะได้ตัดสินใจหาเกมนี้มาเล่นกันดู โดยคนที่ยังไม่รู้จัก เกม ‘The Last of Us Remastered’ นี้คือเกมแนว ‘Action Adventure Survival’ ที่เอาเกมภาคเก่าสมัย ‘PlayStation 3’ มาปรับปรุงกราฟิกให้สวยงามขึ้น กับการเดินทางข้ามประเทศเพื่อพาเด็กสาวที่เป็นกุญแจในการแก้ไขเชื้อซอมบี้หัวเห็ดได้ กับภาค 2 ที่ตัวเกมจะบอกเล่าเรื่องราวหลายปีหลังจากจบ ‘The Last of Us’ ภาคแรก กับสิ่งที่ตัวละครได้กระทำเอาไว้กับเรื่องราวใหม่ สถานที่ใหม่ และตัวละครใหม่ที่ถ้าคุณไม่รักเกมนี้ก็เกลียดไปเลย โดยในภาคแรกของ ‘The Last of Us’ ได้คะแนน 95 จาก 70 สำนักเกม ส่วนคนเล่นจาก 16,974 คนให้คะแนน 9.2 นับว่าสูงมาก ๆ พร้อมเสียงชื่นชมมากมายจากทั้งสองฝั่งว่า “หากคุณยังไม่ได้เล่น ‘The Last of Us’ และคุณเป็นเจ้าของ ‘PlayStation 4’ ฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไปซื้อเกมนี้มาเล่น แล้วคุณจะได้ช่วงเวลาที่น่าจดจำในเกมนี้” ขณะที่เสียงด้านลบที่ไม่รู้จะว่าอะไร ก็จะติเรื่องเนื้อเรื่องจากจุด A ไปจุด B กับตัวละครที่น่ารำคาญ กับการบอกว่า “ทาง ‘Sony’ จ่ายเงินให้ผู้ลงคะแนนและผู้วิจารณ์อย่าเสียเวลาและเงินไปเปล่า ๆ” ซึ่งคนที่เล่นมาแล้วจะรู้ดีว่าเกมนี้สนุกขนาดไหน

The Last of Us

มาที่ ‘The Last of Us Part II’ กันบ้างกับภาคต่อของเกมระดับตำนาน ที่ภาคแรกดำเนินด้วยความรักและความผูกพัน ส่วนภาค 2 นั้นจะดำเนินไปด้วยความโกรธแค้นอาฆาตและพยาบาท ที่ตรงข้ามกับภาคแรกชัดเจน ซึ่งเกมนี้ก็เป็นหนึ่งในเกมเสียงแตกจากทั้งนักวิจารณ์และคนเล่นที่สวนทางกัน เพราะนักวิจารณ์ให้จาก 121 สำนักให้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 93 คะแนน ส่วนคนเล่นเกมกว่า 156,158 คนให้คะแนนเฉลี่ยแค่ 5.7 เท่านั้นเรียกว่าต่างกันมาก ซึ่งฝ่ายชมเชยจะบอกถึงความยอดเยี่ยมของระบบการเล่นกราฟิกเนื้อเรื่องฉากที่สมบูรณ์แบบ  ยกตัวอย่างท่านหนึ่งบอกว่า “เกม ‘The Last of Us Part II’ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของภาพยนตร์และเกมที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลและสนุกสนาน การเขียนบทที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นผลงานชิ้นเอกที่แท้จริงและเป็นเกมที่คนมี ‘PlayStation 4’ ต้องหามาเล่น” ส่วนฝ่ายคนเล่นที่ไม่ชอบนั้นเกือบทั้งหมด จะต่อว่าเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของเกมที่ทำร้ายจิตใจคนเล่นแบบไม่ใยดี ยกตัวอย่างคนเล่นที่บอกว่า “โครงเรื่องที่แบนราบและแย่เหมือนกันกับ ‘Disney Star Wars Trilogy’ และแย่เหมือนกับ ‘Game of Thrones’ ในภาคสุดท้าย  และถ้าหากคุณเป็นแฟนเกมภาคแรกอย่าเสียเวลากับขยะเกมนี้ เพราะคุณจะโกรธและไม่พอใจเกมนี้เป็นอย่างมาก” มาถึงตรงนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่าคิดอย่างไรกับเกมนี้ เพราะอย่างที่เราได้บอก สิบปากว่าไม่เท่าลองเล่นเองสำหรับเกมนี้

The Last of Us Part II

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 12 เกม Exclusive ที่มีเฉพาะบน ‘PlayStation 4’ ที่เราหยิบยกมานำเสนอ โดยอ้างอิงความน่าสนใจของเกมมาจากทาง ‘Metacritic’ พร้อมบทวิจารณ์ของทั้ง 2 ฝ่ายมานำเสนอ เพื่อให้คนที่ยังไม่ได้ซื้อเครื่องเกม ‘PlayStation 4’ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น และถึงแม้จะเป็นเกมเก่าถึง 8 ปีแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังมีเกมวางจำหน่ายอยู่ ซื้อมาเล่นตอนนี้ก็ยังคุ้มค่า หรือจะซื้อมาเล่นระหว่างรอ ‘PlayStation 5’ ก็ได้ เพราะเกมเหล่านี้ไม่สามารถหาซื้อได้จากที่อื่นนอกจาก ‘PlayStation 4’ กับ 5 เท่านั้น และถ้าใครมีเกมเฉพาะ ‘PlayStation 4’ เกมไหนอีกก็บอกมาได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส