สังคมออนไลน์กำลังจะเป็นสื่อกระแสหลักของโลกในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของประชาชนและผู้บริโภคในหลายมิติ

ในสังคมโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้ลงทะเบียนใช้งานในสังคมออนไลน์กว่าพันล้านรายทั่วโลก ซึ่งผู้ใช้เหล่านั้นมีการติดตาม (follow) บัญชีผู้ใช้อื่นอีกเป็นร้อยหรือพันบัญชี นอกจากนี้ กระบวนการในการฟีดข้อมูลข่าวสารส่วนใหญ่จะเรียงลำดับโพสต์ โดยดูจากระดับความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน หรือเรื่องที่กำลังเป็นที่สนใจ มากกว่าเวลาในการโพสต์ นั่นหมายความว่าผู้ใช้อยากเห็นการอัพเดทข้อมูลอยู่เสมอเป็นลำดับแรกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชีที่ผู้ใช้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานในทางใดทางหนึ่ง โดยเฉพาะจะมีผลมากกับผู้ที่ไม่ชอบการติดตามโพสต์จำนวนมาก แต่จะติดตามโพสต์ที่ชอบเท่านั้น จึงทำให้เห็นว่าคุณภาพของข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าปริมาณเสมอ ซึ่งในปัจจุบันรูปแบบของสังคมออนไลน์และพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ปรากฎอยู่นั้น เป็นการตอกย้ำความจริงดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสื่อสังคมออนไลน์มีเกิดขึ้นทุกขณะ ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เล่นรายใหญ่ของสื่อสังคมออนไลน์ทั้ง 3 ราย ได้แก่ Facebook, Twitter และ Linkedin นั้นมีฟังก์ชันการให้บริการที่คล้ายกัน เพียงแต่อาจจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย จึงทำให้ในปัจจุบันเริ่มมีผู้เล่นรายใหม่พยายามเสนอรูปแบบที่แตกต่างและหลากหลาย อย่างเช่น Instagram และ Snapchat แต่ก็ถือว่ายังมีบทบาทไม่มากนัก ถึงแม้ว่าจะมีฐานผู้ใช้จำนวนมากก็ตาม

hands-smartphone-taking-photo-festival

ในปีนี้เป็นที่ชัดเจนมากที่ว่าการถ่ายทอดสดออนไลน์มีมากขึ้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เนื้อหาวีดีโอเริ่มมีอิทธิพลต่อการทำกลยุทธ์การตลาด โดยได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่ายและผู้ใช้เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับสื่อยุคเก่า ประกอบกับแนวโน้มของผู้ใช้ที่ต้องการรับชม “การถ่ายทอดสด” มากขึ้น และต้องการอัพเดทข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา ดังนั้น จึงทำให้การถ่ายทอดสดออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะล่าสุดที่มีการเปิดตัว เฟซบุคไลฟ์ (Facebook Live) และมีการใช้งานอย่างถล่มทลาย

ปุ่ม”ซื้อ” กลายเป็นสิ่งธรรมดาในสื่อสังคมออนไลน์ในวันนี้ การโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์นั้นพบได้ทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นช่องทางการหารายได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้รูปแบบในการโฆษณาได้เปลี่ยนมาเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการช้อปปิ้งมากยิ่งขึ้น โฆษณาและผลิตภัณฑ์เริ่มปรากฏให้เห็นในหน้าฟีดข่าวของผู้ใช้อย่างแนบเนียบ และมีความแตกต่างจากเนื้อหาหลักเพียงเล็กน้อย หรือพูดง่ายๆก็คือ เป็นการเพิ่มปุ่ม “ซื้อ” ที่ง่ายๆ ที่นำมาสู่กระบวนการซื้อขายออนไลน์ ทำให้ผู้ติดตามกลายเป็นลูกค้าจริงๆ

แอพพลิเคชั่นใหม่กำลังเปลี่ยนรูปแบบการปฏิสัมพันธ์ในสังคม แรงผลักดันที่ทำให้เกิดสื่อสังคมออนไลน์นั้นมาจาก “สังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบ” นั่นเอง ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อให้มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้โดยตรง โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบการสนทนา ปัจจุบันรูปแบบของการปฏิสัมพันธ์มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น Facebook ที่มีช่องทางการสื่อสารใหม่อย่าง Messenger for business ที่ทำหน้าที่เป็นช่องทางในการบริการลูกค้าอีกทางหนึ่ง แบรนด์สินค้าและผู้บริโภคสามารถที่จะติดต่อสื่อสารกันได้ในช่องทางใหม่และหลากหลายยิ่งขึ้นและกำลังอยู่ในช่วงการขยายการให้บริการ

สังคมออนไลน์ทำให้เกิดแรงผลักดันให้มีการเจาะจงในการให้บริการเป็นรายบุคคลมากขึ้น

สังคมออนไลน์ทำให้เกิดแรงผลักดันให้มีการเจาะจงในการให้บริการเป็นรายบุคคลมากขึ้น (personalization) ผู้ใช้บางรายอาจจะเบื่อหน่ายที่ต้องเห็นเนื้อหาประเภทเดิมๆ มาอยู่ในหน้าฟีดข่าว และอาจเบื่อที่จะต้องเห็นโพสต์ที่ตัวไม่ได้มีความสนใจในเนื้อหานั้นเลย ทำให้ผู้ใช้ต้องการกระบวนการนำเสนอเนื้อหา หรือบริการและสินค้า โดยพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลเป็นการเฉพาะมากกว่า และ Customization (หรือการปรับแต่งข้อมูลและบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้) อย่างชัดเจน และผู้ให้บริการต่างก็ปรับปรุงพัฒนาเพื่อสนองความต้องการดังกล่าว โดยเมื่อไม่นานมานี้ Facebook ได้ถูกกล่าวหาว่ามีอคติทางการเมือง เนื่องจากมีการปรับให้เป็น Personalization มากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะแสดงเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเมืองที่เอียงไปในกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ออกความเห็นบน Facebook จนเกิดผลกระทบกลายเป็นแนวร่วมสนับสนุนกลุ่มการเมืองนั้นไปโดยปริยาย ซึ่งคาดว่า Facebook จะถูกใช้เป็นเครื่องมือหลักในการหาเสียงทางการเมืองในทศวรรษนี้

จากอิทธิพลของสังคมออนไลน์ ที่มีผลต่อพฤติกรรมของประชากรโลกในปัจจุบัน เป็นผลให้นักวางแผนด้านสื่อและการตลาดต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับการปรับเปลี่ยนวิธีคิดและยุทธวิธีการทำธุรกิจและการออกแบบการสื่อสารกับมวลชนกลุ่มเป้าหมาย แต่อย่าเพิ่งตกใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้มากเกินไป เพราะมันเป็นเพียงบทที่ 1 เท่านั้น

“สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร”

18 ส.ค. 2559 14:00

เศรษฐพงค์.com