วันที่ 13 มิถุนายน 2565 มีรายงานจากคริปโทเวลล์ (CryptoWhale) ว่า MicroStrategy ของ ไมเคิล เซย์เลอร์ (Michael Saylor) ได้มีการเคลื่อนย้ายบิตคอยน์จำนวน 2,089 บิตคอยน์ ไปยังกระเป๋าใหม่ โดยคาดว่าเป็นสัญญาณของการเตรียมเทขายครั้งใหญ่ หลังบริษัทขาดทุนกว่า 1,000 ล้านเหรียญ (ราว 30,000 ล้านบาท) ในภาวะตลาดขาลง

ปัจจุบัน MicroStrategy เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือบิตคอยน์มากที่สุดในโลกอยู่ที่จำนวน 129,918 บิตคอยน์ โดยได้ทยอยซื้อบิตคอยน์มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วงราคาต่ำถึงราคาสูง โดยราคาเฉลี่ยที่เข้าซื้ออยู่ที่ 30,000 เหรียญ (ราว 1,000,000 บาท) ทั้งนี้ MicroStrategy ซึ่งในปัจจุบันที่ราคาบิตคอยน์อยู่ที่ราว 21,000 เหรียญ (ราว 730,000 บาท) ทำให้บริษัทขาดทุนกว่า 1,000 ล้านเหรียญ (ราว 30,000 ล้านบาท) ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือจำนวนเงินที่เอามาซื้อบิตคอยน์นั้น ทาง MicroStrategy ได้มีการกู้ยืมเงินมาบางส่วนด้วย

นอกจากการขาดทุนในบิตคอยน์แล้ว หุ้นของ MicroStrategy ในตอนนี้ยังลดลงถึง 24.32% และทำให้เกิดการเทขายหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับคริปโทอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ รายงานของคริปโทเวลล์เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายบิตคอยน์จำนวน 2,089 บิตคอยน์ (ราว 1,500 ล้านบาท) ไปยังกระเป๋าใหม่ จึงสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในตลาดไม่น้อย ว่านี่เป็นเพียงการเคลื่อนย้ายเหรียญเพื่อความปลอดภัย หรืออาจจะเป็นสัญญาณของการเทขายครั้งใหญ่กันแน่

ซึ่งในกรณีเลวร้ายที่สุด ถ้าเกิด MicroStrategy เทขายบิตคอยน์ขึ้นมาจริง ๆ เมื่อรวมกับเหตุการณ์การล่มสลายของ LUNA และแพลตฟอร์มคริปโทขนาดใหญ่อย่างเซลเซียสที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดหายนะครั้งใหญ่กับตลาดทั้งตลาดเลยก็เป็นได้

ที่มา: CoinDesk