มหาเศรษฐีอย่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา ได้ออกมาชี้แจงผ่านการตอบกลับของทวิตเตอร์ส่วนตัว ต่อคอมมูนิตี้ของชาวคริปโตว่าตัวเขาไม่ได้ทำการขายบิตคอยน์ส่วนตัวทิ้ง แม้ว่าเทสลาจะเทขายบิตคอยน์ไป 10% เพื่อทดลองอะไรบางอย่างก็ตาม

เรื่องราวนี้เริ่มมาจากที่เดฟ พอร์ตนอย (Dave Portnoy) นักแสดงตลกชาวอเมริกันที่กล่าวหาว่าอีลอน มัสก์ ได้รับผลประโยชน์เต็ม ๆ จากการปั๊มและถ่ายโอนบิตคอยน์จากการที่เขาชอบออกมาปั่นในทวิตเตอร์เรื่องสกุลเงินดิจิทัล

อีลอน มัสก์ ได้ยืนยันในการตอบกลับว่า ตัวเขาไม่ได้ขายบิตคอยน์ในบัญชีส่วนตัวทิ้งเพื่อทำกำไร มีเพียงแค่ทดลองขายบิตคอยน์ที่เทสลาถือครองอยู่ โดยขายไปเพียงแค่ 10% เท่านั้น เพื่อเป็นการพิสูจน์สภาพคล่องของบิตคอยน์ว่ามันจะเป็นทางเลือกแทนการถือเงินสดได้หรือไม่

ตามรายงานของ Cointelegraph กล่าวว่าเทสลาขายส่วนหนึ่งของการถือครองบิตคอยน์ไปในไตรมาสแรกของปี 2021 โดยสร้างรายได้สุทธิราว 272 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8,528 ล้านบาท ซึ่งได้กำไรไปกว่า 101 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,166 ล้านบาท

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เทสลาได้เร่งดำเนินการในตลาดคริปโตอย่างหนัก หลังจากเปิดเผยถึงการเข้าซื้อบิตคอยน์ไปในมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 45,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าคิดเป็น 7.7% ของสถานะเงินสดรวมในเวลานั้น ซึ่งในช่วงเดือนเดียวกัน เทสลายังประกาศว่าจะเริ่มรับการชำระเงินด้วยบิตคอยน์สำหรับซื้อรถยนต์ด้วย โดยเน้นว่าจะเก็บเงินไว้ในกระเป๋าบิตคอยน์แทนที่จะเปลี่ยนเป็นเงินสด

โดยทั่วไปแล้ว อีลอน มัสก์ มักจะไม่เปิดเผยจำนวนบิตคอยน์ที่เขาถือเป็นการส่วนตัว แต่ทวีตล่าสุดของเขาชี้ให้เห็นว่าเขาก็คงไม่เต็มใจที่จะขายมันเท่าไร

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส