Nio ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่กำลังมาแรงได้เดินเกมเข้าสู่การจัดหาลิเทียมวัตถุดิบสำหรับแบตเตอรี่เองโดยตรงด้วย ซึ่งไม่ได้นั่งหวังพึ่งซัปพลายเออร์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากลิเทียมมีราคาที่แพงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในการผลิตและผลกำไร บริษัทจึงได้เข้าซื้อหุ้นใน Greenwing Resources บริษัทเหมืองแร่ลิเทียมของออสเตรเลียที่ 12.16%

ในงานประกาศผลประกอบการของเดือนมิถุนายน Nio ได้เผยแผนเตรียมพร้อมในการผลิตแพ็กแบตเตอรี่ของตัวเองในปี 2024 เนื่องจากในปีนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ต้องแบกต้นทุนวัสดุ วัตถุดิบแบตเตอรี่และชิปที่แพงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ไตรมาสแรกบริษัทมีอัตรากำไรที่ 18.1% และเดือนเมษายนต้องเผชิญกับราคาวัตถุดิบแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้นจึงต้องประกาศปรับขึ้นราคารถยนต์ แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเพราะผลประกอบการไตรมาส 2 ขาดทุนถึง 409.8 ล้านเหรียญ (15,600 ล้านบาท) และอัตรากำไรอยู่ที่ 13.0%

ต้นเดือนกันยายน ราคาลิเทียมคาร์บอเนตในจีนทำสถิติสูงสุด 501,500 หยวน/ตัน (2,644,745 ล้านบาท/ตัน) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 3 เท่า แม้ว่าในเดือนมีนาคมหน่วยงานรัฐได้จัดประชุมเพื่อหาทางออกให้ราคาดีขึ้นกว่านี้ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ Nio ตัดสินใจเข้ามาจัดหาวัตถุดิบเพื่อคุมต้นทุนด้วยตัวเอง

การเข้าซื้อหุ้นใน Greenwing ของ Nio มีผลให้บริษัทได้สิทธิ์ส่งตัวแทนนั่งอยู่ในคณะกรรมการของ Greenwing และได้สิทธิ์ในการซื้อสินทรัพย์ระหว่าง 20% – 40% ของทุนที่ออกโดย Andes Litio SA (“Andes Lithio”) ซึ่งถือสิทธิ์ตัวเลือกในโครงการ San Jorge Lithium ที่ตั้งอยู่ใน ‘Lithium Triangle’ แหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในอาร์เจนตินา ชิลี และโบลิเวีย 

ที่มา : techcrunch

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส