เมื่อวานนี้ (2 พฤศจิกายน 2564) นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง “การร่วมทุนของบริษัทย่อยและการจัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนใหม่” 

โดยบริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100% ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ชื่อ บริษัท ทีป๊อป อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (TPOP) เป็นบริษัทประเภทธุรกิจบริหารศิลปินและแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยทุนจดทะเบียนรวม 150 ล้านบาท จำนวนหุ้น 1.5 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้น 100 บาทต่อหุ้น

ซึ่งโครงสร้างการถือหุ้น TPOP นั้น มีบริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ร่วมกับนายคณิต วัฒนประดิษฐ์, นายชลากรณ์ ปัญญาโฉม, นายสุรการ ศิริโมทย์ ถือหุ้นสัดส่วน 60% ของทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้นสามัญรวมกัน 900,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท มูลค่าเงินลงทุนรวม 90 ล้านบาท 

ส่วนการถือหุ้นที่เหลืออีก 40% ถือโดย บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB10X) จำนวนหุ้นสามัญ 600,000 หุ้น มูลค่าเงินลงทุนรวม 60 ล้านบาท ทั้งนี้จะส่งผลให้ TPOP เป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เม็ดเงินลงทุนในครั้งนี้ใช้เงินหมุนเวียนจากการดำเนินงานของบริษัท

ด้านนายเดชพล แหลมวิไล Head of Strategic Partnership บริษัท เอสซีบี เท็นเอ็กซ์ จำกัด เล่าถึงเหตุผลที่ SCB 10X เลือกลงทุนใน T-POP ไว้ว่า “วงการเพลงและบันเทิงเป็นสิ่งที่ไม่มีกำแพง สามารถเข้าถึงได้ง่าย ส่งออกไปต่างประเทศได้ ขอเพียงแค่พื้นที่เหล่านั้นสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แถมธุรกิจบันเทิงคนดูก็ติดง่าย หมือนกับเวลาคนเราติดยูทูบ ติดเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม ผู้คนมีเอนเกจกันตลอดเวลา ถ้ามองแค่ในแง่วางโฆษณาก็สามารถทำรายได้ได้มากแล้ว ขอเพียงแค่มีสเกลที่เหมาะสม”

“ดังนั้น จึงหมายความว่ามีโอกาสที่ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ทำเรื่องวงการเพลงจะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และทำให้ T-POP มีโอกาสที่จะเป็น ‘ยูนิคอร์น’ หรือเป็น ‘ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ’ ด้วยโมเดลที่ยั่งยืนได้ในอนาคต” พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “เจน Z เป็นคีย์ชาลเลนจ์ของการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล เราต้องเข้าใจเด็กเจน Z ให้ได้ แล้วออกแบบประสบการณ์ให้ตรงกับความเข้าใจของเขา ถ้าเราสามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้”

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส