23 กุมภาพันธ์ ทอรี บรูโน (Tory Bruno) ซีอีโอของ ULA บริษัทร่วมทุนของ Lockheed Martin Space และ Boeing ในธุรกิจขนส่งอวกาศได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวของ SpaceNews ว่าบริษัทมีเป้าหมายจะปล่อยจรวด Vulcan Centaur เที่ยวบินแรกในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ โดยมีกรอบเวลาเปิดน่าน 4 วันด้วยกัน

จรวด Vulcan Centaur เป็นจรวดรุ่นใหม่ที่ ULA กำลังพัฒนาเพื่อแทนที่จรวด Atlas V มีแผนจะปล่อยสู่อวกาศในเดือนกันยายนปี 2018 แต่เนื่องจากเลือกใช้เครื่องยนต์ BE-4 ของ Blue Origin ที่มีปัญหาในการพัฒนาลากยาวมานาน

บรูโนเผยเหตุผลที่เลือกช่วงวันดังกล่าวเพราะบริษัทมีกำหนดจะปล่อยยานลงจอดบนดวงจันทร์ Peregrine ของบริษัท Astrobotic ที่ทำโครงการให้กับนาซาเพื่อบินไปยังดวงจันทร์ และตอนนี้จรวด Vulcan Centaur พร้อมที่จะนำไปติดตั้งกับแท่นปล่อยจรวดเพื่อทดสอบ ‘wet dress rehearsal’ โหลดเชื้อเพลิงที่เย็นจัดพร้อมซ้อมขั้นตอนนับถอยหลัง และตามด้วยทดสอบจุดระเบิดเครื่องยนต์ เมื่อสำเร็จก็สามารถประกอบรวมร่างกับยาน Peregrine เพื่อติดตั้งกับแท่นปล่อยจรวดเพื่อปล่อยสู่อวกาศ

ปัจจัยหลักของการปล่อยจรวด Vulcan Centaur อยู่ที่เครื่องยนต์ BE-4 สำหรับใช้ขับดันในส่วนของบูสเตอร์ ซึ่งระหว่างทดสอบพบว่าการทำงานบางอย่างยังไม่สอดคล้องกัน แต่ ULA มั่นใจว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่และสามารถจัดการได้

จรวด Vulcan Centaur ควรจะบินครั้งแรกในปี 2022 แต่เนื่องจาก Peregrine ขอให้ ULA รออีกหน่อยเพราะต้องการเวลาเพิ่มขึ้นในการพัฒนายาน Peregrine ซึ่งตอนนี้พึ่งเสร็จสิ้นการทดสอบ และกำลังเตรียมขั้นตอนสุดท้าย จากนั้นก็จะส่งไปประกอบร่างกับจรวด Vulcan Centaur ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัลในฟลอริดา

นอกจากนี้จรวด Vulcan Centaur ยังมีลูกค้าคือ ภารกิจ Enterprise Flight ของ Celestis ที่จะปล่อยไปพร้อมกับยาน Peregrine และจะมีปล่อยดาวเทียมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง Kuiper ให้กับ Amazon รวมทั้งปล่อยยาน Dream Chaser ของ Sierra Space ในการขนส่งสัมภาระไปยังสถานีอวกาศนานาชาติให้กับนาซา

ที่มา : engadget.com และ spacenews.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส