แม้ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกมียอดผู้ติดเชื้อมากกว่าสองล้านคน และเสียชีวิตแล้วกว่าหนึ่งแสนคน แต่ก็ไม่สามารถฉุดรั้งความมุ่งมั่นของ SpaceX สำหรับเที่ยวบินอวกาศได้ เพราะหลังจากภารกิจประวัติศาสตร์ที่จรวด Falcon 9 ได้ปล่อยแคปซูล Crew Dragon ส่ง 2 นักบินอวกาศจากพื้นแผ่นดินสหรัฐฯ ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติได้สำเร็จ ก็ยิ่งเพิ่มแรงฮึดให้ SpaceX คิดแผนใหม่ ๆ ออกมา

อังคารที่ 16 มิถุนายน SpaceX ได้ประกาศรับสมัครผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติงานนอกชายฝั่งทะเลของเมืองบราวน์สวิลล์รัฐเท็กซัส และต่อมา Elon Musk ซีอีโอของ SpaceX ก็ได้ยืนยันว่ากำลังจะสร้างท่าอวกาศยานลอยน้ำ เพื่อเป็นฐานปล่อยจรวดขนาดใหญ่หรือระดับ Superheavy สำหรับส่งยานอวกาศไปยังดวงจันทร์ ดาวอังคาร และการเดินไปรอบโลกด้วยความเร็วเหนือเสียงแบบไฮเปอร์โซนิก

ถ้าตีความตามที่ซีอีโอเปิดเผยถึงท่าอวกาศยานลอยน้ำแห่งนี้น่าจะสร้างมารองรับกับจรวด Super Heavy และยาน Starship เพื่อจะเปิดเที่ยวบินเชิงพาณิชย์บินไปท่องเที่ยวรอบดวงจันทร์โดยมี Yusaku Maezawa มหาเศรษฐีของญี่ปุ่นเป็นลูกค้ารายแรก และจะขยายไปสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร นอกจากนี้ Starship จะเป็นเที่ยวบินโดยสารความเร็วสูงเหนือเสียงแบบไฮเปอร์โซนิกเพื่อส่งผู้โดยสารจากท่าในประเทศหนึ่งไปยังท่าของอีกประเทศหนึ่งด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งในวิดีโอตัวอย่างเป็นการจำลองการเดินทางระหว่าวนิวยอร์กไปยังเซี่ยงไฮ้ในเวลา 39 นาที

นอกจากนี้ยังมีการคาดเดาว่าท่าในทะเลจะสร้างด้วยแพลตฟอร์มน้ำมัน (Oil platform : โครงสร้างขนาดใหญ่สำหรับขุดเจาะน้ำมัน) ที่มีไฮเปอร์ลูปรับส่งผู้โดยสารไปและกลับจากแผ่นดิน ซึ่งซีอีโอก็ได้ทวีตตอบว่า “สวยมาก”

การสร้างท่าอวกาศยานลอยน้ำในทะเลน่าจะมีเหตุผลมาจากความกังวลของผู้ให้บริการเกี่ยวกับความปลอดภัยและเสียงรบกวน เพราะถ้าเกิดเหตุผิดพลาดจะไม่เสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนมากนัก คาดว่าการทดสอบเที่ยวบินความเร็วเหนือเสียงรอบโลกน่าจะเริ่มขึ้นตามที่ซีอีโอเคยบอกว่าใน 2 หรือ 3 ปี ก็ราวปี 2022 หรือ 2023 ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ก็ขอให้ติดตามกันต่อไป

ที่มา : engadget และ techcrunch ขอบคุณภาพปกจาก : wikimedia.org

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส