การปรากฏตัวของ มอร์แกน ฟรีแมน (Morgan Freeman) นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 85 ปี ในการแสดงสุนทรพจน์ที่เรียบง่ายและทรงพลัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ณ สนาม อัล เบย์ต สเตเดียม (Al Bayt Stadium) เมืองอัลคอร์ (Al Khor) ประเทศกาตาร์ เมื่อค่ำคืนของวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กลายมาเป็นที่พูดถึงอย่างมาก
การปรากฏตัวของเขาก่อให้เกิดความคิดเห็นแบ่งสองฝั่ง บางคนก็ชื่นชอบการแสดงชุดนี้ และปลาบปลื้มกับการปรากฏตัว และสุนทรพจน์ที่เปล่งออกมาจากน้ำเสียงอันทรงพลังของนักแสดงระดับรางวัลออสการ์ แต่หลายคนก็ตั้งข้อสงสัยถึงจุดยืนของเขา และวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหมาะสมแล้วหรือไม่ ที่เขาตัดสินใจมาปรากฏตัวในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาในผืนดินประเทศกาตาร์ ที่มีข้อครหาและการดำเนินงานที่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หลายคนน่าจะสังเกตเห็นภาพที่ฟรีแมนปรากฏตัวหน้าเวทีพร้อมกับสวมถุงมือสีเบจที่มือข้างซ้ายของเขา ซึ่งส่วนหนึ่งในการแสดงชุด ‘The Calling’ นี้ จะมีจังหวะที่เขายื่นมือข้างซ้ายที่มีถุงมือนี้ไปจับมือกับ กานิม อัล มุฟตาห์ (Ghanim Al Muftah) ยูทูบเบอร์และเยาวชนต้นแบบชาวกาตาร์ วัย 20 ปีด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนก็คงสงสัยว่าเขาสวมถุงมือนั้นไปเพื่ออะไร และทำไมต้องสวมเฉพาะข้างซ้าย
ถุงมือที่เขาใส่นั้นเป็นถุงมือที่เรียกว่า ถุงมือรัดกล้ามเนื้อ (Compression Gloves) ซึ่งเป็นถุงมือสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อ เช่น ข้อมืออักเสบ ถุงมือชนิดนี้จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และช่วยลดอาการปวด บวม ตึงที่บริเวณมือ ซึ่งเขาสวมถุงมือนี้มาตลอด 14 ปี และจะถอดออกเฉพาะตอนทำงานบางอย่าง เช่นเวลาแสดงภาพยนตร์หรือถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น
ส่วนเหตุผลที่เขาต้องสวมถุงมือนี้ ต้องย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อ 14 ปี ก่อน ในค่ำคืนของวันที่ 3 สิงหาคม ปี 2008 เวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ Nissan Maxima ปี 1997 พลิกคว่ำบริเวณถนนเมืองชาร์ลส์ตัน (Charleston) รัฐมิสซิสซิปปี (Mississippi) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของฟรีแมนมากนัก ตัวรถอยู่ในสภาพพลิกคว่ำตกไหล่ทางอย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้อาจจะเกิดจากการที่ฟรีแมนเผลอหลับไปชั่วครู่ ทำให้ตัวรถแฉลบเข้ากับไหล่ทาง และพลิกคว่ำหลายตลบ ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน แต่โชคดีที่ทั้งคู่คาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้ เขาและ เดมาริส เมเยอร์ (Demaris Meyer) หุ้นส่วนธุรกิจที่เดินทางมาด้วยกันติดอยู่ในซากรถที่พังยับเยิน เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตัดถ่างไฮดรอลิกเพื่อเอาทั้งคู่ออกมาจากซากรถ โดยที่ทั้งคู่ตรวจไม่พบสารเสพติดและแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ทำให้ทั้งคู่รอดจากเงื้อมมือมัจจุราชมาได้ราวกับปาฏิหาริย์
แม้ดารารุ่นใหญ่จะบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ยังคงมีกำลังใจที่ดีมาก ๆ ขนาดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลานั้นเผยว่า ฟรีแมนนั้นยังคงแจ่มใส ไม่มีอาการตื่นกลัวใด ๆ แถมยังปล่อยมุกตลกกับทีมกู้ภัยและช่างภาพที่มารุมถ่ายเขาอย่างสนุกสนาน และยังแซวฝรั่งมุงที่กำลังใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเขาด้วยว่า “ไม่ให้ถ่ายฟรีนะ…” ก่อนที่ทีมแพทย์จะนำทั้งคู่ไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดด้วยเฮลิคอปเตอร์
โชคดีที่ฟรีแมนไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต แต่อาการบาดเจ็บของเขาก็เรียกได้ว่าสาหัส โฆษกส่วนตัวของดารารุ่นใหญ่เผยว่า เขาได้รับบาดเจ็บที่แขนอย่างรุนแรง แขนและกระดูกข้อศอกหัก มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ และเส้นประสาทบริเวณแขนได้รับความเสียหาย แม้ว่าจะได้รับการรักษาอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ทำให้แขนซ้ายของเขากลายเป็นอัมพาตไปในที่สุด และเขายังต้องประสบกับภาวะปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หรือ ไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) ที่เป็นผลกระทบจากอาการไหล่หัก ทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังที่แขนมาโดยตลอด
แขนข้างซ้ายที่อัมพาตของเขาไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติอีกต่อไป นั่นจึงทำให้เขาเริ่มสวมถุงมือรัดกล้ามเนื้อเพื่อบีบรัดกล้ามเนื้อมือไม่ให้เกิดอาการเลือดไหลไปคั่งจนเกิดอาการบวม เขากล่าวติดตลกกับนิตยสาร People ในปี 2010 ว่า “ถ้าคุณไม่ขยับมือ มือมันก็จะบวมขึ้น ๆ คุณรู้ไหมว่าปกติมือของคุณจะขยับประมาณเป็นล้านครั้งต่อวัน…” ซึ่งฟรีแมนเองก็เคยปรากฏตัวพร้อมกับถุงมือนี้ตอนที่ไปรับรางวัล Lifetime Achievement ในเวที Screen Actors Guild Awards เมื่อปี 2018 ด้วย
ฟรีแมนให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Esquire ในปี 2012 ว่า เขาเองยังต้องทนทุกข์กับอาการปวดแขนเรื้อรังแบบเป็น ๆ หาย ๆ รวมทั้งต้องปรับตัวและใช้ชีวิตด้วยแขนขวาข้างเดียว เนื่องจากแขนซ้ายที่ใช้การแทบไม่ได้เลย ทำให้เขาไม่สามารถทำงานอดิเรกที่เขาชอบ ทั้งการขับเครื่องบินไอพ่น แล่นเรือ ขี่ม้า หรือแม้แต่ขับรถและอ่านหนังสือได้ตามปกติ งานอดิเรกที่เขาพอจะทำได้ก็คือการตีกอล์ฟด้วยมือขวาข้างเดียว
ที่มา: Daily Mail, The Guardian, Reuters, Metro, Esquire
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส
