Vanity Fair ได้เปิดเผยภาพชุดแรกของ ‘Fall Guy’ ภาพยนตร์แอ็กชันที่ได้ ไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) มาประกบคู่กับ เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) ซึ่งภาพดังกล่าวได้เน้นไปที่เบื้องหลังการถ่ายทำฉากแอ็กชัน โดยกอสลิงนั้นได้ทุ่มเทเล่นฉากสตันท์ด้วยตนเอง ไม่ว่จะเป็น ห้อยตัวจากเครน, ถูกลากไปกับรถบรรทุกบนถนนไฮเวย์ และนั่งบนฝากระโปรงของรถยนต์ที่กระจกหน้าแตก

ภาพอื่น ๆ ก็มีทั้งกอสลิงที่สวมแว่นกันแดดพร้อมสวมหมวกคาวบอย และกอสลิงกับบลันต์ที่กำลังถ่ายทำฉากในทะเลทราย

‘Free Guy’ เป็นผลงานกำกับของ เดวิด ลิตช์ (David Leitch) ที่เคยมีผลงานกำกับภาพยนตร์แอ็กชันที่น่าประทับใจอย่าง ‘John Wick’ (2013) แต่ไม่เอาเครดิต, ‘Atomic Blonde’ (2017), ‘Deadpool 2’ (2018), ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw’ (2019) และ ‘Bullet Train’ (2022) ว่าด้วยเรื่องของ Colt (รับบทโดยกอสลิง) สตันท์แมนอายุมากที่ต้องเข้ามาเกี่ยวกับข้องกับการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของแฟนเก่า (รับบทโดยบลันต์) และปัญหายิ่งซับซ้อนมากขึ้นเมื่อนักแสดงหนุ่ม (รับบทโดย แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน; Aaron Taylor-Johnson) ที่เคยไล่เขาออก ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

นี่เป็นครั้งแรกที่กอสลิงและบลันต์ได้โคจรมาพบกัน หลังจากที่ได้รับการยกย่องเป็นนักแสดงระดับแถวหน้าของฮอลลีวูดและมีผลงานระดับคุณภาพมากมาย โดยทั้งคู่เคยพบกันในรายการทอล์กโชว์และงานประกาศผลรางวัลออสการ์เมื่อปี 2016 เท่านั้น

กอสลิงนั้นแม้ว่าจะเป็นนักแสดงระดับขายฝีมือ และเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 ครั้ง จาก ‘Half Nelson’ (2006) และ ‘La La Land’ (2016) แต่ก็ได้พิสูจน์ว่าเขาสามารถแสดงฉากแอ็กชันได้ดีไม่แพ้ฉากดราม่า เช่น ‘Drive’ (2011) ของผู้กำกับ นิโคลัส ไวดิง รีฟิน (Nicolas Winding Refn) และ ‘The Gray Man’ (2022) ของผู้กำกับ แอนโทนี่ รุสโซ (Anthony Russo) และ โจ รุสโซ (Joe Russo)

สำหรับบลันต์ ก็เคยรับบทแอ็กชันมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ‘Edge of Tomorrow’ (2014), ‘Sicario’ (2015), ‘A Quiet Place’ (2018) และล่าสุดใน ‘Jungle Cruise’ (2021)

ดังนั้น การนำทั้งคู่มาเจอกันใน ‘Fall Guy’ จะทำให้ภาพยนตร์มีมิติตัวละครได้มากขึ้น นอกเหนือจากฉากแอ็กชันที่ดุเดือนตามสไตล์ผู้กำกับแล้ว

ที่มา : ScreenRant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส