เดฟ พาเทล (Dev Patel) พระเอกหนุ่มเข้มชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดีย วัย 33 ปี ที่เรารู้จักกันจากหนังยอดเยี่ยมเวทีออสการ์ ‘Slumdog Millionaire’ (2008) กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์ ‘Monkey Man’ หนังแอ็กชันทริลเลอร์ล้างแค้น ที่นอกจากจะแสดงนำแล้ว เขายังรับหน้าที่เขียนบทร่วมและกำกับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เล่าเรื่องของเด็กชายที่ออกเดินทางเพื่อโค่นอำนาจอิทธิพลของอินเดียเพื่อชำระแค้น และยังได้ จอร์แดน พีล (Jordan Peele) ผู้กำกับสายเฮี้ยนจาก ‘Get Out’ (2017), ‘Us’ (2019) และ ‘Nope’ (2022) มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้

ตัวหนังดีงามจากการทำคะแนนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 93% นอกจากนี้ นี่คือหนังที่แต่เดิม Netflix ยอมทุ่มเงินกว่า 30 ล้านเหรียญเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายลงสตรีมมิง แต่เมื่อพีลได้ดูหนังเรื่องนี้ถึงกับการันตีว่า นี่คือหนังที่ต้องฉายในโรง รวมทั้งกระแสจากผู้ชม จากการเข้าฉายรอบพรีเมียร์ในเทศกาล SXSW (South by Southwest) ที่ขนานนามว่าเป็น ‘‘John Wick‘ แห่งอินเดีย’ ทำให้พวกเขาปฏิเสธเงินก้อนโต และให้ Universal Pictures จัดจำหน่ายทั่วโลกแทน ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในไทย 16 พฤษภาคมนี้

แต่กว่าผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขาจะได้ออกสู่สายตาผู้ชม ก็นับว่าลำบากไม่น้อย พาเทลเผยกับเว็บไซต์ Reddit เกี่ยวกับความวิกฤติที่เขาต้องพบเจอในระหว่างถ่ายหนังตั้งแต่ปี 2018 และเริ่มถ่ายทำในอินเดียในปี 2020 ก่อนจะพบเจอกับวิกฤติทั้งโรคระบาด รวมทั้งวิกฤติด้านการเงินตลอดเวลาการถ่ายทำ

“จริง ๆ หนังเรื่องนี้จบเห่ไปแล้วด้วยซ้ำ ผมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่การเงินอย่าตัดงบเรา 2-3 สัปดาห์ก่อนถ่ายทำ ผมสูญเสียผู้ออกแบบงานสร้างและผู้กำกับภาพไปแล้ว จากนั้นเราก็ต้องย้ายไปถ่ายทำที่เกาะเล็ก ๆ ในอินโดนีเซีย ที่เราสามารถสร้าง Bubble ขึ้นในโรงแรมเปล่า ๆ สำหรับทีมงานเกือบ 500 คน มันเป็น 9 เดือนที่แสนทรหดที่เต็มไปด้วยความสุขและวุ่นวายอย่างมาก”

Dev Patel in Monkey Man

“เราสูญเสียโลเกชันทั้งหมดที่เราเตรียมไว้หลายเดือน เราจึงต้องปรับตัวกันในวินาทีสุดท้าย พื้นที่ถูกปิดหมด เราเลยใช้นักแสดงประกอบได้ไม่มากนัก สุดท้ายผมเลยต้องให้ทีมคอสตูม ทีมแสง บัญชี ทุกคนมาอยู่หน้ากล้อง และพอพูดถึงกล้อง อุปกรณ์ส่วนใหญ๋ที่เรามีก็พังและก็บินไปซื้อมาใหม่ไม่ได้ เราจึงต้องถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือของผม”

“คนออกแบบงานสร้างก็ไม่มีเงินสร้างฉากให้สมบูรณ์ 1 ในโปรดิวเซอร์เลยต้องใช้บัตรเครดิตส่วนตัวจ่ายเงินซื้อกระจกท็อปโต๊ะเพื่อใช้ถ่ายทำฉากแอ็กชันฉากหนึ่ง พอพูดถึงโต๊ะ เรามีโต๊ะแค่ 3-4 ตัว เมื่อผมต้องถ่ายทำฉากแอ็กชันเยอะ ๆ พอผมตะโกน ‘คัต’ ทุกคนก็จะคุกเข่าก้มลงเก็บเศษโต๊ะไม้ที่หักเอามาซ่อมกลับเข้าที่เดิมเพื่อถ่ายทำช็อตต่อไป อุปสรรคทุกอย่างทำให้เรามีโอกาสใหม่ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมครับ”

ความลำบากไม่ได้มีแค่นั้น เพราะนี่คือหนังแอ็กชันที่พาเทลต้องทุ่มทุนกำกับและแสดงเอง เขาจึงได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง ตั้งแต่อาการติดเชื้อที่ดวงตา ไหล่ฉีก รวมทั้งอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกมือด้านซ้ายหัก และพอต้องกำกับเอง แสดงเอง งบก็จำกัด แถมมาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวดในเวลานั้น ก็ยิ่งทำให้เดินทางไปพบแพทย์ได้ลำบาก การเข้าเฝือกแล้วถ่ายทำใหม่ ใช้ CGI หรือแม้แต่หยุดพักกองไปก่อน จึงแทบเป็นไปไม่ได้ เขาเล่าเรื่องนี้เอาไว้พร้อมกับเรื่องฮา ๆ ในรายการ ‘The Tonight Show Starring Jimmy Fallon’

“ครับ คืออะไรที่มันจะพลาดได้ มันพลาดหมดเลยครับ ในฉากแอ็กชันซีนแรก ผมต้องทำหน้าที่เป็นตัวทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อนร่วมแสดงของผมต้องเอาหน้ากระแทกกับเครื่องเซรามิกทุกชิ้นในห้องน้ำนี้ แล้วผมก็ได้ยินเสียงมือหัก ผมก็แบบ ‘ท่าไม่ดีละ’ และคุณรู้ไหม คือบนเกาะแห่งนี้ที่มีทีมงานอยู่ 450 คน ถ้าผมเป็นอะไรไป หนังล่มแน่ ๆ “

“เรามีช่วงเวลาตอนนั้นที่ยากลำบากมาก ผมบอกกับโปรดิวเซอร์ของผมว่า ‘ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว มาถ่ายทำกันต่อเถอะ’ แล้วพอจบวัน มือผมนี่บวมอย่างกับตีนช้างเลย และเราก็ไม่สามารถจ่ายงบค่าสตันต์หรือทำ VFX ได้แล้ว”

“ตอนนั้นเราเลยมีวิธีเลี่ยงด้วยการเช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวทางการแพทย์ราคาถูก ๆ เพื่อบินไปรักษาตัวที่จาร์กาตาในคืนนั้น หมอใส่น็อตในมือของผมและบอกว่า ‘คุณไม่ควรออกแรงมือเกิน 1-2 ปอนด์ ไม่เช่นนั้นมันจะเหมือนกับการดึงตะปูออกจากไม้ มันจะทำลายกระดูกของคุณ’ ผมก็ได้แต่แบบว่า ‘หมอ… หมอต้องอ่านบทนะครับ เพราะผมกำลังต่อสู้กับหนังเรื่องนี้อยู่นะ’ และเอาจริง ๆ วันรุ่งขึ้น ผมก็กลับไปที่กองถ่าย และกำลังเหวี่ยงตัวเองกระเด็นไปนอกหน้าต่าง”

และที่เรียกเสียงฮาก็คือ พาเทลหยิบเอาเสื้อสีฟ้าสดใสตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นเสื้อที่ทีมงานคนหนึ่งทำมาแจกให้กับทีมงานมาโชว์ให้ผู้ชมดู ลายเสื้อตัวนี้น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะมีภาพลิงการ์ตูน (‘Monkey Man’) ภาพฟองสบู่ (สื่อถึง Bubble โรคระบาด) แล้ว ยังมีภาพกระดูกมือข้างซ้ายชิ้นที่ 5 ของพาเทลที่หักและมีรอยน็อตดามเอาไว้ปรากฏอยู่ ซึ่งมาจากฟิล์มเอ็กซ์เรย์จากมือที่หักของพาเทลจริง ๆ สกรีนบนแขนเสื้อด้านซ้ายด้วย และเขายังได้มอบเสื้อตัวนี้ให้ จิมมี ฟอลลอน (Jimmy Fallon) เป็นที่ระทึก (ระลึก) อีกด้วย

“มีทีมงานคนหนึ่งเอาภาพเอ็กซ์เรย์ของผมไปสกรีนครับ แล้วเรียกภาพนี้ว่าเป็น ‘น็อตตัวเดียวที่ทำให้ทีมงานยังอยู่รอด'”

Dev Patel in Monkey Man

พาเทลยังได้เล่าถึงเบื้องหลังเกี่ยวกับ ‘Monkey Man’ ที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจากหนุมาน ตัวละครจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ (รามายณะ) เทพแห่งความแข็งแกร่งและกล้าหาญที่ชาวอินเดียเคารพนับถือตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ซึ่งเขาใช้เวลาปลุกปั้นมานานกว่า 10 ปี

“ผมปฏิเสธงานที่ดีที่สุดที่ผมรอคอยมาทั้งชีวิต เพื่อจะให้กำเนิดหนังเล็ก ๆ เรื่องนี้ พ่อของผมสวมสร้อยคอที่มีหนุมานถือภูเขาลูกหนึ่งอยู่ในมือ ซึ่งหนุมานนั้นเป็นเรื่องราวในเทพปกรณัมของอินเดีย ถ้าคุณไปเข้ายิมในอินเดีย คุณจะได้เห็น อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger), นักเพาะกาย รอนนี โคลแมน (Ronnie Coleman) และหนุมาน”

“หนุมานเป็นเทพแห่งความสูงส่ง ความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ คุณรู้ไหมว่าเขาคล้ายคลึงกับซูเปอร์แมนมาก ตรงที่เขาแหวกอกและบินได้ และเขาก็เป็นฮีโรที่สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเองด้วย เขาสูญเสียความกล้า และเขาต้องได้รับการบอกว่าเขาเป็นใคร นั่นเป็นพื้นฐานตัวละครของผม เป็นผู้ชายที่สวมหน้ากากยางลิงราคาถูก ๆ และผู้คนก็ย่ำยีเขา และพื้นฐานมันคือหนังแอ็กชันแบบ Underdog ผมเป็นแฟนหนังแนวนี้เลย”

“และที่ผ่านมาผมไม่เคยได้รับบทบาทแนว ๆ นี้เลย ด้วยหน้าตาผมที่ดูเป็นเพื่อนชาวอินเดียแบบนี้ บทบาทที่ผมได้ตลอดก็คือเพื่อนซี้ตลก ๆ หรือไม่ก็คนที่คอยแฮกเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ให้พระเอกไรงี้ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นก็นั่นแหละ ผมจึงต้องเขียนบทเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง”