Cybertruck กระบะไฟฟ้าจาก Tesla โชว์ตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก หลังจากเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 พร้อมให้คนไทยสัมผัสผิวคันจริง รวมถึงเทคโนโลยีภายในตัวรถตลอดทั้งเดือนเมษายน พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษด้วย

Cybertruck มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Rear-Wheel Drive ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคา 60,990 เหรียญ (ประมาณ 2,240,000 บาท ส่งมอบได้ปี 2025) รุ่น Dual Motor AWD มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 79,990 เหรียญ (ประมาณ 2,940,000 บาท) ซึ่งเป็นรุ่นที่นำมาโชว์ในไทยวันนี้ และรุ่น Cyberbeast AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 99,990 เหรียญ (ประมาณ 3,676,000 บาท) ทั้งสองรุ่นหลังส่งมอบภายในปี 2024

ตัวรถมีขนาด 5,683 x 2,200 x 1,790 มิลลิเมตร มีความสูงจากพื้น 443 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 3,423.5 ลิตร ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Light Bar ส่องสว่างไกล 480 เมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 200 kWh ส่วนสเปกแบ่งเป็น

  • รุ่น Rear-Wheel Drive มอเตอร์เดี่ยว ขับหลัง ขับขี่ไกล 403 km อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.5 s
  • รุ่น Dual Motor AWD มอเตอร์คู่ กำลัง 600 Ps 9,958 Nm ขับขี่ไกล 547 km อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.1 s ความเร็วสูงสุด 180 km/h รองรับการชาร์จ DC 250 kW
  • รุ่น Cyberbeast AWD มาพร้อมมอเตอร์ 3 ตัว 845 Ps 13,959 Nm ขับไกล 515 km อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 2.7 s ความเร็วสูงสุด 209 km/h รองรับการชาร์จ DC 250 kW

จุดเด่นของ Cybertruck นอกจากจะเป็นกระบะรูปทรงแปลกตา ที่ผู้ใช้งานกระบะคงไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ แต่ตัวรถนั้นผลิตจากวัสดุ Stainless-Steel EXOSKELETON ที่แข็งแรงต่อการทุบ ไปจนถึงยิงปืนใส่กันเลยทีเดียว (แต่ไม่ทนต่อรอยนะ เพราะเป็นรอยนิ้ว รอยขนแมวง่ายมาก) ตัวกระจบไร้ขอบ ARMOR Glass มีความทนทานสูง

ความพิเศษของ Cybertruck สะท้อนผ่านการตอบรับแฟน ๆ ด้วยการสกรีนคำว่า Foundation บริษัทข้างรถ สำหรับผู้ที่สั่งจองและได้รับเป็นกลุ่มแรกด้วย ซึ่งตัวรถที่นำมาโชว์ก็เป็นรถกลุ่มนี้เหมือนกัน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปชมภายในตัวรถได้ เราเลยได้แต่เก็บภาพรอบคันมาฝาก

อีกจุดคือการใช้แบตเตอรี่ลูกเล็กขนาด 48V เป็นครั้งแรกในรถยนต์ ปัจจุบันรถยนต์ทั่วไปจะใช้แบตเตอรี่ลูกเล็กขนาด 12V อยู่ แต่การเปลี่ยนมาใช้แบต 48V จะทำให้แรงดันไฟฟ้าสูงสุด ได้กำลังไฟสูงขึ้น ขณะที่ปริมาณสายไฟน้อยลง ส่งผลไปถึงน้ำหนักตัวรถจะลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมพวงมาลัยสายไฟ หรือ Steer by wire ที่ทำให้การควบคุมรถขนาดใหญ่ 5.6 เมตร ทำได้งานขึ้นและไม่กินพื้นที่ในการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย

นี่เป็นรายละเอียดส่วนหนึ่งของ Cybertruck เท่านั้น ถ้ามีโอกาสที่ทีมงานรีวิวเจาะลึกมากขึ้นจะนำมาเล่าให้ฟังภายหลัง และลุ้นกันว่า Cybertruck จะมีโอกาสทำตลาดในไทยหรือไม่ ส่วนใครที่อยากชม Cybertruck คันจริงมาให้สัมผัสกันแล้วที่ Tesla Center รามคำแห่ง ตั้งแต่วันที่ 6 – 30 เมษายน 2024 นอกจากนี้ทาง Tesla กิจกรรมร่วมสนุก ลุ้นรับของรางวัลพิเศษจาก Cybertruck ด้วยนะ