ฝ่ายขาย และการตลาด
085-848-2253[email protected]http://m.me/beartai
สมัครงาน/ฝึกงาน ติดต่อได้ที่
[email protected]
Read
| Car News

BYD คิดค้น DM-i Super Hybrid ขุมพลังไฮบริด ชูความประหยัด ได้สมรรถนะเต็มกำลัง

แม้ว่ากระแสรถ EV จะร้อนแรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายอดซื้อรถไฮบริดในจีนกลับทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราได้ข้อมูลเชิงลึกจากแบรนด์ BYD ว่า โรงงานในประเทศจีนหลายแห่งสวิตช์สายพานการผลิตจากรถ EV ไปสู่รถ HEV อย่างเร่งด่วน ภายหลังการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง DM-i ที่มาช่วยให้การขับขี่ประหยัดยิ่งขึ้น ซึ่งในไทยเองได้นำเสนอเทคโนโลยีนี้ผ่านรุ่น BYD Sealion 6 DM-i เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด ในงาน Motor Show 2024 ไปแล้ว เราขอขยายความถึงเทคโยโลยี DM-i จาก BYD กันสักหน่อยว่ามันประหยัดได้อย่างไร

อย่างที่หลายคนทราบ เทคโนโลยีไฮบริดคือการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid จาก BYD ก็เช่นเดียวกัน เทคโนโลยีระบบพลังงานและชุดควบคุมการทำงานสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BYD ซึ่งคำว่า DM ย่อมาจาก Dual Mode หรือระบบการทำงานประสาน 2 ขุมพลังคือมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ส่วน i ย่อมาจาก Intelligent เสริมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะนั่นเอง

จุดเด่นของเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid คือการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก และเสริมด้วยเครื่องยนต์ที่ช่วยในการปั่นไฟ รวมถึงเสริมกำลังขับขี่ เร่งความเร็ว เร่งแซง การขับขี่ทางไกล ไปจนถึงดันขึ้นเนิน เพื่อให้ตัวรถมีการปล่อยคาร์บอนออกมาน้อยที่สุด ขณะเดียวกันยังใช้พลังงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดผ่านตัว Blade Battery และระบบระบายความร้อนอัจฉริยะที่ออกแบบมาสำหรับรถไฮบริดโดยเฉพาะ

เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ออกแบบมาสำหรับรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งพัฒนาจากเจนแรกมานานกว่า 15 ปี ปัจจุบันเทคโนโลยี DM-i นี้ถูกใช้ในรุ่น BYD Sealion 6 DM-i รวมถึงรุ่นอื่น ๆ โดยแบ่งการทำงานของระบบ ดังนี้

  • EV Mode: โหมดการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นหลัก อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ และมอบประสบการณ์ขับขี่นุ่มนวล และไร้เสียงรบกวนเช่นเดียวกับรถ EV
  • Series Mode: โหมด HEV แบบอนุกรม เป็นโหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากเครื่องยนต์ ทำให้ยังคงมีลักษณะการขับขี่คล้ายกับรถ EV อยู่
  • Parallel Mode: โหมด HEV แบบขนาน ซึ่งเป็นโหมดการขับเคลื่อนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ เพื่อกำลังสูงสุดในการเร่งแซงและขึ้นเขา

โดยทุกระบบขับเคลื่อนจะอาศัยระบบ Regenerative Braking เก็บพลังงานจลน์กลับเข้าสู่แบตเตอรี่ทุกครั้งเมื่อชะลอหรือเบรก นอกจากนี้ตัวแบตเตอรี่ยังได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสม ทำให้รถไม่ต้องแบกน้ำหนักของแบตเตอรี่ที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออัตราการสิ้นเปลืองพลังงานในการขับเคลื่อนมากขึ้นตามไปด้วย รวมถึงยังลดอัตราการปล่อยคาร์บอนได้ดีขึ้นด้วย

ข่าวดีทีมงาน bt กำลังจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมเทคโนโลยี DM-i ของ BYD ถึงต้นกำเนิดที่เมืองซีอาน ประเทศจีน ก่อนที่เจ้าเทคโนโลยีตัวนี้จะมาสู่โรงงานประกอบรถ EV ในไทยที่จังหวัดระยองด้วยในอนาคตด้วย แล้วเราจะมาอัปเดตให้ฟังอีกครั้งว่า เทคโนโลยีไฮบริดของเขาเดินหน้าไปถึงไหนกันแล้ว แบบนี้มีหวังค่ายญี่ปุ่นอยู่ไม่สุขอีกแน่เลย

Highlight

Xiaomi 17 Ultra เปิดตัวเป็นทางการ ยัดโหดกล้อง 1 นิ้ว ซูม 200 MP แบตฯ อึด 6,800 mAh พร้อมรุ่น Leica Edition ดีไซน์คลาสสิก

26/12/2025
Read More

Huawei Cloud ครองตำแหน่งผู้นำจากรายงาน Omdia พร้อมขึ้นอันดับ 1 ด้านกลยุทธ์และนวัตกรรม

26/12/2025
Read More

ซื้อดีไหม ? HUAWEI MatePad 12 X 2026 สรุปฟีเจอร์เด่นที่น่าโดนในราคาไม่เกินสองหมื่น 

26/12/2025
Read More

แว่นตา AI เปลี่ยนเสียงรอบตัวเป็น “ซับไตเติล” แบบ Real-time ช่วยผู้บกพร่องทางการได้ยิน

26/12/2025
Read More

ญี่ปุ่นทำถึง ! เปิดตัว เครื่องซักมนุษย์ อาบ-ล้าง-เป่าแห้ง จบใน 15 นาที ค่าตัว 13 ล้านบาท

26/12/2025
Read More

เตือน ! ผู้มีสิทธิ “ถ้าไม่ไปเลือกตั้ง – ไม่แจ้งเหตุ” จะถูกจำกัดสิทธิตามกฎหมาย

26/12/2025
Read More

Related Content