เกิดก่อนใช่ว่าจะเก๋า เพราะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ที่ผ่านมา บทความวิชาการจาก The World Journal of Men’s Health ที่ได้รวบรวมและวิเคราะห์ขนาดอวัยวะเพศชายของผู้ชายหลากหลายเชื้อชาติและช่วงอายุจำนวนมากกว่า 18,000 คน ในการศึกษากว่า 20 ชิ้น ตั้งแต่ปี 1992–2021 และพบว่าค่าเฉลี่ยของอวัยวะเพศชายเมื่อแข็งตัวเพิ่มขึ้นกว่า 24 เปอร์เซ็นต์หรือราว 1.4 นิ้ว จาก 4.6 นิ้ว กลายเป็น 6 นิ้วเลยทีเดียว

โดยข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดเป็นการวัดและรวบรวมโดยแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น เพราะโดยปกติแล้วผู้ชายมักจะบอกว่าน้องชายของตัวเองใหญ่และยาวเกินความเป็นจริงเสมอ

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่งานวิจัยนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดก็เพราะว่าการศึกษาอีกชิ้นที่นำโดย นพ.ไมเคิล ไอเซนเบิร์ก (Michael Eisenberg) ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินปัสสาวะจากโรงเรียนแพทย์ของ Stanford University ในแคลิฟอร์เนียที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลของขนาดอวัยวะเพศชายจากการศึกษากว่า 75 ชิ้น ตั้งแต่ปี 1942–2021 ซึ่งมีข้อมูลของผู้ชายกว่า 55,000 คนที่มีอายุระหว่าง 18–86 ปี

โดยข้อมูลจากงานวิจัยนี้พบว่าจำนวนของอสุจิหรือสเปิร์มและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่เป็นฮอร์โมนเพศชายที่ช่วยเรื่องการเจริญเติบโต การสืบพันธุ์ และการสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายในยุคหลัง ๆ เริ่มลดลง ทีมนักวิจัยเริ่มศึกษาเรื่องขนาดของน้องชายมากขึ้น เพราะพวกเขาคิดว่าในเมื่อฮอร์โมนเพศชายลดลง ขนาดน้องชายก็น่าจะลดลงตามไปด้วย แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามเสียอย่างนั้น

จากปริมาณฮอร์โมนเพศชายที่ลดลงและความยาวน้องชายที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดคำถามตามมาว่าปัจจัยอะไรที่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น โดยทีมนักวิจัยตั้งสมมติฐานว่าเป็นผลมาจากปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย อย่างสารเคมีปนเปื้อนในอาหาร เหมือนที่หลายคนเคยได้ยินว่าการกินเนื้อไก่ที่เลี้ยงด้วยการกระตุ้นฮอร์โมนอาจทำให้โตเร็วหรือเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเร็วกว่าปกติ และอาจทำให้น้องชายของเด็กผู้ชายและหน้าอกของเด็กผู้หญิงมีเวลาเติบโตมากขึ้นและมีขนาดใหญ่ขึ้น

นอกจากนี้ นพ.ลาร์รี ลิปชัลต์ (Larry Lipshultz) หัวหน้าแผนกศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะของโรงเรียนแพทย์ของ Baylor University ในเท็กซัส มีข้อสมมติฐานว่าปัจจัยอย่างการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอาจมีส่วนด้วยเช่นเดียวกัน เพราะการเข้าถึงเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่อาจทำให้เลือดและสารอาหารในเลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศมากขึ้น เนื้อเยื่อบริเวณนั้นจึงยืดได้มากกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลนี้มีทั้งส่วนที่เป็นข้อมูล อย่างความยาวเฉลี่ยของน้องชายที่เพิ่มขึ้นและส่วนที่ข้อสมมติฐานถึงปัจจัยที่ทำให้เจ้าหนูของผู้ชายยุคใหม่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราควรรอการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อดูว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องนี้ สุดท้ายนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสืบพันธุ์จำนวนไม่น้อยยังคงยืนยันว่าการมีเจ้าหนูขนาดใหญ่อาจไม่ได้มีผลต่อความพึงพอใจทางเพศขนาดนั้น

ขณะเดียวกันยิ่งมีการหยิบยกเรื่องขนาดมาพูด ยิ่งทำให้ผู้ชายให้ความสำคัญกับขนาดมากเกินไปและทำให้รู้สึกแย่กับตัวเองได้ เพราะจากการสำรวจผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจในขนาดน้องชายของตัวเอง แม้ว่ามันจะเกินขนาดของค่าเฉลี่ยแล้วก็ตาม

ที่มา: EverydayHealth

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส