กสทช. ผนึกกำลัง ปปง. ค่ายมือถือ และธนาคารพาณิชย์ เช็กบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ระบุชื่อต้องตรงกับชื่อจดทะเบียนซิมการ์ด เพื่อสกัดการรับจ้างเปิดบัญชีม้า กำหนดระยะเวลาตรวจสอบให้แล้วเสร็จใน 120 วัน หากพบผิดจะปิดทำการทันที

วันที่ 21 พ.ค. 67 พล.ต.อ. ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ มีการหารือแนวทางตรวจสอบคัดกรองเบอร์โมบายแบงกิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร

ซึ่งมีเป้าหมายให้ชื่อผู้จดทะเบียนเบอร์ซิมเลขหมายที่ขอเปิดใช้โมบายแบงกิ้ง และเจ้าของบัญชีธนาคาร ต้องเป็นของบุคคลคนเดียวกัน ทำให้สามารถกำหนดเป็นมาตรการตัดตอนบัญชีม้าที่ใช้ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ และยังเป็นการช่วยกำจัดซิมผีในระบบธนาคารออนไลน์ไปในคราวเดียวกัน เพราะการระบุให้ชื่อและซิมตรงกันจะส่งผลให้กลุ่มมิจฉาชีพจะทำงานได้ยากขึ้น

โดยทาง กสทช. ก็หวังว่าปัญหาเรื่องซิมผี-บัญชีม้าจะหมดไป หรือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการตรวจสอบนี้จะใช้เวลาราว 120 วัน มีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้

  1. ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชี (เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขหนังสือเดินทาง) พร้อมเบอร์โทร โมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ส่งให้ ปปง. ตามช่องทางที่กำหนด
  2. ปปง. รับข้อมูลเลข ID ประจำตัว และเบอร์โมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ารหัส แล้วเปิดช่องทางสื่อสารข้อมูลให้ กสทช.
  3. กสทช. รับข้อมูลดังกล่าวจาก ปปง.นำเบอร์โมบายแบงก์กิ้งมาแยกเครือข่าย เพื่อส่งตรวจหารายชื่อผู้ถือครอง และตรวจเปรียบเทียบกับรายชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ แล้วแจ้งผลให้ ปปง. และธนาคารทราบ

หากไม่ตรงกันจะแจ้งให้ผู้ใช้ปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง มิเช่นนั้นบัญชีโมบายแบงก์กิ้งจะถูกระงับการใช้งาน เป็นมาตรการเบื้องต้นในการสกัดกั้นบัญชีม้าที่นำไปใช้ในการฉ้อโกงหรือก่ออาชญากรรมออนไลน์ ถ้าไม่มั่นใจว่าชื่อเราตรงกับซิมการ์ดหรือไม่ กสทช. ได้พัฒนาระบบให้ตรวจสอบได้โดยง่ายผ่านทาง แอปพลิเคชัน 3 ชั้น และบริการ *179* เลขบัตรประชาชน# กดโทรออก

นอกจากนี้ ปปง. ยังเตรียมแก้กฎหมาย เพื่อให้สามารถคืนเงินผู้เสียหายได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งศาล ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผู้เสียหายได้รับเงินคืนเร็วขึ้นจากเดิมที่ต้องใช้เวลานาน