เริ่มต้นแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย จัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งเปิดสนามนัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยคนไทยลุ้นกันตัวโก่งว่าจะได้รับชมการถ่ายทอดสดแบบฟรี ๆ หรือไม่ แม้เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) จะมีมติอนุมัติให้นำเงินจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) สนับสนุนการถ่ายทอดสดไปเป็นจำนวน 600 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จนท้ายที่สุด การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ก็ทำสำเร็จจนได้ ด้วยการไปเรี่ยไรเงินจากภาคเอกชนหลายแห่งจนครบ 1,180 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีอีก 220 ล้านบาท) และประกาศว่าคนไทยจะได้รับชมฟรีครบทั้ง 64 แมตช์ก่อนที่การแข่งขันนัดแรกจะเริ่มเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น

สำหรับจำนวนเม็ดเงินที่ กกท. ได้รับการสนับสนุนจากเอกชนนั้น อยู่ที่ราว ๆ 700 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จ่ายมากที่สุดราว ๆ 300 ล้านบาท ตามมาด้วย น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง 100 ล้านบาท, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 100 ล้านบาท, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ 20 ล้านบาท, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 20 ล้านบาท, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) 10 ล้านบาท, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท, ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท 

หลังจากที่ซื้อลิขสิทธิ์ได้แล้ว ก็มีทีวีดิจิทัล 17 ช่องที่ต้องการมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดสด แต่ด้วยจำนวนเม็ดเงินการสนับสนุนจะพบว่า บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีช่องทีวีดิจิทัลอย่าง True4U ช่อง 24 เป็นของตัวเอง ได้จ่ายเงินสนับสนุนมากที่สุด กกท. จึงได้จัดสรรให้ถ่ายทอดสดผ่านช่อง True4U ถึง 32 แมตช์ ส่วนที่เหลืออีก 32 แมตช์กระจายแบ่งให้กับอีก 16 ช่องที่เหลือ แถมยังได้สิทธิ์ในการเลือกแมตช์ที่จะถ่ายทอดสดได้ก่อนช่องอื่น ๆ ด้วย

ทรู แจง ดูฟุตบอลโลกช่องทางใดไม่ได้บ้าง

เริ่มเปิดแมตช์แรกก็เกิดปัญหาการรับชมจากประชาชนบางกลุ่ม เพราะติดปัญหารับชมไม่ได้ ซึ่ง เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้โพสต์เอกสารของทางทรู ที่ออกโดย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ รองผู้อำนวยการด้านรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เรื่อง การแจ้งสิทธิการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) โดยมีใจความว่า แม้การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กกท. จะได้รับงบประมาณสนับสนุนส่วนหนึ่งจาก สำนักงาน กสทช. แต่ก็ยังไม่เพียงพอ กกท.จึงได้เข้าทำสัญญากับบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด (รวมเรียกว่า กลุ่มทรู) เพื่อเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม

โดย กกท.ได้ตกลงมอบสิทธิและประโยชน์ต่างๆ ให้แก่กลุ่มทรู ซึ่งรวมถึงการให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) ผ่านระบบเคเบิล (Cable Transmission) ระบบดาวเทียม (Satellite Transmission) ระบบไอพีทีวี (IPTV Transmission) ระบบอินเตอร์เน็ต (Internet Transmission) ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Transmission) และระบบ OTT และยังให้สิทธิแบบไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียวผ่านช่องทางโทรทัศน์ ภาคพื้นดิน (Terrestrial Transmission)

กลุ่มทรู จึงขอเรียนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) ของกลุ่มทรู และขอให้ดำเนินการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) โดยไม่ละเมิดสิทธิของกลุ่มทรูเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการถ่ายทอดสดการแข่งขันบนระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (Terrestrial Transmission) จะมีการนำไปเผยแพร่ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 ได้เฉพาะบนระบบดาวเทียม (Satellite Transmission) และระบบเคเบิล (Cable Transmission) เท่านั้น ไม่รวมถึงบนระบบไอพีทีวี (IPTV Transmission) ระบบอินเตอร์เน็ต (Internet Transmission) ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Transmission) และระบบ OTT

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพฤติกรรมของประชาชนนั้นเปลี่ยนไป มีการรับชมทีวีดิจิทัลผ่านแอปฯ หรือ กล่องรับสัญญาณจากค่ายต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้ลูกค้าที่ใช้กล่องทีวีอินเตอร์เน็ตของผู้ให้บริการรายอื่นๆ เช่น 3BB TV, NT, TOT, IPTV, กล่องเอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ รวมถึงกล่องรับสัญญาณดาวเทียม GMM Z, PSI, MVTV, DTV เป็นต้น ไม่สามารถรับชมได้ ซึ่งหากต้องการรับชมจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น ซื้อกล่องทรู หรือเสาหนวดกุ้งเพิ่มเติม นั่นเอง

ช่องทางรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022

สำหรับช่องทางที่รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างสบายใจนั้น ก็คือการติดเสาสัญญาณ (หนวดกุ้ง) หรือหากที่บ้านของผู้รับชม มีการติดตั้งเสาสัญญาณทีวีภาคพื้นไว้ ก็สามารถรับชมได้ตามปกติ ส่วนช่องที่อื่น ๆ นั้น ไม่สามารถรับชมได้แน่นอน แม้จะดูผ่านแอปฯ TrueID แต่ถ้าสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ใช่ของทรู ก็จะเกิดปัญหาแบบในรูปนี้นั่นเอง

ทั้งนี้ หากไม่ต้องการติดปัญหาในการรับชม ก็ต้องสมัครเป็นลูกค้าทรูดังต่อไปนี้

ทรูมูฟ เอช

  • ลูกค้าปัจจุบัน
    • ทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน รับสิทธิง่ายๆ เพียงกด 55556#โทรออก
    • พิเศษ! รับเน็ตดูทรูไอดีไม่อั้น เมื่อสมัครแพ็กเสริม เน็ตเต็มสปีด 10GB
    • เพียง 150 บาท (ไม่รวมภาษี) ใช้งานได้ 30วัน สมัครง่ายๆ แค่กด 9007420# โทรออก
  • ลูกค้าใหม่ เปิดซิมใหม่ รับสิทธิเลย แค่ดาวน์โหลด และลงทะเบียน แอปทรูไอดี
    • แบบรายเดือน เปิดซิมใหม่ หรือย้ายค่ายมาทรูมูฟ เอช แบบรายเดือน สมัครแพ็กเกจรายเดือน 299 บาทขึ้นไป
    • แบบเติมเงิน เปิดซิมใหม่ แบบเติมเงิน เริ่มต้นเพียง 49 บาทขึ้นไป

ทรูออนไลน์

  • ลูกค้าปัจจุบัน
    • สามารถเช็คสิทธิการรับชมแพ็กเกจทรูอันล็อก ทีวี ได้ทางแอปทรูไอดี
  • ลูกค้าใหม่
    • สมัคร True Gigatex Fiber Unlock TV 1Gbps รับชมแพ็กเกจทรูอันล็อก ทีวี ดูบอลโลกฟรี บนจอทีวีผ่านกล่องทรูไอดีทีวี และดูบนมือถือ ผ่านแอปทรูไอดี เริ่มต้นเพียง 599 บาทต่อเดือน
    • (ราคาพิเศษสำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช จากปกติ 799 บาทต่อเดือน)

ทรูวิชั่นส์

  • ลูกค้าปัจจุบัน
    • สามารถรับชมได้ทางช่อง True4U, TrueSports 2 และTrueSports 5 บนจอทีวีผ่านกล่องรับสัญญาณ
    • ทรูวิชั่นส์ และดูบนมือถือ ผ่านแอปทรูไอดี (เพียงกรอกหมายเลขสมาร์ทการ์ด)
  • ลูกค้าใหม่
    • สมัครแพ็กเกจทรูวิชั่นส์ เริ่มต้น Happy Family เพียง 299 บาทต่อเดือน

ความคมชัดในการรับชม 32 แมตช์ เป็น SD

เรื่องของความคมชัดในการรับชม ก็คือเป็นอีกประเด็นที่ควรตั้งข้อสังเกต เพราะสิทธิ์การถ่ายทอดสดจำนวน 32 แมตช์ จาก 64 แมตช์ หรือ ครึ่งหนึ่งของทั้งหมด เป็นการถ่ายทอดสดผ่านช่อง True4U ซึ่งเป็นคุณภาพความคมชัดระดับ SD (Standard Definition) นอกจากนี้ยังมีช่อง SD อื่นๆ ที่ได้ถ่ายทอดช่องละ 2 นัด เท่ากับว่า ทำให้รวม ๆ กันแล้ว คนไทยจะได้รับชมการถ่ายทอดสดฟรีแบบ SD เกินครึ่งหนึ่งของแมตช์การแข่งขันทั้งหมดแน่นอน

ขณะที่นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล และที่ปรึกษา บริษัท เนชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ทีวีดิจิทัลหลายช่องที่เป็นความคมชัดสูง หรือ HD (High Definition) ได้แก่ ช่อง7, PPTV, 9MCOT ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุบอลโลก 2022 เพียงช่องละ​ 1 แมตช์เท่านั้น​ ในขณะที่มีบางช่องได้​ 2-3 แมตช์ ทำให้เมื่อรวม ๆ กันแล้ว มีการถ่ายทอดแบบ HD ไม่น่าเกิน​ 20​ แมตช์ จาก 64 แมตช์ 

‘สมาคมทีวีดิจิตอล’ ร้อง กสทช. จัดสรรถ่ายทอดสดไม่เป็นธรรม

ล่าสุด นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการสมาคมทีวีดิจิทัล ยื่นหนังสือถึงกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  เรื่องขอให้ กสทช. วินิจฉัยว่าการจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดสดของ กกท. เป็นไปโดยชอบและขัดกับหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” ของ กสทช. หรือไม่ และต้องการให้มีช่องทางการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้น 

โดยหากยึดตามบันทึกข้อตกลงที่ กสทช. ให้การสนับสนุนงบประมาณ 600 ล้านบาท จากกองทุน กทปส. ให้จัดสรรการถ่ายทอดสดแก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ตลอดการแข่งขัน แต่การดำเนินการของ กกท. เกี่ยวกับการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้มีข้อสังเกตุถึงความไม่ถูกต้องในการจัดสรรการถ่ายทอด เพราะ ไม่ใช้เพียงแบ่งสัดส่วนการถ่ายทอดสดให้กลุ่มทรู ซึ่งมีธุรกิจเป็นช่องทีวีดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังให้สิทธิ์ในการเลือกแมตช์สำคัญไปก่อนด้วย ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียม สมาคมฯ จึงขอให้ทำการตรวจสอบทันที

เลขานุการ ประธาน กสทช. กล่าวว่า จะพิจารณาถึงเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ประเด็นที่จะขอให้ทบทวนการจัดสรรการถ่ายทอดสดใหม่ สามารถทำได้หรือไม่นั้น กสทช. มีหน้าที่ในการสนับสนุนงบประมาณ การจับฉลากถือเป็นหน้าที่ของ กกท. พร้อมย้ำว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงในการสนับสนุนระบุไว้ชัดเจนว่าต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร รวมถึงมีกฎหมายควบคุมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่ให้สื่อของทรูมีสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกมากกว่าสื่อช่องอื่นอาจแสดงถึงความไม่เป็นธรรมหรือไม่ เรื่องนี้ต้องหารือกับ กกท. ให้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป เพราะ กสทช. มีเจตนาให้ประชาชนสามารถรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้ทุกช่องทางโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย