ดีป้า (Depa) เผยผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ประจำปี 2565 พร้อมคาดการณ์แนวโน้ม 3 ปีข้างหน้า โดยระบุว่าภาพรวมอุตสาหกรรมปี 2565 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 40,518 ล้านบาท เติบโตลดลง 4% สาเหตุจากการหดตัวของอุตสาหกรรมเกม แต่คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องแตะระดับ 44,983 ล้านบาทได้ในปี 2568 ด้านผู้ประกอบการแนะภาครัฐควรเร่งยกระดับฝีมือแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาดิจิทัลคอนเทนต์ไทย หากได้รับการส่งเสริมทั่วถึงจะนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้

ดร.กษิติธร ภูภราดัย รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานยุทธศาสตร์และความมั่นคง ดีป้า เปิดเผยว่า
มูลค่ารวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ปี 2565 มีอัตราการเติบโตลดลงเฉลี่ย 4% โดยเป็นผลมาจากการหดตัวของอุตสาหกรรมเกมที่เป็นหัวหอกสำคัญของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 85% ของมูลค่ารวมของภาคอุตสาหกรรมที่ 40,518 ล้านบาท หลังจากเดิบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในช่วงปี 2563-2564 ที่คนจำเป็นต้องเว้นระยะห่างทางสังคมและทดแทนด้วยกิจกรรมบันเทิงในที่พักอาศัย อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์จะสามารถเติบโตต่อเนื่อง โดยมูลค่ารวมจะขยายตัวไปถึง 44,983 ล้านบาทภายในปี 2568

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเกมยังได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมดีขึ้น ค่านิยมของการเล่นเกมที่เปลี่ยนจากการเล่นเพื่อความสนุกสู่การสร้างอาชีพใหม่ในปัจจุบัน รวมถึงการส่งเสริมจากภาครัฐและภาคเอกชนที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน การขาดแคลนบุคลากรจากกระแสการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เงินลงทุน รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนของบรรดาผู้ประกอบการยังคงเป็นอุปสรรคที่ฉุดรั้งภาคอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมแอนิเมชันกับการโตในตลาดส่งออก

อุตสาหกรรมแอนิเมชันในปีที่ผ่านมามีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 15% มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3,936 ล้านบาท โดยประเทศไทยถือเป็นแหล่งรับจ้างสำคัญของงาน Animation และ CG/VFX โดยกลุ่มประเทศที่เป็นผู้ว่าจ้างหลักคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ กลุ่มประเทศจากทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม แคนาดา โดยมีมูลค่าการส่งออกในปี 2565 มากถึง 2,610 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 21% ซึ่งจุดแข็งสำคัญที่ทำให้งาน Animation และ CG/VFX ของไทยเป็นที่ยอมรับมาจากบุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญระดับสูง ทั้งด้านเทคนิคและฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ และราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของงาน

อุตสาหกรรมคาแรกเตอร์โตเร็วด้วยแรงหนุนจากตลาดท่องเที่ยว

อุตสาหกรรมคาแรกเตอร์ปี 2565 มีอัตราการเติบโตถึง 26% โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2,025 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนหน้า ผลพวงทางเศรษฐกิจทำให้สภาพคล่องทางการเงินของประชาชนไทยหลายกลุ่มลดลง แต่ในปี 2565 มูลค่าการบริโภคกำลังกลับมาจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และมูลค่าการว่าจ้างมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการใช้คาแรกเตอร์ในการสื่อสารกับผู้บริโภคมากขึ้น โดยกลุ่มผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในประเทศไทย มีการเช่าลิขสิทธิ์เพื่อนำไปผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่กระแสของสินค้าในกลุ่ม Toy และ Hobby ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาสำคัญของกลุ่มอุตสาหกรรมคาแรกเตอร์คือขาดการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาและลิขสิทธิ์

อุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เติบโตตอบรับไลฟ์สไตล์

ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพรวมของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยได้สมบูรณ์ขึ้น ดีป้าและเหล่าพันธมิตรจึงเห็นพ้องกันในการเพิ่มข้อมูลอุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สำหรับการสำรวจฯ เป็นครั้งแรก ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3,712 ล้านบาท โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถอ่านเนื้อหาที่ต้องการได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพกพาหนังสือ

อีกทั้งพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่นิยมสร้าง Content มากขึ้น และการเผยแพร่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีทั้งเนื้อหา Web Novel, E-book, E-comic และ Webtoon โดยมูลค่าของการให้บริการรับจ้างผลิตเริ่มเติบโตจากทั้งฝั่งเจ้าของลิขสิทธิ์และตัวแทนจัดจำหน่ายที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งบริการหลักจะเป็นการแปลงไฟล์เนื้อหาให้อยู่ในรูปของไฟล์ E-book

นอกจากนี้ ในงานแถลงผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ประจำปี 2565 ยังมีช่วงของการเสวนา ซึ่งผู้แทนจากสมาคมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นการผลักดันประเทศไทยเป็นประเทศมหาอำนาจด้านซอฟต์พาวเวอร์ด้วยอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์

โดยกล่าวถึงไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบันที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งประเทศไทยมีแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาดิจิทัลคอนเทนต์อยู่มาก แต่ยังต้องการโอกาสในการยกระดับฝีมือให้เทียบเท่าระดับสากล หากได้รับการส่งเสริมอย่างทั่วถึงจะสามารถนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ดีป้า และพันธมิตรพร้อมที่จะผลักดันผ่านการกำหนดทิศทางและนโยบายให้สอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของรัฐบาลในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส