ในปี 2025 นี้ ทุกคนคงจะเห็นประโยชน์และการใช้งานของ AI ได้ชัดเจนมากขึ้น อย่างการใช้เจนภาพ ช่วยเขียนอีเมล สร้างวิดีโอ หรือแม้กระทั่งการทำเพลงด้วย AI เพื่อช่วยให้เพลงสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยโปรดิวเซอร์มิกซ์เสียงและมาสเตอร์ริงเพลงให้สมบูรณ์แบบ
ด้วยความสามารถของ AI ที่ไปไกลได้กว่านั้น แม้ว่าเราจะไม่มีความรู้เรื่องเพลง หรือทักษะการเล่นดนตรีเลยก็ตาม เพียงแค่ป้อนพรอมต์ที่เราต้องการ แนวเพลงที่อยากได้ อารมณ์ความรู้สึกของเพลง เพียงไม่กี่คลิกก็สร้างเพลงขึ้นมาได้ง่าย ๆ อย่างแพลตฟอร์ม Suno หรือ Udio ที่สร้างสรรค์เพลงได้ตามความต้องการ คำถามก็คือ แล้วอนาคตของวงการเพลงอยู่ตรงไหน เมื่อ AI ก็ทำได้เหมือนกัน
ศึกการแต่งเพลงระหว่างศิลปินกับ AI ใครคือผู้ชนะ
แน่นอนว่าการมาถึงของ AI ได้จุดประกายคำถามสำคัญขึ้นมาว่า “แล้วศิลปินที่เป็นมนุษย์จะไปยืนอยู่ตรงไหน ?” คำถามนี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้น เมื่อวงไอดอลชื่อดังอย่าง AKB48 ได้จัดโปรเจกต์พิเศษครบรอบ 20 ปี ด้วยการเปิดตัว 2 เพลงใหม่ให้แฟน ๆ ร่วมโหวตเพลงที่ชอบ โดยไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้แต่ง
ศึกการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่าง อากิโมโตะ ยาซูชิ (Akimoto Yasushi) ที่เป็นคนเขียนเพลงจริง ๆ กับ AI Akimoto Yasushi เอไอที่ถูกเอามาฝึกโดยใช้เพลงที่อากิโมโตะเคยแต่งขึ้นมาทั้งหมด
ผลปรากฏว่าเพลงที่แต่งโดย AI ชื่อว่า “Omoide Scroll” ได้รับคะแนนโหวตจากคนทั่วไปถึง 14,225 คะแนน ซึ่งมากกว่าคุณอากิโมโตะตัวจริงถึง 3,000 โหวต ทำให้เพลง Omoide Scroll ถูกอัปโหลดผ่านสตรีมมิงอย่างเป็นทางการของ AKB48
ไม่เพียงแต่การแต่งเพลงเท่านั้น โปรเจกต์นี้ยังใช้ AI ในการคัดเลือกสมาชิกที่จะได้ร้องและเต้นในเพลงด้วย แม้จะถูกแต่งด้วย AI แต่ส่วนของทำนองและดนตรีประกอบนั้นยังคงเป็นฝีมือของทีมงานที่เป็นมนุษย์มาทำต่อจนเสร็จสมบูรณ์ แต่ชัยชนะครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ได้มีความสามารถแค่การวิเคราะห์ข้อมูล แต่ได้สร้างความท้าทายให้กับศิลปินที่เป็นมนุษย์จริง ๆ และก้าวไปอีกขั้นของความสร้างสรรค์
แล้วอนาคตของวงการเพลงอยู่ตรงไหน เมื่อใครก็แต่งเพลงได้
สิ่งที่กำลังเกิดกับอุตสาหกรรมเพลง เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหม่ เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญและเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้ง่ายขึ้น ใคร ๆ ก็เป็นศิลปินได้ สิ่งนี้ได้สร้างความกังวลว่า เพลงที่สร้างจาก AI อาจเข้ามาแย่งชิงพื้นที่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิง จนอาจลดทอนคุณค่าของผลงานที่มาจากฝีมือและจิตวิญญาณของศิลปินที่เป็นมนุษย์
แน่นอนว่าอุตสาหกรรมเพลงต้องปรับตัวเพื่อหาแนวทางอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ การแบ่งปันรายได้ที่เป็นธรรม และการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Deezer ได้เริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง โดยการประกาศใช้เทคโนโลยีเพื่อคัดกรองและติดป้ายเพลงที่สร้างโดย AI เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับผู้ฟัง
อย่างไรก็ตาม อนาคตของวงการเพลงอาจไม่ได้อยู่ที่ว่าใครแต่งเพลงได้ดีกว่าใคร แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้คุณค่าและสื่อสารผ่านผลงานเพลงอย่างไร เพราะถึงแม้ AI จะสามารถร้อยเรียงทำนองได้ไพเราะ แต่ “ความคิดสร้างสรรค์” ที่มาจากประสบการณ์ ความรู้สึก และจิตวิญญาณของมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลอกเลียนแบบไม่ได้
ท้ายที่สุดแล้ว…บางทีคุณค่าของเพลงอาจไม่ได้อยู่ที่ว่ามันถูกสร้างจากมนุษย์หรือ AI แต่อยู่ที่ว่าเพลงนั้นสามารถเข้าไปทำงานกับหัวใจของผู้ฟังได้มากแค่ไหน