เคยไหม ? ที่บอกตัวเองว่าจะไถมือถือเล่น ๆ แค่ 5 นาที แต่เหมือนรู้ตัวอีกทีคือผ่านไปชั่วโมงกว่า เพราะดันเผลอใจไปกับ CEO หนุ่มหล่อรวยหมื่นล้านที่ปลอมตัวมาเป็นบอดี้การ์ด หรือติดหนึบกับเรื่องราวของนางเอกที่ตายแล้วเกิดใหม่เพื่อย้อนเวลากลับมาแก้แค้นแบบเลิศ ๆ

ถ้าคุณพยักหน้าอยู่…คุณกำลังโดน ”ซีรีส์จีนแนวตั้ง” ตกเข้าให้แล้วเต็ม ๆ แล้ว แต่เคยสงสัยไหมว่าเบื้องหลังความบันเทิงที่ดูดเวลาเราได้ขนาดนี้ มันมีอะไรซ่อนอยู่ ?

แล้วซีรีส์จีนแนวตั้งที่ว่านี้มันคืออะไร ทำไมถึงฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองขนาดนี้ ?

ซีรีส์จีนแนวตั้งหรือละครสั้นแนวตั้ง ก็คือมินิซีรีส์ที่ถ่ายทำออกมาเป็นแนวตั้งในขนาด 9:16 สำหรับสมาร์ตโฟนและแท็บแล็ตโดยเฉพาะ มักเปิดเรื่องให้ชวนสงสัย เน้นไว สามารถจบเรื่องราวทั้งหมดได้โดยใช้เวลาไม่นาน

เนื้อหาส่วนใหญ่มักสร้างปมที่กระตุ้นการหลั่งของโดปามีน (Dopamine) หรือสารความสุขในสมอง อย่างการเปิดเรื่องมาให้นางเอกเป็นผู้ถูกกระทำ ทำให้คนดูเฝ้ารอการแก้แค้นของนางเอกเพื่อความสะใจ ที่จะกระตุ้นการหลั่งโดปามีนทำให้สมองมีความสุข โดยแต่ละตอนมีความยาวเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น ทำให้คนดูรู้สึกว่าเนื้อหาย่อยง่าย ไม่ต้องใช้สมาธิเยอะเหมือนดูหนังยาว ๆ เลย

​​และถ้าจะพูดถึงเจ้าแห่งโมเดลธุรกิจนี้ ก็คงหนีไม่พ้นประเทศจีน ที่สร้างคอนเทนต์ตรึงใจผู้ชมด้วยจุดขายเนื้อเรื่องที่กระชับไม่ซับซ้อน บวกกับเคมีความสวยหล่อของคู่พระ-นาง ประกอบกับเรื่องราวที่แม้บางเรื่องจะคาดเดาได้ง่าย แต่ก็ขยี้ปมดราม่าสร้างความคาใจดึงดูดให้ผู้ชมอยากติดตามต่อไปจนจบ 

อีกทั้งยังใช้การผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำ คืนทุนไว และใช้เวลาไม่นาน ทำให้สามารถผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ออกมาได้เรื่อย ๆ ให้รับชมผ่าน TikTok หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิงของตัวเอง เช่น DramaBox ด้วยกระแสที่แรงเกินต้านขนาดนี้ก็ทำให้แพลตฟอร์มสตรีมมิงเจ้าใหญ่อย่าง iQIYI ยังต้องกระโดดลงมาเล่นในสนามนี้ด้วย

ประเภทซีรีส์แนวตั้งสุดฮิต เลื่อนผ่านกี่ทีก็ต้องหยุดดู

เนื่องจากซีรีส์แนวตั้งใช้ทุนสร้างไม่สูงและถ่ายทำง่าย จึงเป็นข้อดีที่ทำให้มีพล็อตเรื่องแปลกใหม่และหลากหลาย สามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

  • แนวโรแมนติก-ดราม่า มักนำเสนอเรื่องราวความรักของคนเมืองยุคใหม่ ที่มักมีความซับซ้อนและเงื่อนไขทางสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น พล็อตการแต่งงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจ และความสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • แนวสะท้อนสังคม เป็นแนวที่เราต่างกันคุ้นเคยกันดี กับพล็อตเรื่อง CEO ปลอมตัวมาเป็น รปภ. บ้าง ปลอมมาเป็นบอดี้การ์ดบ้าง ซึ่งเนื้อเรื่องแนว ๆ นี้ก็มีหลากหลายตัวละครที่จะขยี้ปมให้คนดูลุ้นแล้วเอาใจช่วยว่าจะเฉลยตอนไหน
  • แนวตลก เน้นการสร้างเสียงหัวเราะผ่านสถานการณ์สั้น ๆ ที่เข้าใจง่าย มักใช้มุกตลกที่เข้ากับยุคสมัย เพิ่มอรรถรสความฮาด้วยพากย์ไทยเข้าไป ก่อนจะปิดท้ายตอนด้วยบทสรุปหักมุมที่ผู้ชมคาดไม่ถึง
  • แนวพีเรียด ย้อนยุค อีกหนึ่งที่ครองใจจนใครก็ต้องหยุดดู กับแนวพีเรียดย้อนยุค พล็อตเรื่องที่นางเอกที่เป็นแม่ทัพ หรือย้อนเวลา บวกกับความสวยงามของฉากและเอฟเฟกต์ตื่นตาที่ทำดีเกินคาด

ทำไมตลาด “ซีรีส์จีนแนวตั้ง” ถึงเติบโตไวครองใจคนยุคดิจิทัล

จากคอนเทนต์ที่เมื่อก่อนเคยถูกมองด้วยสายตาขบขัน เพราะพล็อตเรื่องที่ดูเรียบง่าย ไปสู่การเป็นหนึ่งในตลาดสื่อที่เติบโตเร็วที่สุดและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องความสนุกเพียงอย่างเดียวแต่คือการวางโมเดลธุรกิจที่คิดมาแล้ว คาดว่าตลาดนี้จะมีมูลค่าถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2025 และจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% จนอาจพุ่งสูงถึง 15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2033

เบื้องหลังการเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้ ไม่ได้มาจากความสนุกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากกลยุทธ์ที่เข้าใจคนยุคใหม่ได้อย่างลึกซึ้ง 2 ส่วนหลัก ๆ คือ

1. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล หัวใจสำคัญที่ทำให้ซีรีส์แนวตั้งได้รับความนิยม คือการเป็น “ความบันเทิงที่พอดีคำ” สำหรับยุคที่ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ผู้ชมสามารถใช้เวลาว่างสั้น ๆ ระหว่างวัน เช่น ตอนพักกลางวัน ระหว่างรอรถกลับบ้าน หรือก่อนนอนเพื่อดูคอนเทนต์ที่ย่อยง่าย จบไว และมีเรื่องราวหลากหลายให้เลือกดูอย่างต่อเนื่อง

2. โมเดลธุรกิจที่เปลี่ยนคลิปสั้นให้เป็นรายได้ ความสำเร็จนี้ยังมาจากโมเดลธุรกิจที่คิดมาเป็นอย่างดี ผ่านกลยุทธ์การสร้างรายได้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินเพื่อปลดล็อกทีละตอน หรือการสมัครสมาชิกรายเดือนเพื่อรับชมอย่างต่อเนื่องที่ขยายไปทั้งเอเชียแปซิฟิก อย่างญี่ปุ่น อินเดีย

รวมถึงเจ้าแม่ซีรีส์อย่างประเทศเกาหลีใต้ ที่ปรับรูปแบบจากซีรีส์ยาวในจอสู่ซีรีส์สั้นแนวตั้ง อีกทั้งยังขยายวงกว้างไปถึงสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยมีจีนเป็นผู้นำตลาดและเป็นผู้ขับเคลื่อนเทรนด์สำคัญ กลายเป็นอุตสาหกรรมสื่อรูปแบบใหม่ที่น่าจับตามอง

ท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ซีรีส์จีนแนวตั้งหรือละครสั้นแนวตั้งที่เรารู้จักกันนั้น ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ เข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การเสพสื่อของคนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงจุด