แม้ในงานประกาศผลรางวัล Academy Awards หรือ ‘ออสการ์ (Oscars)‘ ครั้งที่ 94 ประจำปี 2022 ที่จัดขึ้นในเวลาหัวค่ำของวันที่ ของวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ดอลบี เธียร์เตอร์ (Dolby Theatre) ฮอลลีวูด จะเป็นอีกปีที่มีโมเมนต์ประวัติศาสตร์สำหรับคอหนังมากมาย ทั้งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง ‘Dune’ ที่กวาดไปอย่างสวยงามถึง 6 รางวัล และ ‘Coda’ ที่เป็นภาพยนตร์สตรีมมิงเรื่องแรกที่ชนะรางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง

แต่โมเมนต์ที่กลายเป็นที่โจษจันมากที่สุดบนเวทีออสการ์ปีนี้ กลับเป็นเหตุการณ์ที่ ‘วิล สมิธ’ (Will Smith) ผู้คว้ารางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor in a Leading Role) จากภาพยนตร์ชีวประวัติ ‘King Richard’ ที่เดินปรี่ขึ้นไปตบหน้า ‘คริส ร็อก’ (Chris Rock) ผู้ดำเนินรายการเข้าอย่างจัง ในขณะที่คริสกำลังกล่าวมอบรางวัลสาขาสารคดียอดเยี่ยม

Chris Rock
เหตุการณ์ที่ ‘วิล สมิธ’ (Will Smith) เดินขึ้นเวทีไปตบหน้า ‘คริส ร็อก’ (Chris Rock) กลางงานออสการ์ ปี 2022

ผลกระทบจากเหตุการณ์ตบสนั่นโลกในครั้งนี้ แม้ว่าทั้งฝั่งผู้ตบ และผู้ถูกตบจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์พอ ๆ กัน แต่ดูเหมือนจะส่งผลกระทบที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะในขณะที่ วิล สมิธ ได้ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกของ ‘สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์’ (The Academy of Motion Picture Arts and Sciences – AMPAS) ผู้มอบรางวัลออสการ์ และทางสถาบันมีมติสั่งห้าม วิล สมิธ เข้าร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์ถึง 10 ปี

แต่ดูเหมือน คริส ร็อก จะได้ภาษีจากเรื่องนี้มากกว่า ทั้งการที่โชว์ทัวร์เดี่ยวไมโครโฟน ‘Ego Death’ ของเขาที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่ขายดีจนหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งอย่างรวดเร็ว แถมดูเหมือนว่า เขาเองก็น่าจะได้รับโอกาสกลับไปดำเนินรายการบนเวทีออสการ์ในปีหน้าเหมือนเดิมอีกด้วย

Chris Rock
‘เครก เออร์วิช’ (Craig Erwich) ประธานฝ่ายเอนเตอร์เทนเมนต์
สถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC Television)

ล่าสุด ‘เครก เออร์วิช’ (Craig Erwich) ประธานฝ่ายเอนเตอร์เทนเมนต์ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC Television) สถานีโทรทัศน์ผู้จัดการถ่ายทอดสดรางวัลออสการ์ ได้เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Deadline ว่า แม้จะมีเหตุการณ์ตบช็อกโลกที่ส่งผลกระทบและเป็นที่ถกเถียง แต่เครกกลับมองว่า งานออสการ์ปีนี้เป็น “โชว์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม” และมีไอเดียว่า อาจให้ คริส ร็อก กลับมาทำหน้าที่พิธีกรดำเนินรายการอีกครั้ง ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 ที่จะจัดขึ้นในปี 2023

เครก เออร์วิช เปิดเผยเหตุผลว่า “จากการประเมินงานออสการ์ครั้งนี้ในมุมของผม ผมคิดว่ามันเป็นปีที่ประสบความสำเร็จ แม้จะเห็นได้ชัดเจนว่า มีการถกเถียงกันอย่างมาก ซึ่งไปบดบังเรื่องดี ๆ แง่บวกมากมายที่เกิดขึ้นในการแสดง แต่ผมก็ยังมีความสุขกับงานในครั้งนี้มาก ๆ ก่อนหน้านี้ เรามีช่วงเวลาที่โชคร้าย แต่งานก็เริ่มจะดีขึ้นในทุก ๆ ปี และเราก็กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่”

“มันเป็นกระแสตีกลับครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการประกวดรางวัลในฤดูกาลนี้ ถ้าคุณลองดูสิ่งที่ทีมงานพยายามทำ ซึ่งนำความบันเทิงกลับมาสู่โชว์จริง ๆ พวกเขามีทั้งผู้ดำเนินรายการ คลิป และการแสดงดนตรีที่น่าทึ่ง ผมคิดว่ามันเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการโชว์เพื่อทวงความยิ่งใหญ่ของเรากลับคืนมา เรามีอะไรให้เรียนรู้อยู่เสมอ และเราจะพยายามทำให้ดีขึ้นในปีต่อ ๆ ไป”

ตามรายงานของ Deadline ได้เปิดเผยสถิติตัวเลขผู้ชมงานออสการ์ในปีนี้ว่า มีผู้ชมเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ในส่วนที่มีผู้ดำเนินรายการ และ 75% ในส่วนที่ไม่มีผู้ดำเนินรายการ และมียอดผู้ชมโดยรวมมากกว่า 16.6 ล้านครั้ง

Chris Rock
คริส ร็อก พิธีกรบนเวทีออสการ์ ปี 2016

คริส ร็อก เป็นนักแสดงตลกที่รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการในงานประกาศรางวัลออสการ์มาแล้วถึง 3 ครั้ง ในช่วงปี 2005 (ครั้งที่ 77) ปี 2016 (ครั้งที่ 88) และในปี 2022 (ครั้งที่ 94) โดยเฉพาะในงานออสการ์ปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่มีกระแส #OscarsSoWhite หรือกระแสคว่ำบาตรรางวัลออสการ์ หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์รายชื่อผู้เข้าชิงในปีนั้น ที่เต็มไปด้วยนักแสดงฮอลลีวูดผิวขาว และไม่มีนักแสดงผิวดำเข้าชิงเลย ซึ่งถูกมองว่า เป็นการเสนอรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลที่ขาดความหลากหลาย และไม่เท่าเทียมต่อนักแสดงผิวดำในงานออสการ์

ในเวลานั้น ร็อกก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โดนกระแสเรียกร้องและกดดันให้เข้าร่วมกระแส และคว่ำบาตรให้ถอนตัวจากการเป็นพิธีกรงานออสการ์ เหมือนที่นักแสดงผิวสีหลายคนต่างก็ประกาศคว่ำบาตรงานออสการ์ไปแล้ว แต่กลายเป็นว่าเขาเลือกที่จะปฏิเสธการเข้าร่วมขบวนคว่ำบาตรในคร้งนี้ และยังคงเป็นพิธีกร แถมยังแซวกระแสต่อต้านในครั้งนี้ด้วยเรียกงานออสการ์ว่าเป็น ‘รางวัลของคนผิวขาว’ (White People’s Choice Awards)

แถมในงาน เขายังพูดแซวเหยียดเชื้อชาติ สวนกระแสบรรยากาศ #OscarsSoWhite แบบจัดเต็ม ตั้งแต่การแซวเด็กชาวเอเชีย 3 คนว่าเป็นนักบัญชีผู้คำนวณคะแนนรางวัล เพราะเชื่อว่าชาวเอเชียมักจะเก่งคณิตศาสตร์ แถมยังพูดแซวการใช้แรงงานเด็กในเอเชียอีกว่า “ถ้าใครไม่พอใจมุกของผม ก็ให้ไปทวีตด่าในโทรศัพท์ที่เด็ก ๆ พวกนี้เป็นคนผลิตได้เลย”

Chris Rock
คริส ร็อก และเด็กชาวเอเชีย 3 คนบนเวทีออสการ์ ปี 2016

รวมทั้งยังแซววิล และภรรยา ‘เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ’ (Jada Pinkett Smith) ที่ประกาศว่าจะคว่ำบาตรไม่เข้าร่วมงานออสการ์ จากกระแส #OscarsSoWhite และจากความไม่พอใจที่วิล ที่ไม่ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Concussion’ (2015) ทั้ง ๆ ที่เขาเองมีชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe) ในปีนั้นด้วย ร็อกจึงได้แซวใส่เจดาว่า “เจดาคว่ำบาตรออสการ์ ก็เหมือนผมคว่ำบาตรกางเกงในของริฮานนา (Rihanna) นั่นแหละ เพราะผมไม่ได้รับเชิญให้เข้าชิงด้วยอยู่แล้วไง! “

แถมยังแขวะไปถึงวิลว่า “คือมันก็ไม่ยุติธรรมหรอก วิลที่แสดงดีขนาดนั้นจะไม่ถูกเสนอเข้าชิงกับเขาด้วย แต่มันก็ไม่ยุติธรรมเหมือนกันที่เขาจะได้ค่าตัวตั้ง 20 ล้านเหรียญจากหนังเรื่อง ‘Wild Wild West'” (หมายเหตุ – ภาพยนตร์เรื่อง ‘Wild Wild West’ (1999) ถูกนักวิจารณ์สับเละว่าเป็นหนังแย่ แถมรายได้ตอนฉายยังขาดทุนอีกต่างหาก)

Chris Rock
วิล สมิธ และภรรยา ‘เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ’ (Jada Pinkett Smith)
(ภาพจากงานออสการ์ 2022)

หลังจากงานออสการ์จบลง แม้ร็อกจะได้รับกระแสชื่นชมในแง่ของการรับมือกระแส #OscarsSoWhite ที่เขาเองยังคงเป็นพิธีกรได้อย่างราบรื่น ท่ามกลางกระแสเต่อต้านที่ค่อนข้างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ยังโดนกระแสตำหนิอย่างรุนแรงว่า เป็นคนผิวดำแท้ ๆ แต่กลับเล่นมุกเหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติ และการเหยียดวิล และเจดาในครั้งนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการจุดกระแสความขัดแย้งระหว่างคู่สามีภรรยา กับพิธีกรปากเก่งของออสการ์มาตั้งแต่ตอนนั้นอย่างมีนัยสำคัญ

งานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 จะมีการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงในวันที่ 24 มกราคม 2023 และจะมีงานประกาศรางวัลในวันที่ 12 มีนาคม ปี 2023 ณ ดอลบี เธียร์เตอร์ (Dolby Theatre) ฮอลลีวูดเหมือนเช่นทุก ๆ ปี และคาดว่า วิล สมิธ แม้จะไม่สามารถมาร่วมงาน (ที่อาจมีคริส ร็อก เป็นพิธีกร) ได้จากการถูกออสการ์สั่งแบน แต่ก็ยังคงมีสิทธิ์ที่จะถูกเสนอชื่อและรับรางวัลในอนาคตได้ตามปกติ


ที่มา: deadline, comicbook, independent, cnn

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส