หนังตื่นเต้นระทึกขวัญทุนเล็ก ๆ ที่ประสบความสำเร็จมากในปี 2013 จนสานต่อมากลายเป็นไตรภาค ทั้ง 3 ภาคอยู่ในมือของ เจม เดอโมนาโค เจ้าของเรื่องที่ทั้งกำกับและเขียนบทเอง เส้นเรื่องเลยไม่ออกทะเลนัก  เรื่องราวในทุกภาคมีตัวละครเชื่อมโยงกันและเล่าเรื่องราวได้ในวงกว้างขึ้น จากภาคแรกที่เกิดเหตุในบ้านหลังเดียว ภาคสองพาคนดูออกไปดูสถานการณ์ภายนอกบ้านเจอธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับคืนล้างบาป มาถึงภาคนี้ก็ยกเรื่องราวไประดับประเทศเน้นหนักไปเรื่องการเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แห่กันเข้ามาร่วมกิจกรรมคืนล้างบาป

maxresdefault

ถึงแม้หนังจะมี ดันเต บิชอป ตัวละครผิวดำจากภาคแรกมีบทบาทต่อเนื่องมาทุกภาคแต่ก็ไม่ได้เป็นตัวเดินเรื่องสำคัญ ถ้าหากว่าไม่ได้ดูภาค 1 ภาค 2 แล้วมาดูภาคนี้ก็รู้เรื่อง เพียงแค่เข้าใจพล็อตหลักแค่ว่า The Purge คือเหตุการณ์สมมติในสหรัฐที่ปีละ 1 คืนจะอนุญาตให้พลเมืองฆ่ากันตายได้โดยไม่มีความผิดทางกฏหมายเพื่อลดปัญหาอาชญากรรม ภาคนี้โฟกัสไปที่ ชาร์ลี โรน วุฒิสมาชิกหญิงผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2025 เธอยึดแคมเปญหลักว่าถ้าได้ตำแหน่งเธอจะยกเลิกคืนล้างบาปนี้ซะ เหตุจากเธอก็เคยเป็นเหยื่อของความโหดร้ายในคืนล้างบาปเมื่อ 18 ปีก่อน

the-purge-3-election-year-traile-31ht6v9we91p5l9245tk3u

แฟรงค์ กริลโล พระเอกจากภาค 2 กลับมารับบทลีโอ บาร์น ภาคนี้ลีโอ เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของชาร์ลี โรน หนังปูเรื่องแนะนำตัวละครใหม่ไม่นานก็เข้าสู่ช่วงระทึกเลย เมื่อชาร์ลี เป็นเป้าหมายของพรรคคู่แข่งผู้เป็นต้นกำเนิดคืนล้างบาปถือโอกาสในคืนล้างบาปนี้กำจัดเธอซะ ด้วยการจ้างทีมทหารรับจ้างและซื้อตัวคนฝ่ายชาร์ลี ให้เป็นหนอนบ่อนไส้ ทำให้ป้อมปราการของชาร์ลี แตก ทั้งชาร์ลี และลีโอ ต้องหนีออกมาเอาชีวิตรอดบนท้องถนน ต้องคอยหลบทั้งทหารรับจ้างที่มีเฮลิคอปเตอร์ รถไล่ล่า พร้อมอาวุธไฮเทค และยังต้องเผชิญกับพวกกระหายเลือดบนท้องถนนอีกด้วย เจม สร้างบรรยากาศท้องถนนคืนล้างบาปให้สัมผัสได้จริงว่าน่ากลัวมีอันตรายรอบตัว เป็นการลากยาวชั่วโมงกว่าที่ชวนให้ลุ้นกับชะตากรรมของทั้งคู่ว่าจะเอาชีวิตรอดอย่างไร และเป็นการเล่าเรื่องที่สนุกด้วยการใส่ตัวละครที่มีสีสันเข้ามามากมาย ทั้งเจ้าของร้านชำ นักเลงหญิงขาโหดแห่งชุมชน และดันเต บิชอป ผู้รอดชีวิตจากภาค แรก ที่กลายมาเป็นหัวหน้าแก๊งใหญ่ต่อต้านพรรค NFFA ผู้ให้กำเนิดคืนล้างบาป เจม คุมเรื่องได้อยู่หมัด แม้จะมีตัวละครใหม่หลายตัว แต่ก็สามารถกระจายบทได้ทั่วถึง แต่ละคนต่างมีซีนเด่น ๆ ของตัวเอง โดยเฉพาะซีนโชว์ของเลนีย์ อีเจ๊ขาโหดนี่โหดได้ใจได้เสียงวีดวิ้วตอบรับจากคนดู ชอบการเลือกตัวแสดงที่มารับบทหัวหน้าทหารรับจ้างหัวล้านมีรอยสักเต็มกบาลดูโหดและทำให้รู้สึกว่าเป็นตัวร้ายที่มีพิษสงมาก

the-purge-election-year-clip-image-221

นับเป็นหนังภาคต่อที่ยังคงความสนุก เส้นเรื่องเดินหน้าไปแบบพลิกผันตลอดเวลาไม่สามารถเดาทิศทางเรื่องได้เลย มีสถานการณ์คับขันให้ได้ลุ้นเรื่อย ๆ และยังคงธีมความโหดที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังมาตั้งแต่ภาคแรก ให้เห็นภาพการฆ่ากันของเหล่าพลเมืองบ้าคลั่ง แต่เป็นภาพไกล ๆ ไม่ชวนสยองนัก มีตุ้งแช่ให้ได้สะดุ้งแรง ๆ อยู่บ้าง ถึงแม้ผู้สร้างจะประกาศว่านี่คือภาคสุดท้าย แต่ฉากจบก็ยังทิ้งเหตุการณ์ไว้ให้สานภาคต่อไปได้อยู่ แต่ก็มีทางเป็นไปได้สูงเพราะ the Purge เป็นหนังฮอลลีวู้ดภาคต่อน้อยเรื่องที่ภาค 2 ภาค 3 ได้ทั้งเงินและเสียงวิจารณ์ในทางบวกมากขึ้น ภาค 2 ใช้ทุนสร้างไปแค่ 9 ล้านเหรียญ กวาดเงินมา 111 ล้าน ภาคนี้เพิ่งเปิดตัวไปสัปดาห์เดียว ได้ตังค์มาแล้ว 62 ล้าน จากทุนสร้างเพียงแค่ 10 ล้าน เป็นหนังลุ้นระทึกที่เนื้อหาเข้มข้นจริงมีไอเดียที่แปลกต่างถ้าเคยดูภาค 1 ภาค 2 มาก็ไม่ควรพลาด หรือไม่เคยดูมาก่อนก็ดูได้รู้เรื่องครับ

Play video