เรียกได้ว่าความขัดแย้งระหว่างยุคสมัย ระหว่างคนทำหนังยุคเก่ากับยุคใหม่ รวมทั้งการนำเสนอภาพยนตร์ในแบบยุคเก่าที่เต็มไปด้วยความสุนทรีย์ กับภาพยนตร์ยุคใหม่ที่ตอบโจทย์คนยุคนี้ ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกยกมาถกเถียงในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีผู้กำกับและคนทำหนังรุ่นเก่า ๆ ต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์วิถีทางของการนำเสนอหนังในแบบยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ที่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์หนังซูเปอร์ฮีโรของ Marvel และ DC อย่างเผ็ดร้อน

Quentin Tarantino

เควนทิน ทารันทิโน (Quentin Tarantino) ผู้กำกับภาพยนตร์แอ็กชันสไตล์จัดจ้าน ก็เป็นหนึ่งคนทำหนังระดับตำนานที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้เช่นเดียวกัน ในตอนล่าสุดของรายการพอดแคสต์ ‘The Video Archives Podcast’ ที่เขาเป็นโฮสต์ร่วมกับ โรเจอร์ อาเวรี (Roger Avary) นักเขียนบทที่เคยทำงานร่วมกันในหนังยุคแรก ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งของรายการ ผู้กำกับสายโหดก็ได้พูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์วงการหนังในยุคนี้ :-

“แม้ว่าช่วงทศวรรษ 80’s จะเป็นช่วงเวลาที่ผมได้ดูหนังเยอะที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยมีมา อย่างน้อย ๆ ก็ยังได้ออกไปดูหนังที่น่าสนใจน่ะนะ ผมรู้สึกว่า หนังยุค 80’s กับยุค 50’s เนี่ย คือยุคที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดแล้วล่ะ ซึ่งมันเหมือนกับยุคนี้มาก เหมือนปัจจุบันนี้ไม่มีผิด! “

ซึ่งการที่ทารันทิโนออกมาเปรียบเทียบว่า ยุคปัจจุบันนี้คือยุคที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด แบบเดียวกับที่ฮอลลีวูดเคยเป็นมาในอดีต นั่นก็เพราะว่าในทศวรรษ 1950 นั้นเป็นช่วงที่ผู้ชมภาพยนตร์ลดลงอย่างมาก เนื่องจากการมาของนวัตกรรมอย่างโทรทัศน์ ส่วนทศวรรษ 1980 คือยุคสมัยที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอุตสาหกรรมหนังฮอลลีวูดในเวลานั้น เริ่มเปลี่ยนจากการสร้างหนังเดี่ยว ๆ แบบยุค 70’s หันไปจับวิธีการสร้างหนังแบบแฟรนไชส์ คือการสร้างหนังภาคต่อจากหนังฟอร์มยักษ์ที่การันตีรายได้อย่างแน่นอนไปเรื่อย ๆ แทน

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็มีส่วนคล้ายกับปัจจุบันอยู่มากทีเดียว โดยเฉพาะพฤติกรรมของคนที่ยอมไปดูหนังในโรงหนังเฉพาะหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ หรือหนังนอกกระแสที่หาดูได้ยากเท่านั้น ส่วนหนังที่มีทุนสร้างและหน้าหนังในระดับกลาง ๆ คนดูมักไม่ค่อยอยากลงทุนลงแรงออกไปดูในโรง สู้รอหนังออกจากโรงแล้วดูทางสตรีมมิงที่บ้านทีเดียวเลยจะคุ้มค่ากว่า รวมถึงการที่ภาพยนตร์ยุคนี้มักจะมีความเหมือน ๆ กันไปหมด ซึ่งทารันทิโนกล่าวประเด็นนี้ว่า “(หนังยุคนี้) ที่ไม่เหมือนกับคนอื่น จะเป็นหนังที่โดดเด่นกว่าใคร”

Quentin Tarantino

นอกจากเขาจะไม่ค่อยชอบการทำหนังในยุคนี้แล้ว เขาเองก็เผยว่า เขาไม่สนใจที่จะกำกับหนังหนังซูเปอร์ฮีโรของ Marvel และ DC อย่างเด็ดขาด ทารันทิโนได้เปิดเผยเรื่องนี้ในบทสัมภาษณ์ของ Los Angeles Times ว่า “เพื่อจะกำกับหนังแบบนั้น คุณต้องเป็นมือปืนรับจ้างน่ะ แล้วผมก็ไม่ใช่ลูกจ้าง ผมไม่ได้กำลังจะหางานทำซะหน่อย” ซึ่งนั่นก็ตรงกับที่เขาเขียนในเชิงจิกกัดใน ‘Cinema Speculation’ ผลงานหนังสือรวมความเรียงเกี่ยวกับหนังเล่มใหม่ของเขาว่า ผู้สร้างหนังทุกวันนี้ต่างก็รอแทบไม่ไหวที่จะเห็นหนังซูเปอร์ฮีโร ‘ตกยุค’ แบบเดียวกับหนังมิวสิคัลที่ตกกระแสไปในช่วงยุค 60’s

Quentin Tarantino

ในช่วงเวลาเดียวกับที่เขาเดินสายโปรโมตหนังสือเล่มนี้ เขาก็ได้เปิดเผยกับ ฮาวเวิร์ด สเติร์น (Howard Stern) นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ในรายการ เดอะ ฮาวเวิร์ด สเติร์น โชว์ (The Howard Stern Show) ทางสถานีวิทยุซิริอัส เอ็กซ์เอ็ม (SiriusXM) ถึงผลงานหนังที่ชอบที่สุดที่เขาเคยกำกับ ซึ่งเขาเผยว่า ผลงานหนังเรื่องล่าสุดอย่าง ‘Once Upon a Time in Hollywood'(2019) คือหนังที่ดีที่สุดที่เขาเคยกำกับมาในชีวิต :-

“มีคนถามผมมานานหลายปีเหมือนกันนะ ผมก็เลยชอบตอบประมาณว่า ‘หนังทุกเรื่องก็เหมือนกับลูกของผมน่ะแหละ’ แต่ที่จริง ผมคิดว่า ‘Once Upon a Time in Hollywood’ คือหนังที่ดีที่สุดของผมนะ”


ที่มา: NME, Variety, Los Angeles Times, Consequence Film

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส