เว็บไซต์ Entertainment Weekly ได้รายงานว่า หลี่ อัน หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ อั้งลี่ (Ang Lee) ผู้กำกับรางวัลออสการ์จาก ‘Brokeback Mountain’ (2005) และ ‘Life of Pi’ (2012) เตรียมกำกับภาพพยนตร์ชีวประวัติ บรูซ ลี (Bruce Lee) นักแสดงและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะป้องกันตัวที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเล็งจะให้ เมสัน ลี (Mason Lee) ลูกชายของอั้งลี่เอง มารับบทเป็นปรมาจารย์กังฟูผู้นี้

เมสัน ลี นั้นได้เริ่มเป็นที่รู้จักการรับบทสมทบใน ‘The Hangover Part II’ (2011) ของผู้กำกับ ท็อดด์ ฟิลลิปส์ (Todd Phillips) และ ‘Lucy’ (2014) ของผู้กำกับ ลุก แบซง (Luc Besson)

ภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่องนี้เป็นโปรเจกต์ของบริษัท 3000 Pictures ของ Sony Pictures โดยอั้งลี่จะเป็นผู้สร้างร่วมกับ ลอว์เรนว์ เกรย์ (Lawrence Grey), เบน เอเวอราร์ด (Ben Everard), ไบรอัน เบลล์ (Brian Bell) และ แชนนอน ลี (Shannon Lee) ลูกสาวของ บรูซ ลี จากบทของ แดน ฟุตเตอร์แมน (Dan Futterman) ที่เคยเข้าชิงราวัลออสการ์ 2 ครั้ง จาก ‘Foxcatcher’ (2014) และ ‘Capote’ (2005)

Bruce Lee
บรูซ ลี ในชุดจั๊มสูทสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ใน ‘Game of Death’ (1978)

อั้งลี่ซึ่งเคยมีประสบการณ์การกำกับภาพยนสตร์ที่เน้นด้านศิลปะการต่อสู้ระดับมหากาพย์มาก่อนอย่าง ‘Crouching Tiger, Hidden Dragon’ (2000) โดยเขาได้ใหัสัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly ว่า “บรูซ ลี ได้รับการยอมรับว่าเป็นทั้งชาวอเมริกันและจีนอย่างสมบูรณ์ เขาเป็นผู้เชื่อมโยงระหว่างตะวันออกและตะวันตก โดยเขาได้แนะนำให้ทั้งโลกรู้จักกังฟูจีน เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งศาสตร์การต่อสู้และการแสดงภาพยนตร์”

บรูซ ลี เป็นนักแสดงระดับนานาชาติที่นำศิลปะป้องกันตัวมาสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากบทสมทบในซีรีส์ ‘Green Hornet’ (1966-1967) จากนั้นมีผลงานฉายเดียวที่น่าจดจำอย่าง ‘Fist of Fury’ (1972) ซึ่งทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฉายา ‘ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง’, ‘Enter the Dragon’ (1973), ‘The Way of the Dragon’ (1972) และ ‘The Big Boss’ (1971)

เขาได้เสียชีวิตเมื่อปี 1973 ในวัย 32 ปี ก่อนที่ภาพยนตร์เรื่อง ‘Game of Death’ จะถ่ายทำเสร็จสิ้น โดยได้มีการนำฟุตเทจที่เขาถ่ายทำไว้มาตัดต่อใหม่และถ่ายทำเพิ่มเติมเพื่อฉายในปี 1978

แม้ว่า บรูซ ลี จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่วงการภาพยนตร์ก็มักจะกล่าวถึงหรือนำตัวละครของเขาไปใช้อยู่เสมอ โดยล่าสุดคือ ‘Once Upon a Time in Hollywood’ (2019) ของ เควนติน แทแรนติโน (Quentin Tarantino) แต่ แชนนนอน ลี ได้ออกมาแย้งว่าเป็นการไม่เคารพและทำลายภาพลักษณ์ความเป็นตำนานของพ่อของเธอ

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส