ในฮอลลีวูด ความแตกต่างด้านความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะความแตกต่างด้านวิธีการแสดงของเหล่านักแสดงที่ต้องมาประชันฝีมือในหนังเรื่องเดียวกัน ซึ่ง ‘Killers of the Flower Moon’ หนังมหากาพย์ฆาตกรรมอิงจากประวัติศาสตร์จริงของชนพื้นเมืองสหรัฐอเมริกา ผลงานล่าสุดของผู้กำกับชั้นครู มาร์ติน สกอร์เซซี (Matin Scorsese) ก็หนีไม่พ้นปัญหานี้เหมือนกัน โดยเฉพาะ 2 นักแสดงยอดฝีมือ 2 รุ่น ขาประจำหนังสกอร์เซซี ได้แก่ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio) และ โรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert de Niro) มาปะทะฝีมือกัน

แม้ที่ผ่านมา ดิแคพรีโอจะเป็นนักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องของการด้นสดหน้ากองด้วยการเพิ่มไดอะล็อก หรือการแสดงแบบด้นสด ๆ หน้าฉาก ซึ่งบางครั้งไอเดียเซอร์ไพรส์หน้ากองของเขาก็เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้กำกับจนถึงขั้นนำไปใช้กับในหนังจริง ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ทุกครั้ง ซึ่งสกอร์เซซี ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับเว็บไซต์ The Wall Street Journal ถึงนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างเดอ นีโรที่ไม่ค่อยพึงใจกับการแสดงแบบด้นสดไปเรื่อยของดิแคพรีโอ โดยเฉพาะในเวลาที่ต้องเข้าฉากร่วมกัน

สกอร์เซซี ผู้กำกับที่จำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างแนวทางการแสดงที่แตกต่างกันของ 2 นักแสดงในระหว่างถ่ายทำ นิยามถึงการแสดงแบบด้นสดของพ่อหนุ่มดิแคพรีโอแบบกลั้วตลกว่า “โอ้โห ไปเรื่อย ไปเรื่อยเลยคนนี้!” (หัวเราะ) ก่อนที่เขาจะเล่าถึงฉากบทสนทนาฉากหนึ่งที่ 2 นักแสดงต้องร่วมฉากกัน และแน่นอนว่าดิแคพรีโอก็เลือกจะด้นสดอีกแล้ว ทำเอานักแสดงรุ่นใหญ่ถึงกับมองบน

Killers of the Flower Moon

“พอถึงตอนนั้น มีบางจังหวะที่บ็อบ (เดอ นีโร) เองก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ผมกับบ็อบมองหน้ากัน และกลอกตามองบนเล็กน้อย ก่อนที่เราจะบอกเขาว่า ลีโอ (ดิแคพรีโอ) คุณไม่จำเป็นต้องพูดบทสนทนาแบบนั้นหรอกนะ”

2 คู่บุญ 2 รุ่นต้องมาฟาดฟันประชันฝีมือกันในหนังอาชญากรรมแนวตะวันตก ผลงานเรื่องที่ 26 ของสกอร์เซซี ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ช่วงยุค 1920 สุดฉาวโฉ่จากความโลภหิวกระหายของคนขาว ที่กระทำต่อชนพื้นเมืองชาวโอเสจ กลายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำ และเป็นจุดกำเนิดของหน่วยสอบสวนกลาง หรือ FBI

ซึ่งดิแคพรีโอต้องรับบทเป็น เออร์เนสต์ เบิร์กฮาร์ต อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่กลับมาช่วยงาน วิลเลียม เฮล แสดงโดย เดอ นีโร ลุงผู้กว้างขวางแห่งดินแดนรัฐโอคลาโฮมา พื้นที่ที่ชาวโอเสจค้นพบบ่อน้ำมัน เออร์เนสต์ต้องเข้าไปมีความสัมพันธ์กับ มอลลี ไคล (ลิลลี แกลดสโตน – Lily Gladstone) ทายาทเศรษฐีบ่อน้ำมันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง

Killers of the Flower Moon

ดิแคพรีโอและเดอ นีโร ประชันบทบาทครั้งแรกในหนังชีวประวัติดราม่า ‘This Boy’s Life’ (1993) ซึ่งตอนนั้นดิแคพรีโอยังเป็นแค่นักแสดงวัยรุ่นที่ต้องรับบทเป็นโทบี เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ต้องพบเจอกับดไวต์ พ่อเลี้ยงจอมทารุณ ซึ่งเดอ นีโรประทับใจการแสดงของหนุ่มน้อยคนนี้มาก เขาจึงโทรหาสกอร์เซซีเพื่อเล่าถึงเด็กหนุ่มคนนี้ให้ฟัง

ส่วนดิแคพรีโอเองก็ประทับใจหนังของสกอร์เซซี โดยเฉพาะหนังที่แสดงโดย เดอ นีโร ทั้ง ‘Taxi Driver’ (1976) และ ‘Mean Streets’ (1973) พอดิแคพรีโอ แจ้งเกิดโด่งดังถึงขีดสุดจากหนัง ‘Titanic’ (1997) ปู่มาร์ตี้และหนุ่มลีโอ จึงได้มาร่วมงานกันครั้งแรกใน ‘Gangs of New York’ (2002)

แฟนตัวยงคงทราบดีว่า ดิแคพรีโอนั้นเป็นนักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องของการด้นสดในหนังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งใน ‘Titanic’ (1997) ที่ แจ็ก ดอว์สัน ขึ้นไปยืนบนหัวเรือและตะโกนว่า “ข้าคือราชาของโลกใบนี้!” (“I’m king of the world!”) ที่ไม่มีอยู่ในบท

ส่วนประโยคดัง “ขายปากกานี้ให้ผมที” (“Sell me this pen.”) ใน ‘The Wolf of Wall Street’ (2013) ก็มีการเปิดเผยว่าเป็นการด้นสดของหนุ่มลีโออีกเช่นกัน รวมทั้งฉากที่ ริก ดาลตัน เดือดดาลและร้องไห้ในรถส่วนตัวหลังจากลืมบทพูดของตัวเองใน ‘Once Upon A Time In Hollywood’ (2019) ก็เกิดจากการด้นสดของดิแคพรีโอด้วยเช่นกัน


ที่มา: The Wall Street Journal, The Telegraph, Unilad

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส