Play video

และวันนี้ก็ได้ฤกษ์ที่ Netflix จะสตรีมมิ่งซีรีส์ Santa Clarita Diet Season 2 ซีรีส์ตลกครอบครัวที่ทั้งอบอุ่นและสยองแถมสนุกเกินคาด และเพื่ออรรถรสในการชมซีรีส์ที่มากขึ้นทาง What The Fact จึงขอนำบทสัมภาษณ์จากโต๊ะกลม (Round Table Interview) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 ที่เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ 2 นักแสดงนำทั้ง ดรู แบรีมอร์ และ ธีโมธี โอลิแฟนต์ อย่างใกล้ชิดมาลงให้อ่านกัน


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากงานแถลงข่าว

  • หลายคนคงสงสัยว่าบรรดาเนื้อคนที่ดรู แบรีมอร์ต้องสวาปามนั้นทำมาจากอะไร และเธอก็แบไต๋ให้เราฟังว่า มันทำมาจากหลายวัสดุมาก อาทิ แอปเปิ้ลอบแห้งให้มีความเหี่ยวย่นเหมือนหนังมนุษย์, เค้กที่แต่งให้เป็นชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ รวมถึงเยลลีที่ให้ความยืดหยุ่นเหมือนเนื้อคน
  • ก่อนรับงาน ดรู แบรีมอร์ ไม่พร้อมกลับเข้าวงการแสดงเพราะกลัวจะไม่มีเวลาให้ลูก แต่ด้วยทีมโปรดิวเซอร์ที่น่ารัก คอยจัดการตารางเวลาให้เธอสามารถมีวันหยุดดูแลลูกสาวและได้อยู่กับครอบครัว เธอจึงตกลงรับงานนี้
  • แม้จะเป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยฉากสยองขวัญ แต่ครอบครัวของทั้งคู่ก็มาเยี่ยมกองถ่ายบ่อยๆ แม้หลายครั้งเสื้อผ้าจะยังเลอะเลือดปลอมอยู่ก็ตาม
  • ของแปลกที่สุดที่ทั้งคู่ได้กินต่างกัน ธีโมธี โอลิแฟนต์ เคยกินลิ้นวัวและชอบมาก ส่วน ดรู แบรีมอร์ กินตั๊กแตนทอดในเม็กซิโก
  • ถ้าต้องกินอวัยวะมนุษย์ ดรู แบรีมอร์ เลือกกิน ปาก ส่วน ธีโมธี โอลิแฟนต์ เลือก นิ้วมือ

บทสัมภาษณ์จากโต๊ะกลม (Round Table Interview)

 

 คุณคิดว่า ซอมบี้มีจริงไหม 

Drew : ฉันไม่เคยเจอซอมบี้ตัวเป็นๆเลย แต่คิดว่า มันเป็นการเปรียบเปรยถึง คนในยุคบริโภคนิยม หรือสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ. ซึ่ง ทิม (ทิมโมธี โอลิแฟนต์) ชอบหนังแนวนี้มากเลยเอาผสมกับเรื่องราวปั่นป่วนในครอบครัว. แล้วคนน่าจะชอบถ้ามีภาพสยดสยองเลยทำให้ซีรีส์นี้น่าสนใจ

Timothy : ส่วนผมไม่อยากให้มีซอมบี้จริงๆหรอกนะ. 


ถ้าต้องตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองเป็นซอมบี้ คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการใช้ชีวิตคืออะไร. 

Drew : สำหรับ ชีลาร์ ฉันว่ามันก็ดูตลกดี ที่ใช้ชีวิตกับครอบครัวปกติ ทำงานหาเงิน เลี้ยงลูก แล้วอยู่ดีๆเกิดเรื่องบ้าๆขึ้น

(คำถามแทรก) แล้วถ้าเป็นชีวิตจริงล่ะ

TIMOTHY : (แซว) ขึ้นหน้าหนึ่งแน่นอนงานนี้. (หัวเราะ)

Drew : ฉันไม่เคยเป็นซอมบี้มาก่อนเลยตอบไม่ได้ แต่ในทางกลับกัน ถ้าชีวิตพัง เจอสารพัดปัญหามารุมเร้า. ฉันว่าสิ่งหนึ่งที่ซีรีส์สอนเราได้ดีมากคือ การตั้งสติ. เราจะร้องไห้ เสียสติแค่ไหน. แต่ท้ายที่สุดก็ต้องกลับมารับมือกับปัญหาให้ดีที่สุด และการทำให้เป็นซีรีส์แนวตลกก็เข้าถึงง่าย ฉันเองก็เริ่มดูหนังดราม่าหนักๆไม่ไหวเหมือนกัน. ฉันแค่อยากหัวเราะกับเรื่องราวบ้าๆบอๆทีเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้และเป็นงานแสดงที่ฉันอยากทำ. 


ทำไมคุณถึงอยากรับบทนี้. 

Timothy: ข้อนี้ผมขอตอบเลย. (หัวเราะ) 

 Drew : ถ้าถามฉันก็คงตอบ วิกเตอร์กับทิม (โปรดิวเซอร์และนักแสดงร่วม) 

Timothy : ผมเห็นด้วย. เพราะ บทเขียนมาดีมาก  ฉลาดมาก อ่านแล้วรู้สึกน่าสนใจขึ้นมาทันที เป็นเรื่องต๊องๆที่ฉลาดมาก และโดยส่วนตัวนี่คือบทที่แตกต่างจากที่ผมเคยเล่น เลยอยากคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะส่วนใหญ่เรามักได้รับบทที่ตายตัวในฮอลลีวูด แต่นี่คือโอกาสที่จะได้ลองบทแปลกใหม่ครับ. 

Drew : ตอนฉันเจอ วิคเตอร์ เจ้าของไอเดียซีรีส์เรื่องนี้ เขาเป็นคนน่ารัก เป็นแฟมิลีแมน ที่มีไอเดียประหลาดๆสยึมกึ๊ยแบบนี้ และด้วยความดีหลายอย่างของเขา เลยยิ่งทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจที่จะแสดงบทที่ดูโหดร้าย น่ากลัวและสยดสยองแบบนี้  ยิ่งพอรู้ว่ามี ทิม มาร่วมงานแสดงด้วยนี่คือ จบเลย! ฉันตกลงทันที ตลอด20ปีที่ผ่านมาฉันมองเห็นความอ่อนโยน ความเป็นสุภาพบุรุษในทุกคาแรกเตอร์ที่เขาเล่นเสมอ แม้จะเล่นแต่บทโหดๆก็ตาม. นี่แหละคาแรกเตอร์ของโจเอล ที่ฉันมองเห็น. 


หากคุณถูกสัญชาตญาณดิบ มาควบคุมตัวเองตอนนี้ คุณอยากทำอะไรมากที่สุด. 

Drew : สัญชาตญาณดิบนี่แหละ คือไอเดียชองวิคเตอร์เลยในการทำซีรีส์เรื่องนี้ เพราะมันคือแก่นของหนังซอมบี้ ที่มาใช้วิพากษ์สังคม ทิม คุณอยากทำอะไรล่ะ. 

Timothy : ผมไม่กล้าบอกคุณหรอก 

Drew : ทำไมล่ะ 

Timothy : ถ้าสัญชาตญาณดิบควบคุมผมใช่มั้ย โอ้ว! มันคงน่าเกลียดมากๆ 

Drew : ฉันว่าเพราะเนื้อแท้เขาเป็นคนดีมากน่ะ. 

Timothy : ก็ถ้าถูกสัญชาตญาณดิบควบคุม จิตใต้สำนึกเลยบอกผมว่ามันคงออกมาไม่สวยแน่ๆ. 

Drew : ถ้าเป็นฉัน ก็คงเป็นแบบนี่แหละ. ฉันใช้ชีวิตด้วยสัญชาตญาณดิบอยู่แล้ว. และฉันจะไม่ฝืนความรู้สึกเมื่อต้องบอกลาใครสักคน. 


ชอบดูอะไรบ้างใน Netflix แล้วจากที่ทำหนังยาวๆมาแล้ว ต้องมาเล่นซีรีส์แค่ตอนละ 30 นาที มันยากมั้ย. 

Timothy : ข้อดีหลักๆของ Netflix คือการทำให้เราเข้าถึง คอนเทนต์แปลกใหม่ที่เคยเกิดได้ยากในวงการ อย่าง สารคดีดีๆนี่แค่ปลายนิ้วเลย. และด้วยเทคโนโลยีล้ำๆก็ทำให้เราดูมันได้ง่ายๆทุกที่ทุกเวลา. 

Drew: อื้อหือ ตอบดีนะเนี่ย! 

Timothy : ส่วนรายการโปรดเหรอ ผมดูน้อยนะ เคยดู Godless แล้วก็สารคดีเยอะๆแยะเลย มีซีรีส์จากนิยายดังๆมากมาย. ผมว่าคนได้ประโยชน์จากเนื้อหาใน Netflix เยอะมาก ถ้าไม่มี Netflix สิ่งดีๆเหล่านี้ก็คงไม่เกิด. 

Drew : ฉันชอบ The Crown. ส่วนถามว่ามันแตกต่างจากหนังใหญ่มั้ย ฉันว่าไม่ต่าง เราใช้เวลาถ่ายทำกัน 3 เดือน ต่างแค่ซีรีส์ทีวีจะเดินเรื่อง ถ่ายทำแบบลำดับเวลา ในขณะที่หนังจะมีการถ่ายข้ามซีนไปมา เลยมีปัญหาพอนักแสดงบางคนไม่ว่าง ทีนี้พอข้ามซีนต้องมาทำความเข้าใจบทกันใหม่. ซึ่งกับซีรีส์พอถ่ายแต่ละตอน ลำดับเวลาไปเรื่อยๆเลยช่วยเรื่องพัฒนาการตัวละครได้มาก เหมือนเราได้เรียนรู้ไปพร้อมกับพวกเขา สรุปคือ ใช้เวลาถ่ายเท่ากันแต่การทำงานเอื้อให้นักแสดงเข้าใจบทบาทตัวเอง เหมือน สตีเวน สปีลเบิร์ก กำกับ ET. (หนังเรื่องแรกของ ดรูว์) ก็เรียงลำดับเวลาเหมือนกันเพื่อให้เด็กๆเข้าใจความรู้สึกตัวละครในตอนจบ 

Timothy: ผมขอบ ET. มากเลย (หัวเราะ) 


การที่ผู้กำกับหนังใหญ่หันมาทำหนังป้อน Netflix มีข้อดียังไงบ้าง แล้วคุณอยากมึโปรเจคต์ตัวเองต่อไปกับ Netflix รึเปล่า 

Timothy : ผมอยากทำสัก 2 โปรเจคต์กับ Netflix ผมเลยหงุดหงิดมากที่มันยังไม่เกิดขึ้น ให้ตายสิ. เจสัน เบตแมน ยังมีตั้ง2 เรื่อง (Ozark, Arrested Development) 

Drew: ข้อดีของ Netflix. คือพวกเขากล้าที่จะลงทุนกันคอนเทนต์แปลกใหม่. ซึ่งหายากมากในฮอลลีวูดทุกวันนี้. ผู้ให้บริการเจ้าอื่นเองก็ยังมีหนังคลาสสิก หรือ เนื้อหาไม่มากเท่า Netflix  ส่วนคนทำหนังเองก็เหมือนศิลปินแขนงอื่นๆว่าอยากให้คนได้ดูหนังแทนที่จะเสี่ยงเอาหนังฉายโรงได้อาทิตย์เดียว ก็เองลง Netflix ดีกว่า ได้ทำหนังหลากหลายเหมาะกับรสนิยมคนทั่วโลกด้วย Netflix ถือว่าเป็นสื่อที่ใช่มากๆ. 

Timothy : ผมว่ามันน่าตื่นเต้นมากเลย ที่เราทำหนังใน แคลิฟอร์เนียแต่สามารถเผยแพร่ให้คนได้มีโอกาสดูทั่วโลกสื่อสารกับผู้ชมต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ทำให้ผู้ชมเข้าใจตัวละครในหนังได้นี่แหละมหัศจรรย์มาก 


คนดู Netflix. มักจะดูแบบรวดเดียวจบ (binge watching) แล้วมันมีผลต่อการแสดงของคุณหรือไม่. 

Timothy : ผมนี่ต้องเล่นให้ไวเลย. เพราะคนดูกันเร็วมาก (หัวเราะ) ที่เปลี่ยนจริงๆคือวงการทีวีครับ เมื่อก่อนซีรีส์ 1 ซีซันออกอากาศได้ 3 เดือน กว่าเราจะรู้ผลตอบรับนี่ลุ้นเอาเหนื่อยเลย แต่กับปัจจุบันคนดูไม่อยากรอถึงสัปดาห์ต่อไปแล้ว.     ซีรีส์ Netflix เลยให้ดูได้ต่อเนื่องเลย 

Drew : ฉันว่าใครคิดไอเดียที่เอาซีรีส์ทั้ง ซีซัน ให้สตรีมมิ่งดูกันต่อเนื่องได้ใน 10 วินาทีนี่โคตรอัจฉริยะเลยนะ ฉันล่ะอยากถามต่อหน้าจริงๆว่าคิดได้ยังไงเนี่ย ดูตอนนึงเสร็จเลื่อนไปตอนต่อไปได้เอง 

Timothy : ผมเสียดายที่ไม่ได้ดู End Credit ผมชอบดูชื่อนักแสดง ทีมงาน เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ 

Drew : เรื่องนี้ขอยกคำพูดท่านศาสดามาเลย เควนติน ทารันติโน่ เคยชี้ให้เห็นข้อดีของการเอาเครดิตมาไว้เปิดเรื่อง เขาเรียกว่า “ช่วงละลายอารมณ์คนดู” (mood time) คนดูจะได้ค่อยๆทิ้งอารมณ์ก่อนเข้าโรงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องราวในหนังจริงๆ. 

Timothy : ผมรักเครดิตเปิดเรื่อง

Drew : ฉันชอบหมดแหละ แต่กับ End Credit อย่างหนังยุค 80 ที่จบด้วย ภาพค้าง (freeze frame) หรือภาพค่อยๆมืดลง เรื่องราวคลี่คลายแล้วเราได้เอนจอยกับการบอกกับคนค้างๆว่าโห! หนังดีว่ะพวก อะไรแบบเนี่ย

 


การมาเล่น Santa. Clarita Diet ให้สิ่งใดกับคุณที่สุด

Timothy: มันทำให้รู้ว่านี่คืองานที่ผมรักครับ ทีมงานดี เพื่อนร่วมงานน่ารักแค่นี้เลย แล้วก็ทำให้อยากทำให้ชีวิตตัวเองและครอบครัวดีขึ้นในทุกวัน

Drew : ฉันก็เหมือนกัน เพราะตอนแรกฉันกลัวการกลับมารับงานแสดงมาก เพราะฉันต้องห่างลูก ทิ้งครอบครัวมาทำงาน แล้วพอทีมงานจัดการให้ฉันได้ทำงานตลอด 3 เดือน ถ่ายสัปดาห์ละ 4 วัน มีวันหยุด ฉันได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างสมดุลย์ ได้ทำงานที่รักแบบเดิมในชีวิตใหม่ แค่นี้ก็ดีมากโขแล้วสำหรับชีวิตแม่ๆอย่างฉัน.