กวินเน็ธ พัลโธรว์ นักแสดงสาวสวยหุ่นบาง เธอเข้าวงการแสดงมาเมื่อต้นยุค 90s แล้วก็ฮิตติดลมบนสุด ๆ ตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพการแสดงเมื่อปี 1998 เมื่อเธอคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนั้น และในปี 1998 นี่ล่ะ ที่เธอมีหนังออกฉายปีเดียวถึง 5 เรื่อง

กวินน็ธ พัลโธรว์ ในหนัง Shakespere In Love วันที่เธอฮอตที่สุดในฮอลลีวูด

กวินน็ธ พัลโธรว์ ในหนัง Shakespere In Love วันที่เธอฮอตที่สุดในฮอลลีวูด

ถ้าแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของเธอมาตลอดจะสังเกตได้ว่าในช่วงสิบปีให้หลังมานี่ ถ้านอกเหนือจากบท เพปเพอร์ พ็อตต์ ในจักรวาลหนังมาร์เวลแล้ว เราแทบไม่เห็นผลงานแสดงในเรื่องอื่นของเธอเลย นั่นก็เพราะเธอเริ่มเบนเข็มไปเป็นแม่บ้าน และนักธุรกิจเต็มตัวหลังจากเปิด “GOOP” แบรนด์สินค้าของตัวเองในปี 2008 จำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม แต่เธอก็ยังไม่ได้ตัดขาดงานแสดงเสียทีเดียว ยังมีผลงานให้เห็นบ้างประมาณ 1-2 ปีต่อเรื่อง โดยเฉพาะบท เพปเพอร์ พ็อตต์ ที่เหมือนเป็นสัญญาผูกพันตั้งแต่เธอรับแสดงบทนี้ใน IronMan (2008) และล่าสุดเธอกำลังจะมีรายการโชว์ของตัวเองทางช่อง Netflix ชื่อว่า “Goop’s Lab” ซึ่งก็น่าจะพูดเรื่องสุขภาพและความงามตามแนวทางแบรนด์ของเธอนั่นล่ะ จะเริ่มแพร่ภาพตอนแรก 24 มกราคม 2020 ช่วงนี้กวินเน็ธ ก็เลยเดินสายโปรโมตรายการซะหน่อย และในการนี้นักข่าวก็ได้โอกาสถามว่าเธอจะกลับมาเอาจริงเอาจังกับงานแสดงอีกไหม พอเจอคำถามนี้กวินเน็ธก็รีบตอบโดยเร็ว

ในฐานะเจ้าของและพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ GOOP

ในฐานะเจ้าของและพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ GOOP

“ไม่เอาแล้วค่ะ –ไ-ม่–(เน้นเสียงจริงจัง) ตอนที่ฉันทำงานแสดง ฉันเผาผลาญพลังงานในตัวเองไปเยอะมาก ยิ่งตอนที่ฉันรุ่งสุด ๆ ฉันแสดงหนังปีนึง 3 – 5 เรื่อง ฉันยังจำบรรยากาศตอนนั้นได้อยู่เลย แม้แต่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นการต้องนั่งรถตู้ไปเข้าฉาก การต้องทนนั่งให้ช่างแต่งหน้า และอีกหลาย ๆ อย่าง ฉันไม่คิดจริง ๆ ว่าฉันจะรับมือกับเรื่องแบบนี้ได้อีกแล้ว เรื่องสุดท้ายที่ฉันรับบทนำคือเรื่อง Proof ตอนนั้นฉันตั้งครรภ์ลูกสาวอยู่ด้วย เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากละครเวทีที่ฉันเล่นในลอนดอน มันทำให้ฉันรู้สึกกับตัวเองว่า ฉันที่สุดกับมันแล้ว ฉันทำแบบนี้ต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ฉันแพ้ท้องในตอนเช้า มันรู้สึกแบบว่าจะตายเสียให้ได้ แต่ฉันยังมีบทพูดอีกตั้ง 5 หน้ากระดาษ แล้วพอฉันคลอดเธอออกมา ฉันก็มองย้อนไปว่าฉันได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากที่สุดมาได้แล้ว นั่นทำให้ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันจะไม่กลับไปรับบทนำในเรื่องไหนอีกแล้ว”

Proof (2005) เรื่องที่ทำให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางอาชีพ

Proof (2005) เรื่องที่ทำให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางอาชีพ

แล้วเธอก็ทำอย่างที่ว่าไว้จริง เพราะหลังจาก Proof (2005) เธอก็รับงานแสดงน้อยลงจริง มีบทสมทบแค่ใน Country Strong, Contagion, Thanks for Sharing แล้วก็หนังมาร์เวลเท่านั้น แล้วนับมาจนถึงวันนี้ปี 2020 “แอปเปิ้ล” ลูกสาวที่เธอพูดถึงในวันนั้น ก็กลายเป็นสาวน้อยวัย 15 ปีไปแล้ว กวินเน็ธตั้งใจเป็นภรรยาที่ดีและเป็นแม่ที่น่ารักของลูกทั้งสอง แอปเปิ้ล และโมเสส ความสนใจหลักของกวินเน็ธในวันนี้คือแบรนด์ Goop ที่กำลังเจริญเติบโต แม้ว่าเธอจะยังมีงานแสดงอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นงานรองที่เธอไม่ได้ใส่ใจมากนัก ขนาดที่ว่าเธอไปปล่อยไก่ตอนโปรโมตหนังอยู่บ่อยครั้ง เธอจำชื่อเจ้าหนู ทอม ฮอลแลนด์ ไม่ได้ จำชื่อ เซบาสเตียน สแตน ไม่ได้ เธอจำไม่ได้แม้กระทั่งว่า ซามูเอล แอล.แจ็กสัน เล่นเป็นใครในหนังมาร์เวล หนักสุดคือตอนที่เธอไปออกรายการ The Chef Show ของ จอน แฟฟโรว์ เธอไปปล่อยไก่ว่าเธอจำไมได้ด้วยซ้ำว่าเธอร่วมแสดงใน Spider-Man: Homecoming

กับ แอปเปิ้ล ลูกสาววัย 15 ปี ที่เกิดกับ คริส มาร์ติน แห่งวง Coldplay

กับ แอปเปิ้ล ลูกสาววัย 15 ปี ที่เกิดกับ คริส มาร์ติน แห่งวง Coldplay

จากนี้ไป เราก็จะต้องมองเห็นอดีตนักแสดงวัย 47 ปี คนนี้ในภาพของนักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ส่วนบทบาทของ เพปเพอร์ พ็อตต์ ในจักรวาลหนังมาร์เวลก็น่าจะจบลงไปพร้อมกับโทนี่ สตาร์ก นั่นล่ะ เพราะดูในเครดิตการแสดงของเธอแล้วไม่มีผลงานแสดงอีกในอนาคต ตอนนี้ถ้าอยากจะเห็นเธอในฐานะนักแสดงก็มีเพียงแค่ ทีวีซีรีส์เรื่อง The Politician ที่สตรีมมิงทางช่อง Netflix แล้วจบซีซันแรกไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งเหตุที่เธอรับแสดงเรื่องนี้ก็เพราะ แบรด ฟอลชุก สามีคนปัจจุบันของเธอเป็นผู้อำนวยการสร้าง เขาจินตนาการภาพของกวินเน็ธ พัลโธรว์ ไว้ในหัวตั้งแต่ตอนเขียนบทอยู่แล้ว ถึงตอนนี้ก็ร่วมยินดีไปกับความสำเร็จของเธอในฐานะนักธุรกิจสาวก็แล้วกันนะ

 

 

อ้างอิง