โลกทั้งใบกำลังอยู่ในช่วงกำลังเฝ้าจับจ้องว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะเป็นคนเดิมอย่าง Donald Trump ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 หรือจะเป็นคนใหม่อย่าง Joe Biden รองประธานาธิบดีจากสมัยของ Barack Obama ในเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เห็นว่า คนทั้งโลกทั้งลุ้นและตื่นเต้นไปกับการได้ผู้นำคนใหม่ของมหาอำนาจโลกสมัยใหม่ที่พูดได้เลยว่า ผู้นำของสหรัฐฯ ก็คือผู้นำของโลก
ด้วยเหตุนี้หนังและซีรีส์หลายเรื่องจึงถูกสร้างขึ้นทั้งจากเรื่องจริงและเรื่องแต่ง โดยให้ประธานาธิบดีมีบทบาทสำคัญ และทำให้คอหนังทั่วโลกได้รู้จักเรื่องราวแวดล้อมของตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนรอบตัวทั้งสุภาพสตรีหมายเลข 1 หรือหน่วยงาน Secret Service ที่ทำหน้านี้อารักขาประธานาธิบดีโดยเฉพาะ กระทั่ง Air Force One ที่เป็นเครื่องบินประจำตัวของประธานาธิบดี เรื่องราวจะยิ่งสนุกมากขึ้นเมื่อผู้นำสหรัฐฯ ตกอยู่ในสถานการณ์ก่อการร้ายหรือชิงตัวประกัน และต่อไปนี้คือ10 นักแสดง “ประธานาธิบดีอเมริกา” ที่เท่ที่สุดตลอดกาลในโลกภาพยนตร์และซีรีส์ ที่ What the Fact คัดสรรมาให้ได้ย้อนกลับไปนึกถึงกัน
Michael Douglas ใน The American President (1995)
ครั้งหนึ่งนักแสดงเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์อย่าง Michael Douglas จาก Wall Street (1987) ก็เคยรับบทเป็นประธานาธิบดีในหนังที่นำเสนอการบริหารชีวิตรักควบคู่ไปกับการบริหารประเทศ และถูกจดจำจากบทบาทนี้มากที่สุดบทนึงเลยทีเดียว เมื่อ Andrew Shepherd ผู้นำที่ทั้งเหงาและเปล่าเปลี่ยวใจจากการเป็นพ่อหม้ายลูกหนึ่ง ได้พบเจอกับ Sydney Ellen Wade (Annette Bening) นักล็อบบี้ยิสต์ด้านสิ่งแวดล้อมตัวแม่ ที่เพิ่งย้ายมายังเมืองวอชิงตัน ดีซี เพื่อผลักดันกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
Shepherd พร้อมที่จะมีความรักครั้งใหม่อย่างเร่งรัดให้ความรักคืบหน้า (สมกับเป็นประธานาธิบดี) ตรงข้ามกับ Wade ที่อยากให้ความรักดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เธอคือนักล็อบบี้ยิสต์ที่ถูกว่าจ้างโดย Global Defense Council ในฐานะนักวางกลยุทธ์ด้านการเมือง ซึ่งการเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา กล้าคิดกล้าพูด เป็นใบเบิกทางทำให้งานของเธอประสบความสำเร็จและเข้าไปอยู่ในความสนใจของสภาคองเกรส ขณะที่บางครั้งก็นำไปสู่ปัญหาที่เกินตัว ผิดกับ Shepherd ที่เป็นนักการเมืองและรู้จักวิธีพูดเพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ลงตัวสำหรับทุกฝ่าย

Shepherd ต้องทำให้สภายอมรับร่างกฎหมายที่จะทำให้เขาได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย ขณะที่ Wade ก็ก็ต้องทุ่มพลังผลักดันให้สภาอนุมัติผ่านกฎหมายที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ระหว่างที่ทั้งสองต้องประคองต้นกล้าของความสัมพันธ์ ฟันฝ่าความอยากรู้อยากเห็นของสื่อ และวุฒิสมาชิก Rumson (Richard Dreyfuss) ศัตรูทางการเมืองตัวฉกาจของ Shepherd ที่พยายามขัดขวางความรักครั้งนี้ สุดท้ายแล้วก็ต้องมาดูว่า ความรักที่เกิดท่ามกลางควาแตกต่าง (ทางการเมือง) จะอยู่รอดถึงฝั่งครบจบเทอมหรือไม่? หนังเขียนบทโดยสุดยอดฝีมือ Aaron Sorkin จาก The Social Network (2010) ที่เป็นทีมสร้างสรรค์บทซีรีส์การเมืองอเมริกันชั้นดีอย่าง West Wing ด้วยอีกเรื่อง
- รับบทเป็น: President Andrew Shepherd (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Annette Bening, Martin Sheen, Michael J. Fox, Richard Dreyfuss
- ผู้กำกับ: Rob Reiner (When Harry Met Sally…, A Few Good Men, The Bucket List)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 62 / 107 ล้านเหรียญฯ
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 1 สาขา (เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
Bill Pullman ใน Independence Day (1996)
หนึ่งในบทประธานาธิบดีที่ถูกจดจำว่าเท่ที่สุดในโลกภาพยนต์ จะต้องมีบทประธานาธิบดี Whitmore ของ Bill Pullman อยู่ด้วยแน่นอน และกับฉากที่น่าประทับใจที่สุดก็คือ การกล่าวปลุกใจทหารในวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคมที่ไม่ใช่ต่อมนุษย์ด้วยกันแต่เป็นเอเลียนที่บุกรุกรานโลก และสหรัฐฯ ก็กลายเป็นฮีโรหัวหอกประชาคมโลกต่อสู้กับเอเลี่ยนกลาย ๆ ด้วย ฉากนี้ยังเป็นฉากที่เป็นฉากจำที่สุดของเรื่องฉากหนึ่ง รวมถึงบทนี้คือบทที่ดังที่สุดแล้วของ Pullman ด้วย
Dean Devlin มือเขียนบทของหนัง ตั้งใจเขียนบทประธานาธิบดีนี้ไว้เพื่อให้ Kevin Spacey เล่นโดยเฉพาะในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนสมัยเรียน แต่สตูดิโอไม่อนุมัติให้ Spacey มารับบทนี้เพราะไม่ใช่ดาราหนังดังและไม่มีคอหนังรู้จัก (นั่นคือก่อนที่คอหนังจะได้เห็นฝีมือระดับเฉียบขาดของเขาจาก Se7en (1995) และ The Usual Suspects (1995) ซึ่งค่ายหนังคงเสียใจสุด ๆ) บทนี้จึงเสนอให้กับ Pullman แทน และปฏิกิริยาแรกของเขาเมื่อได้ทราบว่าถูกทาบทามให้เล่น ID4 Pullman เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังตลก
หนังเอเลียนบุกทำลายโลกที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล ทำกำไรไปหลายเท่าของทุนสร้างและยังไม่นับตอนออกมาเป็นโฮมวิดีโอ สร้างออกมาในแนวเดียวกับละครวิทยุยุค 60s เรื่อง War of the Worlds แต่สร้างได้ทันสมัยกว่าด้วยเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ นำแสดงโดยดาราดาวรุ่ง Will Smith และ Jeff Goldblum เรื่องราวของมวลมนุษยชาติที่มีอเมริกันเป็นฮีโร ลุกขึ้นมากอบกู้โลกในวันชาติอเมริกา

ภาคต่อ 20 ปีให้หลัง Resurgence (2016) ที่พยายามจะต่อยอดความสำเร็จ และจะสร้างภาค 3 ให้เป็นหนังไตรภาค หนังกลับแป้กและทำรายได้น้อยกว่าภาคแรกไปเยอะ ทำให้ค่ายหนังอย่าง Fox พับโครงการภาค 3 ทิ้งไปเลย และก็ยังอาจเป็นโชคดีของ Smith ที่ไม่ตอบตกลงกลับมาเล่น เพราะนอกจากนักแสดง Bill Pullman และ Jeff Goldblum จะอ่อนล้าโรยแรงแล้วและหนังทั้งเรื่องก็เป็นแบบนั้นไปด้วย อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี Whitmore ก็ได้มาสานต่อภารกิจที่อาจไม่ได้ทำในภาคแรกให้จบลงอย่างสมบูรณ์ในตอนจบของภาคนี้
- ชวนอ่าน “รวมหนัง UFO บุกโลก หลังกลาโหมสหรัฐฯ ปล่อยคลิปให้ชาวโลกเตรียมตัวทักทายมนุษย์ต่างดาว“
- ชวนอ่าน “ย้อนรอยหนังของผู้กำกับ ID4“
- รับบทเป็น: President Thomas J. Whitmore (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Will Smith, Jeff Goldblum, Mary McDonnell, Judd Hirsch, Mary McDonnell
- ผู้กำกับ: Roland Emmerich (White House Down, 2012, The Day After Tomorrow)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 75 / 817 ล้านเหรียญฯ
- บทบาทบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 1 สาขา (วิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม)
- เข้าชิง 1 สาขา (ผสมเสียงยอดเยี่ยม)
Harrison Ford ใน Air Force One (1997)
Harrison Ford เคยเป็นทั้งอาจารย์นักผจญภัย Indiana Jones, สลัดอวกาศ Han Solo และนักวิเคราะห์ที่เก่งประดุจสายลับในแฟรนไชส์ Jack Ryan เขาย่อมไม่พลาดจะรับบมเป็นประธานาธิบดีในหนังบู๊แอ็กชันยุค 90s ที่เพื่อนพระเอกร่วมยุคเดียวกันจะมีหนังฮิตคนละเรื่องสองเรื่อง ในเรื่องนี้เขารับบทเป็น President James Marshall ประธานาธิบดีที่ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ก่อการร้านจนต้องปะทะกับการถูกจี้เครื่องบินโดยตัวร้าย รับบทโดยสุดยอดฝีมืออีกคนอย่าง Gary Oldman เจ้าของออสการ์จาก Darkest Hour (2017)
หนังเล่าเรื่องของประธานาธิบดีสหรัฐฯ James Marshall ที่ประกาศที่รัสเซียว่า สหรัฐฯ จะไม่ต่อรองกับผู้ก่อการร้าย หลังจากที่กองกำลังพิเศษรัสเซียและสหรัฐฯ เข้าจับกุมผู้เผด็จการแห่งคาซัคสถาน หลังจากนั้นเมื่อประธานาธิบดีกลับสู่กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยเครื่องบิน Air Force One อากาศยานหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงชาวรัสเซีย 6 คนอ้างตัวเป็นนักข่าวและได้ทำการแทรกซึมเข้าไปในเครื่องบิน สายลับ Gibbs ไส้ศึกที่เป็นพวกเดียวกับผู้ก่อการร้าย Ivan Korshunov (Gary Oldman) และลูกน้องได้กราดยิงคนในเครื่องบิน และยังจับภรรยาและลูกสาวของประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ไว้เป็นตัวประกัน ส่วนผู้โดยสารที่เหลือถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น

ประธานาธิบดีถูกพาไปยังส่วนยานลี้ภัยใต้ท้องเครื่องบิน แต่ก็ไม่สามรถใช้ยานนั้นหนีออกจากเครื่องบินได้เพราะถูกผู้ก่อการร้ายจับแผนนี้ได้ก่อน ส่วนในกรุงวอชิงตัน ดีซี รองประธานาธิบดี Kathryn Bennett (Glenn Close) ได้มาบัญชาการสถานการณ์ มีการต่อรองจากผู้ก่อการร้ายให้ปล่อยตัวผู้นำคาซัคสถานที่ถูกสหรัฐฯ จับตัวไป แต่เมื่อ Bennett ปฏิเสธจะต่อรองกับผู้ก่อการร้าย พวกเขาจึงฆ่าที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐฯ ทิ้ง คนดูต้องมาลุ้นกันว่า ประธานาธิบดี Marshall จะพลิกสถานการณ์ช่วยลูกเมียและยึดเครื่องบินจากผู้ก่อการร้ายกลับคืนได้อย่างไร

เกร็ดของหนังเรื่องนี้มีอยู่ว่า ในปี 1997 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Bill Clinton ได้แอบใช้เวลางานเปิดชมภาพยนตร์เรื่อง Air Force One นี้ในทำเนียบขาวซ้ำถึง 2 รอบ นอกจากนี้ข้อมูลประวัติของ Air Force One นั้น เป็นรหัสเรียกโดยศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) ของเครื่องบินทุกลำที่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยสารอยู่บนเครื่องบินลำนั้น โดยเครื่องบินจะมีการเรียกชื่อนี้ ขณะที่มีประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ อยู่บนเครื่องเท่านั้น ดังนั้นคำว่า Air Force One จึงมิใช่ชื่อของเครื่องบิน Air Force One จอดอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินที่ 19 อยู่ห่างประมาณ 16 กิโลเมตรจากทำเนียบขาว โดยเครื่องบินทั้ง 2 ลำสงวนไว้ใช้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เท่านั้น ประธานาธิบดีจะสามารถเลือกขึ้นลำใดลำหนึ่งก็ได้ คนระดับล่างที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่มีทางรู้เกี่ยวกับการขึ้นเครื่อง
- รับบทเป็น: President James Marshall (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Gary Oldman, Glenn Close, Wendy Crewson, William H. Macy, Liesel Matthews
- ผู้กำกับ: Wolfgang Petersen (Poseidon, Troy, In the Line of Fire)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 85 / 315 ล้านเหรียญฯ
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 2 สาขา (ผสมเสียงยอดเยี่ยม และลำดับภาพยอดเยี่ยม)