ในปี ๆ หนึ่งนั้น มีหนังเข้าฉายเยอะมากมายจนคอหนังไล่ตามดูกันไม่ทัน (ขนาดเป็นนักดูหนังอย่างชาว WTF ก็ตามที) ยิ่งในยุคปัจจุบันมีแพลตฟอร์มสตรีมมิงเกิดขึ้นหลายเจ้าก็เหมือนมีช่องทางเพิ่มเติมจากการดูหนังในโรงอีกเป็นเท่าตัว ปี 2020 ที่ผ่านมา หนังฮอลลีวูดบางเรื่องเข้าฉายและลาโรงไปแบบเงียบ ๆ เพราะธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั้งสหรัฐฯ ตกอยู่ในสถานะชัตดาวน์จากการล็อกดาวน์โควิด

หลายเรื่องจึงรีบฉายและพาตัวเองลงบริการ VOD หรือสตรีมมิงเพื่อหาทุนคืนอย่างเร็วที่สุด ส่วนบางเรื่องแม้จะฉายสตรีมมิงแต่ก็คุณภาพคับแก้วชนิดไม่แพ้ฉายโรง What the Fact ขอรวบรวมหนังที่คิดว่าสนุกและไม่ควรพลาดจะหามาชมของปี 2020 มาเป็นเช็กลิสต์ทางเลือก สำหรับใครที่คิดว่าดูหนังทั้งปีไปหมดแล้วอาจจะพลาดเรื่องเหล่านี้ไปก็ได้

7500

ผลงานของช่องสตรีมมิง Amazon Prime และกำกับโดยผู้กำกับชาวเยอรมัน Patrick Vollrath ซึ่งกำกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ออกฉายในสหรัฐฯ แบบจำกัดโรงมาตั้งแต่ปี 2019 จุดขายของหนังคือนักแสดงที่หายหน้าหายตาไปสักพักอย่าง Joseph Gordon-Levitt จาก (500) Days of Summer (2009) ที่มารับบทนักบิน Tobias Ellis

ที่ในวันธรรมดาของการทำหน้าที่นักบินเครื่องบินโดยสารระหว่างกรุงเบอร์ลินไปยังกรุงปารีส กลายเป็นวันระทึกขวัญและสุดกดดันที่สุดในชีวิตของเขาขึ้นมา เพราะเกิดเหตุผู้ก่อการร้ายบุกเข้ามาเพื่อยึดห้องนักบิน กัปตันอย่างเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ผู้กองการร้ายบุกเข้ามาได้ กัปตันหนุ่มยังต้องเผชิญแรงกดดันอีกระลอก เมื่อผู้ก่อการร้ายนำตัวประกันมาขู่ว่าหากไม่เปิดประตูห้องนักบิน ก็จะฆ่าคนเหล่านั้น รวมถึงพนักงานต้อนรับบทเครื่องบินที่เป็นแฟนสาวของเขาด้วย (Rotten Tomatoes: 70% / iMDB Rating: 6.3/10)

BAD EDUCATION

Hugh Jackman ที่เดินสายเข้าไปอยู่ในหนังดราม่าและหนังสายรางวัลมากขึ้น มาอยู่ในหนังที่สร้างจากบทของ Mike Makowsky มือเขียนบทจาก I Think We’re Alone Now (2018) โดยได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงสมัยที่เขาเป็นนักเรียนมัธยม และกำกับโดย Cory Finley จากหนังขวัญใจเทศกาลซันแดนซ์ Thoroughbreds (2017) สตรีมให้ชมทาง HBO Max โดยเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริง นักแสดงอีกคนที่ได้รับคำชื่นชมก็คือ Allison Janney จาก Juno (2007) และ The Help (2011)

หนังสร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 2004 ว่าด้วยเรื่องราวของ Frank Tassone ผู้กำกับการโรงเรียนในลองไอส์แลนด์ ซึ่งได้รับการเคารพนับถืออย่างยิ่งจากโรงเรียนในแถบโรสลินด้วยความช่วยเหลือของผู้ช่วยผู้กำกับการที่เขาไว้วางใจอย่าง Pam Gluckin เขาเป็นที่รักของนักเรียน ผู้ปกครองและครูเป็นอย่างมาก จนกระทั่งนักข่าวนักเรียนของโรงเรียนผู้กล้าหาญอย่าง Rachel Bhargava ได้ตัดสินใจล้วงลึกไปในรายงานค่าใช้จ่ายและเริ่มเปิดโปงแผนการยักยอกเงินของ Frank จึงทำให้เขาคิดแผนการปกปิดความผิดใทุกวิถีทางที่จำเป็นไม่ว่าจะทำให้ใครเดือดร้อนแค่ไหน (Rotten Tomatoes: 94% / iMDB Rating: 7.1/10)

BORAT SUBSEQUENT MOVIEFILM

ไม่นึกว่าจะมีภาคต่อออกมาแล้วหลังจากภาคแรกผ่านไป 14 ปี สำหรับเรื่องราวของ Borat นักข่าวสุดกวนจากประเทศคาซัคสถาน ซึ่งเป็นบทที่โด่งดังที่สุดของ Sacha Baron Cohen ที่ได้เข้าชิงบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ในหนังภาคแรก ภาค 2 เล่าเรื่องราวหลังจากเขากลายเป็นที่โด่งดังในอเมริกา แต่ดันไม่เเป็นที่ชื่นชอบในประเทศบ้านเกิด รัฐบาลจึงมีภารกิจใหม่มาให้เขาแก้ตัวโดยการไปมอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้รองประธานาธิบดีคนสนิทของ Donald Trump แต่เรื่องก็ยิ่งวุ่นวายเมื่อลูกสาวของ Borat (รับบทโดย Maria Bakalova) เกิดแอบตามพ่อมาสหรัฐฯ ด้วยอีกคน

กลับมารอบนี้ Borat ก็ยังคงป่วนเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่ภาคแรกดังระเบิดไปแล้ว การที่นักแสดง Sacha Baron Cohen จะแต่งตัวเป็น Borat แล้วไปไล่สัมภาษณ์คนจริง ๆ ก็คงไม่ง่ายเหมือนภาคแรก (เพราะคนจำได้) Borat ก็เลยต้องปลอมตัวอีกชั้นให้เป็นอเมริกันไปสัมภาษณ์ผู้คน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเหล่าคนโปร Trump แถมยังได้พ่วงการเสียดสีสถานการณ์โควิด-19 เข้าไปด้วย ส่วนอีกเส้นเรื่องที่เพิ่มมาคือ ลูกสาวที่เป็นลูกคู่เสริมความฮาไม่แพ้กัน และยังหนังสามารถเล่นประเด็นเรื่องสิทธิสตรี ความเท่าเทียมของชายและหญิง และดราม่าความรักของพ่อกับลูกสาวได้ด้วย แถมยังให้บทสรุปของตัวละครนี้ให้ลงเอยอย่างลงตัว (ตอนจบเป็นอะไรที่พีคมาก และใครที่ดูแล้วต้องห้ามสปอยล์โดยเด็ดขาด) (Rotten Tomatoes: 85% / iMDB Rating: 6.7/10)

FIRST COW

เพิ่งคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัลสถาบันวิจารณ์ New York Film Critics Circle ครั้งที่ 86 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับหนังอินดี้ของค่ายหนังเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยผลงานคุณภาพอย่าง A24 เป็นเรื่องราวของ Cookie ชายผู้โดดเดี่ยวและเป็นพ่อครัวชั้นเยี่ยม เขาเดินทางไปทางตะวันตกของสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมกับผู้คนในดินแดนออริกอน เขาได้รู้จักกับ King-Lu ผู้อพยพชาวจีนที่ออกแสวงหาโชคชะตาเช้นกัน ในไม่ช้าทั้งสองก็ได้ร่วมมือกันที่จะสร้างโชคลาภบนดินแดนหลังเขาที่ต้องพึ่งพาการใช้โคนมที่มีค่าของเจ้าของที่ดินอย่างลับ ๆ

หนังเล็ก ๆ ในบรรยากาศสุดเหงา ถูกพูดถึงในหมู่นักวิจารณ์ว่าเยี่ยมในแง่ของการสร้างบรรยากาศและวางพล็อตเรื่องได้อย่างน่าติดตาม นำแสดงโดยนักแสดงชื่อเสียงปานกลางอย่าง John Magaro จาก The Big Short (2015) ที่จับคู่กับ Orion Lee จาก Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi (2017) กำกับ เขียนบท และตัดต่อด้วยตัวคนเดียวโดยผู้กำกับหญิง Kelly Reichardt จาก Certain Women (2016) (Rotten Tomatoes: 95% / iMDB Rating: 7.1/10)

(อ่านต่อหน้าถัดไป)

GREYHOUND

ถ้าไม่มีสถานการณ์โควิด ปีนี้ Tom Hanks น่าจะได้กลับไปเฉิดฉายช่วงเวทีรางวัลปลายปีอย่างไม่ยากเย็น กับผลงานหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ยุคเดียวกับที่เขาประสบความสำเร็จมากมาแล้วกับ Saving Private Ryan (1997)) ซึ่งเขาพ่วงตำแหน่งเขียนบทโดย แต่โควิดนอกจากจะทำให้ Hanks เป็นดาราฮอลลีวูดคนแรกที่ติดเชื้อแล้ว หนังเรื่องนี้ก็ยังต้องหนีไปลงสตรีมทาง Apple TV+ แทนด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพของหนังทุนสร้าง 50 ล้านเหรียญฯ เรื่องนี้ ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด

ดัดแปลงจากนิยาย “The Good Shepherd” ของ C.S. Forester โดย Hanks จะรับบทเป็น Krause กัปตันเรือพิฆาตชื่อเดียวกันกับหนัง เขาทำหน้าที่เป็นผู้นำกองเรือรบ 37 ลำของฝ่ายสัมพันธมิตรระหว่างเข้าต่อสู้กับข้าศึกฝั่งนาซีเยอรมัน ซึ่งเป็นการขึ้นบัญชาการกองเรือครั้งแรกของเขาในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 Krause ต้องพาเหล่าทหารเรือของเขาออกผจญศึกเหนือน่านน้ำแอตแลนติกเหนือ อุปสรรคร้ายแรงคือกองบินสนับสนุนไม่สามารถติดตามไปกับกองรบที่ต้องเผชิญหน้ากับเรือดำน้ำเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน นอกจากนั้นกัปตันยังต้องตั้งคำถามถึงความสามารถของตัวเอง ว่าจะพากองเรือรอดไปได้หรือไม่ (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF) (Rotten Tomatoes: 79% / iMDB Rating: 7/10)

NEVER RARELY SOMETIMES ALWAYS

ผลงานของผู้กำกับหญิง Eliza Hittman ที่สร้างชื่อจาก Beach Rats (2017) หนนั้นหนังเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่กำลังสับสนกับเพศสภาพของตัวเอง ส่วนหนนี้ Never Rarely Sometimes Always ที่เทศกาลเปิดตัวอย่างสวยงามที่เทศกาลหนังซันแดนซ์ต้นปี 2020 และคว้ารางวัล Jury Grand Prix (รองชนะเลิศ) ที่เทศกาลหนังเบอร์ลิน หนังเข้าฉายอเมริกาช่วงเดือนมีนาคม และลง VOD อย่างรวดเร็ว

เนื้อเรื่องของหนังไม่มีอะไรซับซ้อนนอกจาก เด็กสาวบ้านนอกสองคนเดินทางไปเมืองนิวยอร์กเพื่อทำแท้ง (เพราะในรัฐที่เธออยู่การทำแท้งต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่) แต่ระหว่างทางนั้น ทั้งคู่กลับได้เรียนรู้และพบเจอสิ่งล้ำค่าที่ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้ถึงอีกหนึ่งความหมายของชีวิตไปพร้อมกับหนังด้วย หนังถ่ายด้วยฟิล์ม 16 มม. สร้างสไตล์เฉพาะทาง ส่วนตัวหนังนั้นก็ไม่ได้พยายามตัดสินหรือมอบบทเรียนให้กับคนดู เพราะเป็นเพียงแค่การตามติด ตัวละครอย่าง Autumn ผู้ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไปทำแท้งและพาไปดูว่าเธอต้องพบเจออะไรบ้าง (Rotten Tomatoes: 99% / iMDB Rating: 7.4/10)

ON THE ROCKS

หนังที่ได้ชื่อว่าเป็น เรื่องแรกระหว่างค่ายหนังอินดี้น้ำดี A24 กับบริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple ที่สร้างหนังร่วมกัน รวมถึงเป็นหนังเรื่องแรกที่ดำเนินการสร้างเป็น Original Content ของสตรีมมิง Apple TV+ ด้วย ความน่าสนใจก็คือ นี่เป็นการโคจรกลับมาเจอกันของนักแสดง Bill Murray และผู้กำกับหญิง Sofia Coppola ที่สร้างผลงานมาสเตอร์พีซกันไว้ใน Lost in Translation (2003) และทำให้ทั้งคู่ได้เข้าชิงและคว้ารางวัลสำหรับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในครั้งนั้น

On The Rocks เล่าเรื่องราวตลกดราม่าของคุณแม่วัยสาว (รับบทโดย Rashida Jones) ในครอบครัวที่มีลูก ๆ อีก 2 คนซึ่งพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในนิวยอร์ก ฝ่ายชายทำงานอยู่ในบริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ส่วนหญิงสาวเป็นนักเขียนและแม่บ้านที่ดูแลลูกทั้ง 2 ไปด้วย ต่อฝ่ายหญิงเริ่มสงสัยว่า ทำไมฝ่ายชายถึงดูห่างเหินกับเธอ ทั้งเรื่องบนเตียง และยังออกไปทำงานต่างประเทศบ่อย ๆ จนเธอต้องหันไปพึ่งพาพ่อของตนเองที่มีนิสัยเจ้าชู้จนทำให้ต้องหย่ากับแม่ของเธอ พ่อลูกจึงออกตะลอนแกะรอยสามีซึ่งระหว่างนั้นพ่อลูกก็ได้เรียนรู้และฟื้นความสัมพันธ์ที่ห่างเหินกันมานาน (Rotten Tomatoes: 86% / iMDB Rating: 6.5/10)

SYNCHRONIC

Anthony Mackie เจ้าของบท Falcon ในจักรวาลหนังมาร์เวลและกำลังจะมีซีรีส์ The Falcon and The Winter Soldier สตรีมทาง Disney+ ให้ได้ชมกันในปีนี้ นอกจากจะมีบทบาทในหนังของ Netflix หลายเรื่อง หนังใหญ่เขาก็มีเวลาไปสรรหาหนังดีมาเล่นอยู่เรื่อย ๆ โดยในหนังไซไฟสยองขวัญเรื่องนี้ เป็นผลงานกำกับของ Justin Benson และ Aaron Moorhead จาก The Endles (2017) หนังออกฉายในงานเทศกาลโตรอนโตของแคนาดา เมื่อปี 2019 และได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก

Mackie เขารับบทเป็น Steve แพทย์สนามในเมืองนิวออร์ลีนที่ตรวจพบว่าตัวเขามีเนื้องอกในสมอง แต่แล้ววันหนึ่งทั้งตัวเขาและเพื่อนคู่หูอย่าง Dennis (รับบทโดย Jamie Dornan จากแฟรนไชส์ Fifty Shades of Grey) ก็ได้ค้นพบกับยาชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Synchronic พวกเขาจึงนำยาที่ว่านี้มาทดลองกับตัวเอง หลังจากนั้น Steve ก็รับรู้กาลเวลาผิดเพี้ยนไปจากเดิมและก็ยังได้นำเขาไปสู่อีกมิติพิศวงอันน่าหวาดกลัวอีกด้วย (Rotten Tomatoes: 80% / iMDB Rating: 6.5/10)

THE ASSISTANT

อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่มาจากกระแส #MeToo หรือการที่เหล่าผู้หญิงในหลายแวดวงการทำงานออกเปิดเผยเรื่องราวการถูกทำอนาจารและถูกคุกคามทางเพศ ตามหลัง Bombshell (2019) และซีรีส์ The Morning Show หนังเล่าเรื่องในหนึ่งวันของ Jane (Julia Garner จากซีรีส์ Ozark) ผู้ช่วยจิปาถะในออฟฟิศของสำนักงานบริษัทผลิตภาพยนตร์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก​ หนังพาไปดูชีวิตการทำงานของเธอในช่วงเวลา 5 สัปดาห์ เธอมาทำงานตั้งแต่เช้า​ เตรียมเอกสาร​ ถ่ายเอกสาร​ ชงกาแฟ​ เช็ดเก้าอี้​ แต่ทุกอย่างที่เธอทำมักจะลงเอยด้วยการถูกหัวหน้าตำหนิอย่างรุนแรงและไร้เหตุผล

ต่อมา Jane เจอร่องรอยที่ชวนให้คิดได้ว่าหัวหน้าแอบพาผู้หญิงมานอนที่ออฟฟิศ และหัวหน้าก็ยังสั่งให้เธอพาพนักงานผู้ช่วยผู้หญิงคนใหม่ไปที่โรงแรมตามสั่ง เหมาะเจาะกับที่หัวหน้าหายตัวไปในช่วงบ่ายวันนั้นพอดี​ พฤติกรรมของหัวหน้านี้ดูเหมือนเป็นที่รู้กันในออฟฟิศแต่ไม่มีใครทำอะไร กระทั่งเธอพยายามไปร้องเรียนกับฝ่ายบุคคลก็ไม่เป็นผลแถมยังถูกตั้งแง่ว่ากำลังอิจฉาพนักงานใหม่ เธอจึงต้องเสี่ยงลุกขึ้นมาเปิดโปงทุกอย่างด้วยตัวเอง (Rotten Tomatoes: 80% / iMDB Rating: 6.5/10)

(อ่านต่อหน้าถัดไป)

THE BANKER

ผลงานอีกเรื่องของ Anthony Mackie (บอกแล้วว่างานชุกจริง ๆ) คราวนี้มาอยู่ในหนังของสตรีมมิงเจ้า Apple TV+ และประกบกับนักแสดงแอฟริกัน-อเมริกันมือเก๋าอย่าง Samuel L. Jackson ซึ่งมาอย่างพอดิบพอดีกับสถานการณ์ Black Lives Matter ที่มีประเด็นการชุมนุมเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมให้กับคนผิวดำในปี 2020 หนังหยิบชีวิตของ Bernard Garrett ชายผิวดำที่อาจหาญคิดเป็นเจ้าของที่ดินและธนาคารของคนผิวขาว เพื่อหวังจะเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของคนผิวดำในสหรัฐให้มีคุณภาพทัดเทียมกับคนขาวมากขึ้น โดยหนังจะเล่าตั้งแต่ Bernard ยังเป็นเด็กช่วงปี 1939 ซึ่งเป็นยุคที่คนผิวสีถูกจำกัดสิทธิ์มากมาย ทั้งเรื่องของอาชีพและการใช้ชีวิตนอกบ้าน

หนังกระโดดข้ามชีวิตจากช่วงวัยเด็กมาถึงตอนที่ Bernard มีครอบครัว แต่ก็ยังทำให้หนังเรื่องนี้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง แม้หนังจะไม่สั้นแต่ก็ดูสนุกและน่าติดตาม ทั้งที่เนื้อหาหนังส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับของกับการทำธุรกิจ การเงินและการลงทุน แต่หนังก็ฉลาดที่จะทำให้ผู้ชมที่ไม่มีความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้รู้สึกเบื่อ ผลงานกำกับของ George Nolfi จาก The Adjustment Bureau (2011) อาจทำให้เรื่องราวดูเหมือนว่า Bernard ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากคนรอบตัวแบบง่าย ๆ แต่ในความเป็นจริง ก็เพราะทุกคนที่ให้การสนับสนุนและมองเห็นคุณค่านี่เองที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ (Rotten Tomatoes: 78% / iMDB Rating: 7.3/10)

THE RIDER

ภาพยนตร์ที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ (แต่จริง ๆ ออกฉายจำกัดโรงในสหรัฐฯ มาตั้งแต่ 2017) หนังเป็นผลงานของผู้กำกับหญิง Chloé Zhao ซึ่งปี 2020 ก็มีผลงานหนังเรื่องเยี่ยมอีกเรื่องที่น่าจะมีบทบาทบนเวทีออสการ์แน่ ๆ อย่าง Nomadland และยังถูกเลือกมากำกับหนังซูเปอร์ฮีโรพลังเทพเจ้าของมาร์เวลอย่าง Eternals งานของ Zhao คงความอินดี้ไว้ด้วยการเลือกใช้นักแสดงโนเนมรวมถึงนำครอบครัว Jandreau ทั้งสามคนมาแสดงเป็นครอบครัว Blackburn ภายในเรื่องกันหมดสามคน และนำเสนอภาพที่ถ่ายมุมกว้างที่สวยงาม ลองช็อตยาว ๆ และบทพูดน้อย ๆ ของตัวละคร เพื่อให้โอกาสกับนักแสดงได้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาอย่างสมจริง

เรื่องราวของชายหนุ่มชื่อ Brady Blackburn ที่อุทิศทั้งชีวิตให้กับม้า แต่เขากลับประสบอุบัติเหตุจากการแข่งม้า หลังจากนั้นเขาไม่สามารถพูดได้อีกเลย นี่เป็นหนังที่เล่าด้วยบรรยากาศเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่หนักแน่นด้วยเรื่องราวของชีวิตคนชายขอบที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความหวัง ความฝันใฝ่ แต่ถูกจำกัดด้วยความไม่มีจะกิน หนังสะท้อนให้เห็นเรื่องราวแสนข่มขื่นว่า บางครั้งเราทำดีที่สุดก็แค่พ่ายแพ้ไปเรื่อย ๆ หนังโดยมีฉากจบที่งดงามที่สุด กล้าหาญที่สุด และเจ็บปวดมากที่สุดเรื่องหนึ่ง (Rotten Tomatoes: 78% / iMDB Rating: 7.4/10)

THE WAY BACK

ผลงานที่ได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามแต่ถูกกล่าวถึงในกลุ่มผู้ชมทั่วไปน้อยไปหน่อย (ทำรายได้ไปแค่ 14 ล้านเหรียญฯ) หนังที่เป็นการโคจรกลับมาทำงานร่วมกันของนักแสดง Ben Affleck (ที่เป็นผู้กำกับมากฝีมือด้วย) กับผู้กำกับ Gavin O’Connor จาก หนังกีฬานักมวย Warrior (2011) และหนังตำรวจ Pride and Glory (2008) ทั้งคู่เคยทำให้ The Accountant (2016) เป็นหนังแอ็กชันทริลเลอร์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยเรื่องนี้นักวิจารณ์ก็ชมการแสดงของ Affleck แม้ว่าโดยรวมอาจยังไม่ได้เทียบชั้นกับ Warrior ที่ได้เข้าชิง 1 รางวัลออสการ์

Affleck มารับบทเป็น Jack อดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอลดาวรุ่งที่ต้องตกอับเพราะติดเหล้า แต่หลังจากหลายปีที่ต่อสู้ดิ้นรนให้กลับมาเป็นคนปกติ เขาก็ได้รับโอกาสให้ตั้งต้นชีวิตใหม่ด้วยการมารับหน้าที่เป็นโค้ชทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนทีมหนึ่ง หนังจึงอาจเรียกได้ว่าเป็นหนังไถ่บาปรวมกับหนังกีฬาซึ่งเรื่องราวที่ในหนังก็ใกล้เคียงกับชีวิตจริงของ Affleck ด้วยที่เข้าออกสถานบำบัดผู้ติดเหล้าอยู่หลายครั้ง หนังเล่าเรื่องราวของ Underdog หรือ Loser ที่ผู้ชมต้องเอาใจช่วยและได้เติมหัวใจให้เต็มได้ในฉากสุดท้าย (Rotten Tomatoes: 84% / iMDB Rating: 6.7/10)

UNCLE FRANK

Paul Bettany เป็นนักแสดงที่อยู่ในหนังและซีรีส์เมนสตรีมอย่างซีรีส์มาร์เวล WandaVision ที่กำลังจะสตรีมทาง Disney+ 15 มกราคม แต่เขาก็เล่นหนังดราม่าขายฝีมือด้วย เช่นในหนังฟีลกู้ดโร้ดมูฟวีเรื่องนี้ Uncle Frank เป็นการร่วมจอกันของ Bettany และ Sophia Lillis จาก It (2017) ที่จะมารับบทลุงกับหลานในยุค 70s ภายใต้เนื้อเรื่องที่บอกเรื่องเล่าความสัมพันธ์ของวัยรุ่นสาวที่จากบ้านในชนบทเพื่อมาเรียนที่นิวยอร์ก และได้พบกับลุงของเขาที่เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัย ลุง Frank ลูกชายคนโตของครอบครัวที่ผู้เป็นพ่อมองข้าม แต่ความละเลียดอ่อนในนิสัยใจคอทำให้เขากลายเป็นญาติคนโปรดของหลานสาว Beth ที่ก็ไม่เหมือนหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน

เมื่อ Beth มานิวยอร์ก เธอพบว่าคุณลุงคนโปรดไม่ได้คบหากับผู้หญิงอย่างที่พยายามบอกกับครอบครัวมาตลอด และทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าความรักในโลกนี้ไม่ได้มีแค่คู่ชายกับหญิง Beth จึงได้ทำความรู้จักกับแฟนของลุงที่เป็นคนสนุกสนานและใจดีกับเธอเอามาก ๆ จนกระทั่ง พ่อของ Frank หรือปู่ของ Beth เกิดเสียชีวิตเธอรู้ว่าการกลับไปเผชิญหน้าครอบครัวที่มองลุง Frank เป็นคนอื่นไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอจึงต้องกลายเป็นกำลังใจสำคัญในการกลับบ้านของเขา หนังกำกับและเขียนบทโดย Alan Ball จากซีรีส์ดังของ HBO อย่าง Six Feet Under และ True Blood โดยเป็นผลงานของสตรีมมองช่อง Amazon Prime (Rotten Tomatoes: 79% / iMDB Rating: 7.3/10)

VIVARIUM

หนังสุดหลอกหลอนเกี่ยวกับบ้านเรื่องนี้ชื่อว่า Vivarium (หนังได้เข้าฉายในไทยช่วงกลางปี 2020 ตั้งชื่อได้สวยว่า “หมู่บ้านวิวา (ห์) เรียม”) เล่าถึง คู่รักคู่หนึ่งที่ออกเสาะหาบ้านที่สมบูรณ์แบบที่พวกเขาวางแผนจะตั้งครอบครัวอยู่ด้วยกัน แล้วพวกเขาก็ไปพบบ้านหมายเลข 9 ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่บ้านทุกหลังดูคล้ายกันหมด แต่เมื่อจะขับรถออกมาจากหมู่บ้านก็พบว่าพวกเขาตกอยู่ในเขาวงกตและหาทางออกจากหมู่บ้านสยองนี้ไม่เจอเสียแล้ว ทำให้ต้องจำยอมเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านเลขหมายเลข 9 แห่งนั้น

พวกเขาพบอาหารที่เอามาปันส่วนกันระหว่างที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หนีออกไป แต่แล้วทั้งคู่ก็ได้พบกล่องใบหนึ่งที่มีเด็กทารกผู้ชายอยู่ในนั้น มีข้อความบอกว่า “จงเลี้ยงเด็กคนนี้ให้โต แล้วพวกเจ้าจะได้ออกไปจากที่นี่!” หนังได้รับคำชื่นชมในสไตล์การเล่าเรื่องราวลี้ลับที่ทำให้นึกถึงหนังในยุค 90s นำแสดงโดย Jesse Eisenberg จาก The Social Network (2010) และ Batman V Superman (2016), Imogen Poots จาก Green Room (2015) หนังเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นที่ 3 แล้วที่พวกเขาเคยเล่นด้วยกันมา กำกับการแสดงโดย Lorcan Finnegan ที่เคยกำกับหนังเขย่าขวัญมาแล้วอย่าง Without Name (2016) (อ่านรีวิวเรื่องนี้ของ WTF) (Rotten Tomatoes: 72% / iMDB Rating: 5.8/10)

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส