สัปดาห์ที่ผ่านมา Facebook พึ่งได้เปิดตัวฟีเจอร์การแจ้งเตือนผู้ใช้งานที่เข้าไปตอบโต้หรือแสดงความคิดเห็นต่อข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับ COVID-19 ล่าสุด 20 เมษายน Facebook ได้เปิดตัวแผนที่แบบโต้ตอบเพื่อแสดงเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่มีอาการป่วย COVID-19 ในแต่ละเขตทั่วสหรัฐฯ ซึ่งจะได้รับข้อมูลจากบริการสำรวจใน Facebook ที่ร่วมมือกับนักวิจัยของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon คอยอัปเดตข้อมูลทุกวันตลอดไปจนจบการแพร่ระบาด และอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะขยายการสำรวจอาการป่วยไปทั่วโลก เพื่อแสดงเปอร์เซ็นต์ผู้มีอาการป่วยผ่านแผนที่แบบโต้ตอบในลักษณะเดียวกันสำหรับประเทศอื่น ๆ

Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook กล่าวว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่เหมาะสมต่อการดำเนินการสำรวจเหล่านี้เพราะเราให้บริการชุมชนทั่วโลกที่มีผู้คนหลายพันล้านคนและสามารถสุ่มตัวอย่างทางสถิติที่แม่นยำ เราทำสิ่งนี้โดยการป้องกันความเป็นส่วนตัวซึ่งมีเพียงนักวิจัยเท่านั้นที่เห็นการตอบแบบสำรวจเฉพาะของบุคคลและ Facebook จะเห็นข้อมูลผลรวมเท่านั้น หวังว่าแผนที่จะช่วยให้หน่วยงานรัฐในท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรับรู้ได้ดีขึ้นว่าจะควรจัดสรรทรัพยากรที่ไหน และเมื่อปลอดภัยแล้วจะเริ่มเปิดสถานที่อีกครั้งในแต่ละจุดแตกต่างกันไป

Facebook ไม่ได้เป็นบริษัทเทคโนโลยีเพียงรายเดียวที่พยายามสนับสนุนการแก้วิกฤต COVID-19 เพราะ Apple และ Google ได้จับมือกันสร้างระบบติดตามและบันทึกการติดต่อของผู้ใช้สมาร์ตโฟนด้วยบลูทูท รวมทั้งผู้ร่วมก่อตั้งอินสตาแกรม Kevin Systrom และ Mike Krieger ที่เพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์ rt.live เพื่อติดตามการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในแต่ละรัฐของสหรัฐอเมริกาแบบเรียลไทม์

ในเวลานี้ Facebook ยังคงทำงานบน 3 เครื่องมือใหม่อย่าง Co-location Maps แสดงให้เห็นถึงระดับของผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ กำลังมาอยู่รวมกันเพื่อคาดการณ์ว่าจะมีโอกาสพบผู้ป่วยใหม่ที่ใด, Movement range trends แสดงระดับการเคลื่อนไหวของผู้คนว่าพักอยู่กับบ้านหรือออกไปข้างนอกเพื่อหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และ Social connectedness index แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของผู้ใช้ Facebook บนพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อคาดการณ์การแพร่กระจายเชื้อออกไป

ที่มา : engadget

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส