เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกล่าวว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนมีโอกาสที่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เนื่องจากมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพและสามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส Covid-19 แต่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหรือ CDC กล่าวว่าแม้ว่าบุคคลที่ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อน้อยกว่า แต่ก็ยังไม่แนะนำให้เดินทางเนื่องจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก

คำแนะนำดังกล่าวยังนับได้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับบุคคลจำนวนมากที่ได้รับวัคซีน ซึ่งทำให้สามารถเดินทางไปพบครอบครัวหรือใช้เวลาในช่วงวันหยุดในการออกไปท่องเที่ยวได้อย่างอิสระมากขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบปีนับตั้งแต่ Covid-19 เริ่มระบาด และคาดว่าจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสายการบินที่กำลังฟื้นฟูจากการแพร่ระบาดของไวรัสด้วย

หน่วยงานได้ออกมาอัปเดตข้อมูลเนื่องจากมีการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของวัคซีนและจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 3 ล้านคนต่อวัน โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกามีประชากรกว่า 100 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้อำนวยการ CDC โรเชล วาเลนส์กี (Rochelle Walensky) กล่าวในการบรรยายสรุป ณ ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ ว่า คนที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนสามารถเดินทางได้ในประเทศหรือนอกประเทศได้กว้างมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำกว่าคนทั่วไป “วิทยาศาสตร์แสดงให้เราเห็นว่า การได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน ช่วยให้ผู้คนสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะต้องให้คำแนะนำดังกล่าว แม้ในกรณีที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นก็ตาม” วาเลนส์กี กล่าว “ในขณะเดียวกันข้อเท็จจริงที่ว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเหมือนกัน” ดังนั้น เธอกล่าวว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคต้องเพิ่มความสำคัญของการประชาสัมพันธ์มาตรการสาธารณสุข เช่น การสวมหน้ากากให้มากขึ้น

  • สำหรับการเดินทางภายในประเทศผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานกว่า 2 สัปดาห์ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจไวรัสในก่อนหรือหลังการเดินทาง และไม่จำเป็นต้องกักตัวหลังการเดินทางเว้นแต่จะถูกกำหนดโดยเขตอำนาจของรัฐหรือท้องถิ่น นั่นหมายความว่า ปู่ย่าตายายที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนสามารถบินไปเยี่ยมหลานที่มีสุขภาพดีได้โดยไม่ต้องรับการตรวจโคโรนาไวรัสหรือกักตัวเอง แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอื่น ๆ ที่แนะนำ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบิน รถประจำทาง รถไฟและระบบขนส่งสาธารณะในรูปแบบอื่น ๆ ตามข้อบังคับ
  • สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนไม่จําเป็นต้องได้รับตรวจก่อนที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาเว้นแต่ข้อกำหนดของประเทศปลายทาง สําหรับการเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาควรได้รับการทดสอบและมีผลทดสอบเป็นลบก่อนที่จะขึ้นเครื่องกลับมายังสหรัฐอเมริกา และพวกบุคคลที่เดินทางควรได้รับการทดสอบอีกครั้งในช่วง 3 ถึง 5 วันหลังจากเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา

หน่วยงานได้อัปเดตไกด์ไลน์ล่าสึด เนื่องจากการศึกษาที่เพิ่งคนพบซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของวัคซีน มีบุคลากรด้านการดูแลสุขภาพและผู้ปฏิบัติงานประมาณ 4,000 คน พบว่าวัคซีน Pfizer-BioNTech และ Moderna ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้ 80% ในสองสัปดาห์หลังจากการฉีดวัคซีนครั้งแรกและการป้องกันเพิ่มขึ้นเป็น 90% ในสองสัปดาห์หลังได้รับวัคซีนครบ การศึกษาดังกล่าวมีความสำคัญเนื่องจากเป็นหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ที่ประเมินประสิทธิผลของวัคซีนต่อการติดเชื้อแทนที่จะเป็นเพียงการเฝ้าติดตาม กรณีที่มีอาการรวมถึงการติดเชื้อที่ไม่มีอาการ

โรเจอร์ ดาว (Roger Dow) ประธานสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “ข้อมูลของ CDC ชี้ให้เห็นว่าบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนจะไม่แพร่เชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งเป็นการส่งเสริมการเดินทางแม้ว่าจะต้องปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันสุขภาพอื่น ๆ ก็ตาม เรียกได้ว่าการฉีดวัคซีนขจัดอุปสรรคสำคัญในการเดินทางภายในประเทศ อย่างการทดสอบโควิดและการกักตัว”

อ้างอิง Washingtonpost

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส