จีนยอมรับจุดอ่อนของวัคซีน Sinovac เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระดับสูงกล่าวว่าประสิทธิภาพของวัคซีนอยู่ในระดับต่ำ ตอนนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนใหม่ด้วย

เกา ฟู ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคของจีนกล่าวในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่เมืองเฉิงตูทางตะวันตกเฉียงใต้ว่า “วัคซีนจากจีนยังไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน Covid-19 ได้มากนัก” อัตราประสิทธิภาพวัคซีน Sinovac ที่พัฒนาขึ้นโดยจีนมีอัตราการป้องกันการติดเชื้อเพียง 50.4% จากการทดสอบที่บราซิล ในขณะที่วัคซีนที่ผลิตโดย Pfizer มีประสิทธิภาพถึง 97%

จากรายงานเมื่อวันที่ 2 เมษายน มีประชาชนประมาณ 34 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มโดยใช้วัคซีนของจีนและประมาณ 65 ล้านคนได้รับวัคซีนแล้วหนึ่งเข็มและจีนได้ทำการแจกจ่ายวัคซีนปริมาณหลายร้อยล้านโดสให้กับประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับวัคซีนจากประเทศฝั่งตะวันตก โดยปัจจุบันจีนยังไม่มีการอนุมัติการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ ฟูได้ตั้งข้อสังเกตด้านความปลอดภัยของวัคซีน mRNA เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคมว่าเขาไม่สามารถระบุผลข้างเคียงของวัคซีนได้เนื่องจากวัคซีนถูกใช้ครั้งแรกกับคนที่มีสุขภาพดี

นอกจากนี้สื่อของจีนและบล็อกด้านสุขภาพและวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่นิยมยังได้ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน Pfizer ซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA ซึ่งฟูกล่าวว่า “ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างเป็นทางการว่าเราควรจะใช้วิธีการผลิตวัคซีนที่หลากหลายเพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่”

อย่างไรก็ตาม ฟูไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในการผลิตวัคซีน แต่กล่าวถึง mRNA ซึ่งป็นเทคนิคที่นักพัฒนาวัคซีนจากฝั่งตะวันตกใช้ในขณะที่ผู้ผลิตยาของจีนใช้เทคโนโลยีดั้งเดิม “เราควรคำนึงถึงประโยชน์ที่วัคซีน mRNA ซึ่งสามารถนำมาช่วยเหลือมนุษย์ เราต้องใช้ความระมัดระวัง และไม่ละเลยแม้ว่าวัคซีนที่ผลิตจาก mRNA มีหลากหลาย (แบรนด์) อยู่แล้ว”

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการฉีดวัคซีนแบบผสมอาจช่วยเพิ่มอัตราประสิทธิภาพ การทดลองทั่วโลกกำลังพิจารณาถึงการผสมวัคซีนหรือให้ยากระตุ้น นอกจากนี้นักวิจัยในสหราชอาณาจักรกำลังศึกษาการผสมที่อาจเป็นไปได้ของวัคซีน Pfizer และ AstraZeneca

อ้างอิง New York Post

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส