เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยฮีบรูแห่งเยรูซาเล็ม (HUJI) เผยว่าคณะนักวิจัยของอิสราเอลและสหรัฐฯ พบเชื้อไวรัสโคโรนาในม้าในอิสราเอลเป็นครั้งแรก

มหาวิทยาลัยฮีบรูแห่งเยรูซาเล็ม สถาบันสัตวแพทย์คิมรอน (KVI)  และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (University of California) ของสหรัฐฯ ได้ร่วมกันรายงานค้นพบนี้ในวารสารแอนิมัล (Animal) โดยระบุว่า เชื้อไวรัสดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า “อีไควน์ โคโรนาไวรัส” (ECoV) โจมตีระบบย่อยอาหารของม้า และเป็นเชื้อไวรัสฯ ในตระกูลเบตาโคโรนาไวรัส 1 (Betacoronavirus 1) ที่สามารถติดเชื้อในมนุษย์และวัวควายได้

โดยทั่วไปม้าที่ติดเชื้ออีไควน์ โคโรนาไวรัส จะมีอาการ คือ ขาดความอยากอาหาร อ่อนแอ และมีไข้ ตลอดจนมีโรคแทรกซ้อนร้ายแรงหลายชนิดในบางกรณี

คณะนักวิจัยเก็บตัวอย่างเลือดจากม้าสุขภาพดีในอิสราเอล จำนวน 333 ตัว เพื่อวินิจฉัยแอนติบอดีต่อไวรัสโคโรนา ซึ่งช่วยยืนยันการมีอยู่ของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยพบแอนติบอดีต่อเชื้ออีไควน์ โคโรนาไวรัสในม้า 41 ตัว หรือร้อยละ 12.3 ของม้ากลุ่มสำรวจ

นอกจากนี้ คณะนักวิจัยยังพบอัตราการติดเชื้อของม้าในพื้นที่เมืองสูงกว่าม้าในทุ่งหญ้าและกลางแจ้งอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิจัยอธิบายว่า ในพื้นที่เมืองม้าถูกจำกัดในอยู่ในพื้นที่แคบ การแพร่เชื้อผ่านอุจจาระ-ปากจึงเป็นได้ง่ายกว่าการอยู่ในที่โล่งแจ้ง และการระบายอากาศตามธรรมชาติ

อ้างอิง

Xinhuathai

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส