เชื่อว่าหลายต่อหลายท่านต้องผ่านการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซ์พี (Windows XP) กันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเจนวาย, เจนแซด หรือมิลเลเนียลก็ตาม แน่นอนว่าทั้งรูปลักษณ์การใช้งาน และโปรแกรมอรรถประโยชน์ต่าง ๆ ต่างทำให้ใครหลายต่อหลายคนต่างชื่นชอบและใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ถึงขั้นถูกนิยามกันว่า “วินโดวส์ที่ฆ่าไม่ตาย!” แต่สุดท้ายก็ต้องตายเพราะไมโครซอฟท์ประกาศยุติการซัปพอร์ตทุกกรณี (ใครที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบันก็ขอให้เปลี่ยนซะนะ…)

3D Pinball for Windows – Space Cadet บน Windows XP
(Photo from https://www.reddit.com/r/nostalgia/comments/fskdan/3d_pinball_windows_space_cadet/)

สิ่งหนึ่งที่เป็นภาพจำของวินโดวส์เอ็กซ์พีในหมู่เกมเมอร์ คงหนีไม่พ้นเกมต่าง ๆ ที่ปรับรูปแบบการแสดงผลให้มีสีสันมากขึ้น มีการเล่นผ่านออนไลน์ และรวมไปถึงเกมระดับตำนานที่เชื่อว่าหลาย ๆ ท่าน ได้เล่นกันมามากพอสมควร อย่างเกม 3D Pinball for Windows – Space Cadet ที่ติดตั้งมาให้ในตัวตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ต้องหาโหลดหรือซื้อแผ่นมาติดตั้งเองให้เสียเวลา

ก่อนจะเป็นเกมขั้นพื้นฐานบนเครื่องวินโดวส์

Full Tilt! Pinball (1995) สร้างโดย Cinematronics, จำหน่ายโดย Maxis

แต่เดิม 3D Pinball for Windows – Space Cadet เป็นแค่เพียงลายหน้าโต๊ะพินบอลลายหนึ่งที่อยู่ในเกม Full Tilt! Pinball วางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนตุลาคม ปี 1995 สร้างโดยทีม Cinematronics และจำหน่ายโดย Maxis สามารถติดตั้งและเล่นได้บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) และแมคโอเอส (MacOS) โดยในแบบวางจำหน่ายนั้น มีหน้าโต๊ะพินบอลให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน คือ Space Cadet, Skulduggery และ Dragon’s Keep หลังจากนั้น ในปี 1998 ได้มีการพัฒนาและวางจำหน่ายตัวเกมในชื่อ Full Tilt! Pinball 2 โดยเพิ่มหน้าโต๊ะเข้ามาอีก 3 แบบด้วยกัน คือ Mad Scientist, Alien Daze และ Captain Hero

แถวบน: Space Cadet, Skulduggery และ Dragon’s Keep จากเกม Full Tilt! Pinball
แถวล่าง: Mad Scientist, Alien Daze และ Captain Hero จากเกม Full Tilt! Pinball 2
(Photo from https://www.reddit.com/r/nostalgia/comments/eyy4c6/who_remembers_the_full_tilt_pinball_games/)

ภายหลังตัวเกมดังกล่าวได้พอร์ตมาเฉพาะหน้าโต๊ะแบบ Space Cadet และบรรจุลงใน Windows 95 Plus! ซึ่งไมโครซอฟท์ได้พัฒนา Windows 95 ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ให้มีความสามารถทางด้านความบันเทิงและอรรถประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม โดยผู้ที่พัฒนาและทำการพอร์ตเกมดังกล่าวนั้น คือ เดวิด พลัมเมอร์ (David Plummer) โปรแกรมเมอร์ของไมโครซอฟท์ หลังจากนั้นมา ตัวเกม 3D Pinball for Windows – Space Cadet นี้ ได้เป็นหนึ่งในเกมขั้นพื้นฐานที่ต้องมีในทุก ๆ วินโดวส์ ไล่มาตั้งแต่ Windows NT 4.0, Windows 2000, Windows ME และ Windows XP ซึ่งเป็นวินโดวส์เวอร์ชันสุดท้ายที่มีเกมพินบอลเกมนี้ติดตั้งมาด้วย

เดวิด พลัมเมอร์

จุดจบของเกมพินบอลอวกาศ

วินโดวส์วิสต้า (Windows Vista)
Photo Taken by: Alex Leung https://www.flickr.com/photos/sixsteps/286627285
Under Creative Commons (CC) BY-NC-ND 2.0

จริง ๆ แล้ว ในวินโดวส์ตัวถัดจากวินโดวส์เอ็กซ์พี (Windows XP) อย่างวินโดวส์วิสต้า (Windows Vista) วินโดวส์ที่ได้ชื่อว่า “ห่วยแตกที่สุด” เท่าที่เคยมีมาของไมโครซอฟท์ จะต้องมีตัวเกมพินบอลเกมนี้ติดตั้งมาด้วย แต่ทว่า… ระหว่างการพัฒนาและการพอร์ตตัวเกมดังกล่าว กลับเจอบักตัวหนึ่งเข้า ซึ่งเป็นบักที่เกิดขึ้นบนระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิต ทำให้ทีมนักพัฒนาต้องทำการแก้กันเป็นพัลวัน จวนถึงเวลาเปิดตัววินโดวส์เวอร์ชันใหม่ บักดังกล่าวกลับแก้ไขไม่ได้สักที จึงตัดสินใจดึงตัวเกม 3D Pinball for Windows – Space Cadet ออกจากวินโดวส์ดังกล่าว และเป็นการปิดตำนานเกมพินบอลที่มีติดตั้งให้ฟรีบนเครื่องวินโดวส์ไปโดยปริยาย

แต่ถึงกระนั้น ยังมีผู้ที่ไปค้นพบว่าตัวเกมดังกล่าวได้ทำลงแผ่นซีดี ซึ่งสามารถใช้งานได้กับเครื่องพีซีหรือแล็บท็อปที่ติดตั้ง Windows XP แบบ 64 บิต เวอร์ชันปี 2003, Windows XP Professional x64 รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ Windows Vista ที่มีการผลิตออกมาในรูปแบบก่อนการจำหน่ายจริง (Prerelease) อย่าง Windows รหัสพัฒนา 4501 หรือที่รู้จักกันในนาม “Longhorn” ซึ่งสามารถติดตั้งและเล่นได้ บนเครื่องพีซีที่ใช้สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์แบบ x86, x64 และ IA-64

หลังจากนั้น มีความพยายามอีกครั้งที่จะนำเกมดังกล่าวมาปัดฝุ่น โดยนำเกมพินบอลอวกาศนี้เข้ามาในโปรเจกต์ห้องทดลองของไมโครซอฟท์ อย่าง Microsoft Garage ในปี 2018 แต่แล้วเป็นอันต้องล้มเลิกไป เรย์มอนด์ เฉิน (Raymond Chen) พนักงานของไมโครซอฟท์ ณ ขณะนั้น ได้พยายามที่จะนำเกมพินบอลกลับเข้าสู่ Microsoft Garage หลายต่อหลายครั้ง ทำการทดลองหลายต่อหลายรูปแบบ และท้ายที่สุด ก็สามารถทำให้ตัวเกมดังกล่าว สามารถติดตั้งและเล่นได้จริงบนเครื่องพีซีที่ใช้สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์แบบ x86 ได้สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นว่าความสำเร็จที่ทำได้นั้นไม่มีวันเป็นจริง เมื่อไมโครซอฟท์ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือครองลิขสิทธิ์จากหน่วยงานทรัพย์สินทางปัญญา แล้วได้พบว่า ลิขสิทธิ์ของเกมพินบอลอวกาศนั้นเป็นของ Cinematronics (ซึ่งได้กล่าวไว้ในช่วงเริ่มต้น) ทางไมโครซอฟท์มองว่า ถ้าหากปล่อยให้เกมนี้ออกสู่ท้องตลาด หรือถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์เดิมเกิดนึกครึ้มอยากทำเวอร์ชันใหม่ออกมาวางจำหน่าย คงไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่แท้ จึงตัดสินใจเลือกระงับการวางจำหน่าย หรือการนำเกมมาลงในวินโดวส์เวอร์ชันถัด ๆ ไป

อีกหนึ่งกรณีก็คือ ตัวเกมพินบอลอวกาศนั้น สร้างขึ้นมาเพื่อสามารถเล่นได้บนระบบปฏิบัติการ Windows 95 และระบบปฏิบัติการวินโดวส์ตัวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และไม่สามารถทำแยกออกมาต่างหาก ต้องมาพร้อมกับวินโดส์เท่านั้น แน่นอนว่าตัวของโค้ดเกมที่มีการพัฒนาขึ้นมา ได้รับความคุ้มครองทางด้านลิขสิทธิ์ ห้ามให้มีการเผยแพร่โค้ดเหล่านั้นออกมา

กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง

เว็บไซต์ Groovy Post ลงบทความถึงเกมดังกล่าวเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2019

หลังจากความผิดพลาดในการพัฒนาเกมให้ลงในวินโดวส์วิสต้าจนเป็นการปิดตำนานเกมดังกล่าวไปในที่สุด จนถึงเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Groovy Post ได้นำเกม 3D Pinball for Windows – Space Cadet มาให้ได้ดาวน์โหลดและติดตั้งกันอีกครั้ง โดยอัปโหลดในรูปแบบของไฟล์ WinRAR Executable File คือไฟล์ที่บีบอัดและพร้อมกดติดตั้งภายในไม่กี่คลิก หลังจากที่ติดตั้งเสร็จ ก็สามารถเล่นได้เลย!

สามารถติดตั้งเกมดังกล่าวได้ในทุก ๆ เวอร์ชันของวินโดวส์ ตั้งแต่ Windows 7 มาจนถึง Windows 10 แม้แต่ Windows Vista ที่พรากเกมนี้ไป ยังสามารถติดตั้งและเล่นได้อีกด้วย

มีข้อสังเกตอย่างเดียวคือ ความละเอียดของตัวเกมนั้นอยู่ที่ 680 X 480 พิกเซล ซึ่งถือเป็นความละเอียดดั้งเดิมของเกมนี้ และเมื่อขยายให้เต็มหน้าจอ (โหมด Full Screen) สามารถขยายความละเอียดได้ถึง 1024 X 768 พิกเซล ทั้งนี้ ไม่สามารถปรับขนาดให้ใหญ่กว่านี้ได้ (ต้นฉบับที่เคยผลิตเป็นแบบไหน ปัจจุบันก็เป็นแบบนั้น…)

ขนาดของตัวเกม เมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน

ใครที่สนใจอยากระลึกความหลัง หรืออยากท้าทายเพื่อน ๆ ให้มาทำลายสถิติของเกมนี้ ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดกันได้ผ่านการคลิกที่ลิงก์นี้ได้เลย

ที่มา: Groovy Post

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส