22 ก.ย. 2565 – แกร็บมาร์ท ลุยตลาด Quick Commerce หลังเติบโตต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 ปี ระดมร้านค้าทั้งรายย่อย รายใหญ่ เข้าร่วมได้มากกว่า 15,000 ร้านค้าให้บริการใน 68 จังหวัดทั่วประเทศ มีสินค้ากว่า 180,000 รายการ โดยปีนี้เตรียมขยายร้านค้าให้มากขึ้นในพื้นที่จังหวัดรองที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า วิกฤติโควิด19 ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ตลาดนี้เติบโตต่อเนื่อง

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด-พันธมิตรทางธุรกิจ และธุรกิจแกร็บมาร์ท แกร็บประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2564 ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวมถึง 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 62% จากปีก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยสำคัญคือการระบาดของโรคโควิ ด19 ซึ่งรวมถึงตลาด Quick Commerce ที่แม้มูลค่าจะไม่เยอะ แต่ก็ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มของสดและของชำ (Online Grocery) ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าถึง หรือ ซื้อสินค้าประเภทนี้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพียง 2% เท่านั้น

สำหรับแกร็บมาร์ท เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน มีให้บริการ 7 ประ้ทศเอ้ชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และเมียนมาร์ โดยไทย คือ 1 ใน 3 ตลาดที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด19 กำลังระบาดหนัก มีร้านค้าเข้าร่วมกว่า 9,000 แห่ง ภายในปีเดียว

ทั้งนี้ปัจจุบัน แกร็บมาร์ทยังเติบโตต่อเนื่อง มีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้มีร้านค้าที่เป็นรายย่อย (โชว์ห่วย-ตลาดสด) สัดส่วนไม่ถึง 50% จึงตั้งเป้าเพิ่มให้เป็น 60% ภายในปีนี้ ส่วนสินค้าที่ขายในแกร็บมาร์ท ปัจจุบันมี 15 หมวดหมู่ มากกว่า 180,000 รายการ ดำเนินการอยู่ใน 68 จังหวัดของไทย

สำหรับพื้นที่ที่เติบโตมากที่สุดของไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และพัทยา ส่วนพื้นที่รองลงมาคือ อุบลราชธานี อุดรธานี เชียงราย และภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะเร่งพัฒนาตลาด ด้วยการเพิ่มจำนวนร้านค้าให้มากขึ้นในปีนี้ โดยกลุ่มลูกค้าแกร็บมาร์ท ส่วนมาก 54% อายุระหว่าง 25-34 ปี ส่วนมาก 64% แต่งงาน มีครอบครัว มีลูกแล้ว และ 65% เป็นพนักงานออฟฟิศ

แกร็บมาร์ทเร่งขยายฐานผู้ใช้บริการผ่านกลยุทธ์ “คุ้ม ครบ คูล”  

  1. คุ้ม (Affordability): นำเสนอความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้บริการผ่านการทำแคมเปญการตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรร้านค้าและสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ พร้อมมอบดีลส่วนลดต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือโมเมนต์พิเศษ รวมถึงส่วนลดขั้นกว่าจากแพ็กเกจสมาชิกรายเดือนหรือ GrabUnlimited 
  2. ครบ (Wide Selection): เพิ่มหมวดหมู่ของสินค้าให้ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ของสดของชำ สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป สินค้าด้านสุขภาพและความงาม สินค้าสำหรับแม่และเด็ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้สำนักงาน ไปจนถึงสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง 
  3. คูล (User Experience): พัฒนาเทคโนโลยี แอปพลิเคชัน ตลอดจนระบบการให้บริการและมาตรฐานการจัดส่งสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้บริการสามารถค้นหา เลือกซื้อ และสั่งสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อาทิ การใช้ระบบ AI ในการนำเสนอดีลส่วนลดจากร้านค้าในรัศมีของผู้ใช้บริการ การจัดอันดับร้านค้าในแอปพลิเคชันตามคะแนนความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ และ การจัดให้มีไอคอนในแกร็บมาร์ทสำหรับประเภทสินค้าตามเทศกาล 

ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแกร็บมาร์ท พบว่า 5 อันดับสินค้าขายดีในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้แก่ ไข่ไก่ , หมูสับ , มะนาว , แตงกวา และพวงมาลัย และมีบ่างช่วงที่ชุดตรวจ ATK ขายดีเป็นพิเศษ ซึ่งแกร็บมาร์ทได้จำหน่ายไปแล้วกว่า 1.2 ล้านชุด ส่วนเวลาส่งของเฉลี่ย 25 นาที เร็วกว่าใช้เวลาเดินทางด้วยตัวเอง และนับตั้งแต่เปิดให้บริการ แกร็บมาร์ทขายผลไม้ไปแล้ว มีน้ำหนักรวมกว่า 5 ล้านกิโลกรัม