มิจฉาชีพสามารถหาทางมาหลอกผู้เสียหายได้อยู่เรื่อย ๆ เลย ล่าสุดมิจฉาชีพแอบอ้างตัวเองเป็นร้านคอมพิวเตอร์ หลอกผู้เสียหายให้ดาวน์โหลดแอปแล้วดูดเงินไปกว่า 112,900 บาท

ผู้เสียหายจากจังหวัดปราจีนบุรีเล่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีมิจฉาชีพโทรเข้ามาทางเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขา อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากร้านคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง โทรเข้ามาบอกว่าผู้เสียหายไม่ได้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการนานแล้ว จึงได้แนะนำโปรโมชันแคมเปญต่าง ๆ หลอกให้ผู้เสียหายสั่งซื้อของ แต่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่อและวางสายไป

แต่ในวันที่ 23 มกราคม ผู้เสียหายก็ได้รับสายจากมิจฉาชีพในลักษณะเดิม และร้านค้าเดิม โดยเป็นผู้ชายแทน และได้ใช้วิธีการพูดที่ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้มิจฉาชีพหลอกแอดไลน์ของร้านค้าปลอมไปยังผู้เสียหาย รวมถึงได้หลอกให้ผู้เสียหายเข้าไปดูสินค้าบนเว็บไซต์ปลอมที่มิจฉาชีพทำขึ้น ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีหน้าตาเหมือนเว็บไซต์ร้านคอมพิวเตอร์แห่งนั้นอย่างมาก และได้หลอกขอชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และวันเกิดของผู้เสียหายมาด้วย

หลังจากที่หลอกให้ผู้เสียหายเข้าเว็บไซต์ได้สำเร็จ ก็ได้ก็ได้ใช้วิธีการโทรหาผ่านทางไลน์ เพื่อบอกให้ผู้เสียหายดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอมของร้านค้าที่อยู่บนเว็บไซต์แห่งนั้น โดยแอปที่มิจฉาชีพให้ดาวน์โหลดนั้นเป็นแอปแบบ APK (หรือไฟล์แอปฯของสมาร์ตโฟน Android) โดยตัวไอคอนและชื่อของแอปก็ทำเป็นเหมือนแอปของร้านค้าทุกประการ เมื่อลงเสร็จ ผู้เสียหายแจ้งว่าแอปเปิดตัวเองขึ้นมา และและมีข้อความระบุว่า”กำลังรอการตรวจสอบสิทธิ์ในการรับโค้ดส่วนลดห้ามใช้งานโทรศัพท์” และค้างอยู่หน้านี้ประมาณ 3-5 นาที (รวมถึงมีไอคอนการแคสต์ หรือส่งภาพหน้าจออยู่ด้านบนขวาด้วย) ระหว่างที่รอ มิจฉาชีพก็ได้หลอกล่อให้ไม่สนใจในหน้าจอไปด้วย และผู้เสียหายก็ได้ตั้งรหัสเข้าแอปธนาคารเป็นวันเกิดของผู้เสียหายพอดี

หลังจากที่อยู่ในหน้าแอปนั้นไปซักพัก มิจฉาชีพก็ได้ถามถึงรหัส OTP ที่ได้ส่งเข้ามาหาผู้เสียหาย และผู้เสียหายก็ได้บอกไป จากนั้นไม่นาน มิจฉาชีพก็ได้หลุดคำพูดมาเบา ๆ เป็นเลข 112,900 และบนสมาร์ตโฟนของผู้เสียหายก็ขึ้นแจ้งเตือนข้อความจากธนาคารเข้ามาเลยว่า มีรายการโอนเงินออกยอด 112,900 บาท วันที่ 23/01/2023 เมื่อเวลา 18.27 น. ที่ผ่านมา และเงินก็หายไปจากบัญชีธนาคารทั้งหมดทันที

หลังจากเกิดเรื่อง ผู้เสียหายได้ทำการแจ้งความทั้งที่สถานีตำรวจ และแบบออนไลน์ พร้อมปรึกษากับ Call Center ของธนาคารเพื่อพยายามนำเงินคืนมาให้ได้ และในปัจจุบัน ทางผู้เสียหายยังไม่สามารถนำเงินที่โอนออกไปแล้วคืนมาได้ และยังไม่ได้รับความคืนหน้าเกี่ยวกับการจับกุมมิจฉาชีพเหล่านี้แต่อย่างใด

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส