บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ประกาศความร่วมมือกับบริษัท แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์หรือ Grab เพื่อลงทุนในแกร็บ ประเทศไทยมูลค่า 200 ล้านเหรียญ (กว่า 6,500 ล้านบาท) โดยเป็นการเข้าถือหุ้นแบบไม่มีอำนาจควบคุมในสัดส่วนที่มีนัยยะสำคัญ และเป็นการลงทุนบริษัทในไทย ไม่ใช่ลงทุนไปที่ Grab ในต่างประเทศ

เราร่วมเป็นพันธมิตรกับแกร็บ เพื่อผสานความร่วมมือกันทั้งในด้านการให้บริการเดินทาง การส่งอาหารและสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต ลอจิสติกส์ และบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า พันธมิตร คู่ค้า และผู้เช่า ของทั้งกลุ่มเซ็นทรัลและแกร็บทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

การลงทุนครั้งนี้เสริม Super App ของ Grab ให้ชัดเจนขึ้น

หนึ่งในปลายทางที่ Grab ต้องการเป็นมาตลอดคือภาพของ Super App หรือแอปที่รวมหลายๆ อย่างที่คนเข้าด้วยกัน ซึ่งภาพนึ้เกิดชัดเจนใน WeChat ที่ให้บริการในประเทศจีน ที่นอกจากจะแชทไปมาระหว่างกันได้ ยังสามารถจับจ่ายซื้อของ หรือใช้บริการต่างๆ ใน WeChat เลย ไม่ต้องไปใช้บริการหลายๆ แอป ซึ่งในไทย แอปที่เริ่มมีภาพของ Super App คือ SCB Easy, K Plus ที่ขยายการให้บริการจากแอปธนาคารปกติ หรือ LINE ที่มีบริการเสริมมากขึ้นเรื่อยๆ จากการเป็นแอปแชทปกติ

ซึ่งเมื่อ Central เข้าไปลงทุนใน Grab ประเทศไทยแล้ว จะทำให้แอป Grab มีทางเลือกบริการให้ผู้ใช้มากขึ้น เช่นการนำร้านอาหารในเครือของ CRG (Central Restaurant Group) อย่าง เท็นยะ, คัทสียะ, ยาชิโนยะ, KFC, โอโตยะ เข้าไปให้บริการผ่าน Grab Food มากขึ้น หรือบริการสั่งและส่งสินค้าจากร้านค้าในเครือของเซ็นทรัล (Super Sport, Power Buy, Tops) ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้ามากขึ้น หรือมีบริการรถรับส่งจากห้างหรือโรงแรมในเครือเซ็นทรัลมากขึ้น ทำให้เดินทางง่ายขึ้น

การลงทุนครั้งนี้แสดงถึงพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับกลุ่มเซ็นทรัลแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในพันธสัญญาของแกร็บที่มีต่อประเทศไทย รวมถึงคนไทยทุกคน ในการสร้างโอกาสทางอาชีพและมอบความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศผ่านแพลตฟอร์มของเราแอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง แกร็บ

ญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และ ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย

ซึ่งคุณญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ก็พูดถึงประโยชน์ที่ร้านค้าและคนขับจะได้รับ ว่าเป็นการเพิ่มยอดขายและการเรียกใช้บริการให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้นไปด้วย ซึ่งเซ็นทรัลก็อยากให้แบรนด์ Central ที่อยู่กับคนไทยมานาน ได้ใกล้ชิดกับคนในยุคปัจจุบันมากขึ้นด้วย

อยากให้มองดีลนี้ว่าสนับสนุนเศรษฐกิจไทย ซึ่งการลงทุนต่างๆ รวมถึงการกสิกรไทยคือ Grab ไม่ใช่บริษัทต่างชาติ แต่เราเข้ามาช่วย และจะอยู่ในไทยอีกนาน ซึ่งที่ผ่านมา Grab ก็ทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐเยอะ เช่นการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องการแชร์ข้อมูลระหว่าง Central กับ Grab คงไม่สามารถแชร์ทุกอย่างได้หมด เพราะเป็นข้อตกลงการใช้งานทั้ง 2 องค์กรสัญญากับผู้ใช้ ซึ่งจะมีการใช้งานข้อมูลอย่างจำกัดเพื่อวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมเท่านั้นธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย