ถ้ายังจำกันได้ เราเคยนำเสนอข่าว Norton เข้าซื้อ Avast รวมเป็นอาณาจักร antivirus มูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาท! – #beartai ไปเมื่อปีก่อน โดนก่อนอื่นต้องขออธิบายอีกครั้ง

เริ่มจากฝ่าย NortonLifeLock ก่อน

เดิมที NortonLifeLock ชื่อว่า Norton อยู่ภายใต้บริษัท Symantec ซึ่งครอบคลุมกิจการโปรแกรมและเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ตั้งแต่ระดับผู้ใช้ตามบ้านจนไปถึงระดับองค์กร แต่ว่าในต้นปี 2563 ก็ขายธุรกิจระดับองค์กรในนาม Symantec ให้กับ Broadcom และตัว Norton ก็แยกตัวออกมาเป็นบริษัท NortonLifeLock บริษัทอเมริกันที่มุ่งตลาดโปรแกรมรักษาความปลอดภัยในระดับส่วนบุคคลหรือตามบ้าน แต่ว่าช่วงปลายปี 2563 ก็ประกาศเข้าซื้อ Avira ซึ่งมีกิจการครอบคลุมทั้งระดับผู้ใช้ตามบ้านจนไปถึงระดับองค์กร เพื่อต้องการกลับมาบุกตลาดองค์กรอีกครั้ง

มาดูฝ่าย Avast กันบ้าง

Avast เป็นบริษัทจากเช็กเกียที่เคยเป็น Antivirus ฟรียอดนิยมมาหลายปี โดยเน้นที่โปรแกรมและเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ตั้งแต่ระดับผู้ใช้ตามบ้านจนไปถึงระดับองค์กรขนาดเล็ก ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ AVG ที่มีทุกอย่างเหมือนกันเลยกระทั่ง Antivirus ฟรีก็มีเหมือนกัน แต่ในปี 2559 ทาง Avast ก็ได้เข้าซื้อ AVG แต่ก็ยังดำเนินกิจการแยกกันมา แต่เริ่มเห็นได้ชัดเจนว่าโปรแกรมจากทาง AVG และ Avast มี UX UI หน้าตาคล้ายกัน ราวกับว่าภายในอาจจะใช้ Engine/Code ร่วมกันด้วย

กลับมาที่ข่าว

หลังจากที่ NortonLifeLock ประกาศเข้าซื้อ Avast ไปเมื่อปี 2564 ล่าสุดทางอังกฤษโดยหน่วยงานด้านการแข่งขันและการตลาด (CMA) ก็ได้อนุมัติแล้ว เท่ากับว่าทาง NortonLifeLock มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยทาง CMA ได้ระบุว่าได้มีการสอบสวนเชิงลึกระยะที่ 1 ตั้งแต่ช่วง มีนาคม 2565 หลังจากมีข้อกังวลด้านการแข่งขัน

ในขณะที่การตัดสินใจระยะที่ 1 ของ CMA การวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติมของข้อตกลงพบว่าธุรกิจที่ควบรวมกิจการต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สำคัญ สิ่งนี้มาจาก McAfee ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของพวกเขา บวกกับรายอื่นๆ ที่ปัจจุบันมีตำแหน่งทางการตลาดที่เล็กกว่าในสหราชอาณาจักร

แต่หลังจากการสอบสวนระยะที่ 2 ที่มีรายละเอียดมากขึ้น CMA ได้สรุปชั่วคราวว่าข้อตกลงนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความกังวลด้านการแข่งขันในสหราชอาณาจักร และพบว่าคู่แข่งรายสำคัญจริง ๆ แล้วก็มี Windows Defender จากทาง Microsoft ที่ให้มาพร้อมกับ Windows ฟรีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นทางเลือกอันสำคัญของผู้บริโภค

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Microsoft ได้ปรับปรุง Windows Defender เพื่อให้มีการป้องกันที่ดีพอ ๆ กับผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตรายอื่น และมีแนวโน้มที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้ Microsoft ก้าวสู่เป็นคู่แข่งตลาดนี้เต็มตัวในอนาคต บนพื้นฐานนี้ CMA พิจารณาว่าธุรกิจที่ควบรวมกิจการจะยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่เพียงพอหลังจากข้อตกลงเสร็จสิ้น และได้ข้อสรุปชั่วคราวว่าการควบรวมกิจการจะไม่ทำให้เกิดความกังวลด้านการแข่งขัน

Kirstin Baker ประธานกลุ่มสอบสวน CMA กล่าวว่า:

CMA ยินดีรับคำตอบจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อภายในวันที่ 24 สิงหาคม สิ่งเหล่านี้จะได้รับการพิจารณาก่อน CMA ที่ออกรายงานขั้นสุดท้ายซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2565

ที่มา: CMA

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส