เครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายต่ออาชญากรรมทางการเงิน (FinCEN) ในสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา (USDT) เผยว่าในปี 2021 มีการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการจ่ายค่าไถ่ให้กับอาชญากรที่ใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ผ่านธนาคารของสหรัฐฯ รวมกันถึงเกือบ 1,200 ล้านเหรียญ (ราว 45,000 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าการจ่ายค่าไถ่ในปี 2021 ยังเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 188 เมื่อเทียบกับปี 2020 เหตุการณ์ถึงร้อยละ 75 เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 โดยผู้ก่อเหตุจำนวนมากมาจากรัสเซีย

FinCEN ชี้ว่าตัวเลขข้างต้นไม่ได้แปลว่ามีจำนวนการโจมตีมากขึ้นเสมอไป แต่อาจหมายถึงว่าการโจมตีในแต่ละครั้งทวีความรุนแรงมากขึ้นก็ได้

ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ใช้ในการวิเคราะห์นั้น FinCEN นำมาจากเอกสารคดีภายใต้กฎหมายรักษาความลับของธนาคาร (BSA) ตลอดทั้งปี 2021 ซึ่ง FinCEN ได้รับเอกสารบันทึกที่เกี่ยวกับมัลแวร์เรียกค่าไถ่มากถึง 1,489 ฉบับ

ฮิมาเมาลิ ดัส (Himamauli Das) รักษาการณ์ผู้อำนวยการ FinCEN ระบุว่ารายงานนี้เผยให้เห็นความสำคัญของการจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ BSA ซึ่งทำให้ FinCEN สามารถศึกษาแนวโน้มและรูปแบบภัยคุกคามดังกล่าว ให้นำไปสู่การร่วมมือในระดับรัฐบาลเพื่อปกป้องและต่อกรกับมัลแวร์เรียกค่าไถ่ได้

ที่มา TechRadar

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส